พญ.วินัดดา ปิยะศิลป์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
|
ปัญหาเด็กติดเกม พบได้บ่อยในครอบครัวไทยปัจจุบันนี้ พ่อแม่หลายคนลำบากใจที่จะบังคับให้ลูกเลิกเล่นเกม เด็กบางคนติดมากจนไม่สนใจการเรียน ผลการเรียนตกลงมากๆ หรือบางคนไม่ยอมไปโรงเรียน ใช้เวลาเล่นเกมที่บ้านทั้งวัน เวลาห้ามมากๆเด็กแอบหนีไปเล่นเกมที่ร้านเกมนอกบ้าน บางคนเลยซื้อเกมให้เด็กเล่นที่บ้าน เนื่องจากเกรงว่าเด็กจะไม่กลับบ้าน แต่กลับเป็นปัญหาต่อมาจากการเล่นเกมที่บ้านมากขึ้น แพทย์และบุคลากรทางแพทย์ได้รับคำถามหรือการปรึกษาปัญหาเด็กติดเกมมากขึ้น การช่วยเหลือเด็กติดเกมจึงเป็นความจำเป็นรีบด่วนระดับประเทศ และถ้าสามารถป้องกันปัญหานี้ได้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง |
วัตถุประสงค์ |
1. ป้องกันการติดเกมของเด็กและวัยรุ่น |
2. แก้ไขให้เด็กเลิกการเล่นเกมแบบ ติดเกม โดยเร็ว |
3. ป้องกันเด็กที่เลิกเล่นได้แล้ว มิให้กลับไปติดเกมอีก |
สภาพปัญหาการติดเกม |
ผลการสำรวจพ่อแม่ผู้ปกครองโดย NECTEC เมื่อ ปี 2000 พบว่าในครอบครัวไทย มีคอมพิวเตอร์ต่ออินเตอร์เนต 27% // มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีอินเตอร์เนต 23% // ไม่มีคอมพิวเตอร์ 50%
ในครอบครัวที่มีคอมพิวเตอร์ ร้อยละ 90 ของเด็กใช้งานเป็นประจำ และใช้ในกิจกรรมดังนี้ เล่นเกม ร้อยละ 31 * ทำการบ้านร้อยละ 20 ท่องเว็บเพื่อความสนุกสนานร้อยละ 13 ใช้ซอฟแวร์เพื่อการศึกษาร้อยละ 11 ค้นข้อมูลร้อยละ 3 **
การดูแลของผู้ปกครองนการใช้เน็ต ไม่ใกล้ชิดเวลาเด็กใช้เน็ตร้อยละ 45 ไม่รู้ว่าลูก พบเหตุการณ์ไม่เหมาะสม ร้อยละ 30 ไม่เคยคุยกับลูกเรื่องเน็ตร้อยละ 20 |
สรุปสภาพปัญหาในขณะนี้ |
1. เด็กและวัยรุ่นใช้คอมพิวเตอร์ในการเล่นเกมมาก ใช้ในการศึกษาน้อย |
2. พ่อแม่ไม่มีเวลาดูแลการใช้คอมพิวเตอร์ของลูก |
หลักสำคัญในการป้องกันหรือช่วยเหลือ
วิธีการป้องกันและแก้ไขเด็กติดเกม ทำได้ด้วยการใช้วิธีการต่างๆ ประกอบกัน ดังนี้ |
1) รู้ความสนใจของลูกตลอดเวลา |
พ่อแม่ควรสนใจติดตามพฤติกรรมของลูก ความสนใจกิจกรรมต่างๆ รวมถึงความสนใจเรื่องเกม ส่วนใหญ่เด็กจะเริ่มอยากเล่นตั้งแต่อายุ 6 ปีเป็นต้นไป และจะมากขึ้นเรื่อยๆจนถึงวัยรุ่นตอนปลาย ซึ่งเด็กยังขาดการควบคุมตนเอง เพื่อนมีอิทธิพลอย่างสูงที่จะเหนี่ยวนำให้สนใจ อยากรู้อยากเห็น อยากลอง เพื่อจะมีเรื่องสนุกสนานพูดคุยกัน |
2) รู้จักเกมที่เด็กเล่น |
เกมที่เด็กเล่นอาจมีหลายประเภท แตกต่างกันตามความสนใจ ความชอบความถนัด การพูดคุยเรื่องเกมกับลูกทำให้เข้าใจความชอบของเด็ก ถ้าได้เห็นตอนเด็กเล่นเกมจะสามารถแยกแยะประเภทของเกมได้ ดังนี้ |
ประเภท เกมที่เด็กเล่น แยกตามลักษณะเครื่องเล่น |
1. เกมคอมพิวเตอร์ ที่บ้าน ร้านเกม อินเตอร์เนต
2. เกมกด เกมเครื่อง มือถือ
3. ตู้เกม |
ชนิดของเกม แยกตามลักษณะเนื้อหาของเกม ได้แก่ |
1. เกมสนุก ไม่มีสาระ
2. เกมต่อสู้ มีการทำร้าย ทำลาย เช่น Raknarok
3. เกมยั่วยุทางเพศ มีเนื้อหาทางเพศกระตุ้น ยั่วยุให้เกิดความรู้สึกทางเพศ
4. เกมสร้างสรรค์ ความคิด จินตนาการ วางแผน เช่น The Sims
5. เกมวิชาการ ให้ความรู้
|
3) รู้สาเหตุที่เด็กชอบ เด็กชอบเกมเนื่องจาก |
1. เกมทำให้เด็กสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ ชวนติดตาม
2. เด็กรู้สึกทำอะไรสำเร็จ ทำได้
3. ได้แสดงออกเรื่องที่เก็บกด ก้าวร้าว เกมที่เป็นการต่อสู้ ทำร้ายร่างกายกันหรือทำลายล้าง
4. มีรางวัล แรงจูงใจเป็นแต้ม คะแนน มีรางวัลจากผลงานทันที ไม่ต้องรอผลนาน 5. ไม่ต้องใช้ทักษะสังคม ( ที่เด็กบางคนขาดทักษะสังคม ไม่กล้าแสดงออก กังวลใจ ไม่มั่นใจตนเองจึงมัก ไม่เข้าสังคม )
|
4) รู้สาเหตุที่เด็กติดเกม |
1. เด็กขาดการควบคุมตนเอง 2. พ่อแม่ไม่สนใจพฤติกรรมลูก ไม่มีเวลากำกับให้เด็กทำตามกติกา
3. ปล่อยให้เด็กมีอิสรเสรีมากเกินไป
4. ไม่มีการตกลงกติกากันก่อน
5. พ่อแม่ไม่ได้ช่วยให้เด็กมีกิจกรรมที่ดี และเหมาะสมกับจิตใจของเด็ก
6. เด็กมีปัญหาทางอารมณ์ ใช้เกมช่วยให้อาการดีขึ้นชั่วคราว
7. สิ่งแวดล้อม/เพื่อน/ครอบครัว/ชุมชน
|
5) การค้นหาเด็กติดเกม |
การค้นหาเด็กติดเกม ทำได้ด้วยการสังเกตพฤติกรรมเด็ก ที่บ้าน ที่โรงเรียน นอกบ้าน นอกโรงเรียน การสอบถามพฤติกรรมของผู้ใกล้ชิด การตอบแบบสอบถาม การสัมภาษณ์ การสังเกตพฤติกรรม ต่างๆ ต่อไปนี้
|
- การเล่นเกม มักใช้เวลามาก หมกมุ่น
- การใช้เงิน ใช้เงินไปกับการเล่นเกม หรือแอบหยิบเงินคนอื่น หาเงินทางอื่นเพื่อนำไปใช้กับเกม
- การใช้เวลาว่าง ไม่ใช้เวลาว่างกับกิจกรรมอื่น นอกจากเกม
- การเรียน ไม่สนใจการเรียน เรียนไม่รู้เรื่อง ขาดสมาธิในการเรียน คิดถึงเกมในเวลาเรียน ขาดเรียน หนีเรียน ไม่ทำการบ้าน ผลการเรียนตกลง
- ความรับผิดชอบส่วนตัว ไม่ทำงานที่ได้รับมอบหมาย หลบเลี่ยงงาน ไม่อยู่ในกติกาที่ ตกลงกันไว้ นอนดึก สลับเวลานอน การกินการนอนกิจวัตรต่างๆไม่เป็นเวลา
- ความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น ขาดความสนใจคนอื่น เก็บตัวอยู่กับเกม ไม่สนใจโลกภาย นอก |
ลักษณะของการติดเกม
|
- ใช้เวลาเล่นเกม เกิน 2 ชมต่อวัน
- รบกวนหน้าที่ การเรียน ขาดทักษะสังคม ขาดความสัมพันธ์ในบ้าน และกับเพื่อน นอกบ้าน
- หมกมุ่นจริงจัง
- ขาดไม่ได้ จะมีอาการรุนแรง อารมณ์เสีย
- บุคลิกภาพผิดไปจากเดิม
- ใช้เงินมาก แอบทำ โกหก ขโมยเงินไปเล่น
|
ปัญหาตามมา
|
- เสียการเรียน ขาดแรงจูงใจในการเรียน เรียนไม่สนุก
- ติดพฤติกรรม ก้าวร้าว คิดแบบเกม
- ขาดจินตนาการ สร้างสรรค์ คิดแต่ในกรอบ
- อาการเป็นมากขึ้น จนเป็นโรคติดเกม
|
6) การช่วยเหลือเมื่อเด็กติดเกมแล้ว |
การช่วยเหลือเด็กติดเกมทำได้ด้วยการสร้างพื้นฐานความสัมพันธ์ที่ดี แล้วตามด้วยวิธีการดังนี้ |
1. ตกลงกติกากันให้ชัดเจน พยายามให้ลด หรือเลิก ถ้าลด ให้จัดเวลากันใหม่ลดเวลา เล่นลงทีละน้อย
เช่น เดิมเล่นทุกวัน วันละ 3 ชั่วโมง ลดลงดังนี้ สัปดาห์แรก ให้เล่นวัน ละ 2 ชั่วโมง สัปดาห์ที่ 2 ให้เล่นวันละ 1 ชั่วโมง สัปดาห์ที่ 3 ให้เล่นเฉพาะ เสาร์- อาทิตย์ ไม่เกินวันละ 1 ชั่วโมง ถ้าเลิกเล่นเกมให้จัดกิจกรรมทดแทนเวลาที่เคยเล่น ทันที กิจกรรมควรสนุกก่อนให้เด็กเพลิดเพลิน เบนความสนใจไปจากเกม
2. การเอาจริงกับข้อตกลง ด้วยสีหน้า ท่าทาง
3. ตกลงทดลองปฏิบัติเป็นเวลาที่แน่นอน เช่น ทดลองปฏิบัติเป็นเวลา 1 เดือน แล้วกลับ มาประเมินผลร่วมกัน หาทางปรับเปลี่ยนแก้ไข
4. กำหนดทางปฏิบัติเมื่อเกิดปัญหาเช่น ถ้าลูกไม่ทำตาม แม่จะทำอะไรจะให้ช่วยอย่างไร 5. มีการบันทึกผลการช่วยเหลือ และนำมาพูดคุยกันเป็นระยะๆ ชมในเรื่องที่ได้ทำไป แล้วได้ผลดี ข้อใดยังทำไม่ได้ ให้กลับมาติดตามงาน
6. ประเมินผลเมื่อครบเวลาที่ตกลงกันไว้
7. ปรับกติกากันใหม่ถ้ามีปัญหาความร่วมมือ หรือทำไม่ได้
8. จูงใจให้อยากเลิกด้วยตนเอง
9. สร้างความสามารถในการควบคุม เสริมทักษะการควบคุมตนเอง
10.จัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ ไม่มีสิ่งกระตุ้นเรื่องเกม
11.จัดกิจกรรมให้ใช้เวลาที่เคยเล่นเกม เป็นกิจกรรมที่สนุกอย่างอื่น อย่าปล่อยให้ว่าง
|
7) การป้องกัน |
เด็กทุกคนมีโอกาสติดเกมได้ ป้องกันตั้งแต่เด็กเริ่มสนใจเกม การป้องกันสำคัญกว่าการรักษามาก ควรคิดเสมอว่าเด็กมีโอกาสติดเกมทุกคน การป้องกันเริ่มได้ตั้งแต่เด็กยังไม่ติดเกม อาจเริ่มได้ตั้งแต่ขวบปีที่ 2 ฝึกให้รู้จักกติกาต่างๆในชุมชน |
ทักษะพื้นฐาน เด็กควรฝึกทักษะเหล่านี้ตั้งแต่เด็กๆ |
1. การมีขอบเขต ตามอายุ เริ่มตั้งแต่เด็กเริ่มหัดเดิน
2.การมีระเบียบวินัย ไม่ตามใจเกินไป ควรมีกติกาชัดเจน พูดเรื่องกติกาตรงไปตรงมา และจริงจัง
3.ทักษะเตือนตัวเอง สำรวจตนเอง สติ
4.ทักษะการยั้งคิด ไตร่ตรอง
5.ทักษะการวางแผน และทำตามแผนการด้วยตัวเอง
6.ทักษะการแบ่งเวลา
7.ทักษะในการควบคุมตนเอง
|
ความสัมพันธ์ที่ดีพ่อแม่ลูก |
1.ความใกล้ชิดสนิทสนมทีดี จะช่วยให้เกิดการเชื่อฟัง การยอมรับกัน การมีเหตุผล
2.กิจกรรมภายในครอบครัว ที่มีความเพลิดเพลิน ความสุขใจ จะดึงเด็กไม่ให้ติดเกม |
การจัดระเบียบในบ้าน |
1. ก่อนซื้อเกม กำหนดกติกาพื้นฐาน ถ้าจะมีเกมในบ้าน ต้องกำหนดเวลา และเงื่อนไขในการเล่น เช่น เล่นได้หลังทำการบ้านเสร็จ เล่นเกมได้ตั้งแต่เวลา 17.00-19.00 น. (เวลาที่ใช้กับจอตู้ หรือจอโทรทัศน์ รวมกันแล้วไม่ควรเกิน 2 ชั่วโมง
2. อย่าเปิดโอกาสให้เด็กเล่นโดยขาดการควบคุม
3. เบนความสนใจเด็กไปสู่เรื่องอื่น สร้างวงจรชีวิตที่เป็นสุขหลายแบบ Balanced activities (art, music, aerobic exercise,) ที่ทำให้เพลิดเพลินแต่เหมาะสมเป็นที่ยอมรับ ทำให้สนุก ครอบครัวมีส่วนร่วม มีความสมดุลในพัฒนาการทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม
4. สร้างความสนใจไปสู่กิจกรรมที่ทำร่วมกับผู้อื่นที่ดี เช่น กลุ่มกิจกรรม ค่ายกลุ่มบำเพ็ญประโยชน์ ทัศนศึกษา กีฬา
5. ถ้าจะอนุญาตให้เล่น ควรจำกัดเวลาไม่เกิน 2 ชม( รวมทั้งเวลาดูโทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต) ฝึกให้ แบ่งเวลา วางแผนการใช้เวลาให้มีคุณภาพ และทำได้จริงตามที่วางแผนไว้
6. กำกับให้เด็กทำตามกติกา
7. ถ้ามีการละเมิดกติกา มีมาตรการจัดการอย่างจริงจัง แต่นุ่มนวล
8. มาตรการจริงจัง มีการคิดและวางแผนร่วมกันล่วงหน้าไว้แล้ว เช่น อยากให้พ่อเตือนก่อนหมดเวลาหรือไม่ ถ้าเตือนแล้วไม่สามารถหยุดตามเวลาได้ อยากให้พ่อทำอย่างไร แม่จะเตือนเพียงครั้งเดียวก่อนหมดเวลา 5 นาที หลังจากนั้นถ้าไม่หยุดตามเวลา พ่อจะถอดปลั๊กออก ถ้ามีการละเมิดเกินวันละ 1 ครั้ง(หรือสัปดาห์ละ3 ครั้ง) จะให้พ่อแม่ทำอย่างไร เป็นอันว่าถ้าเกินเวลาที่ตกลงกันใน 1 สัปดาห์ แม่จะงดการเล่นเกมเป็นเวลา 1 สัปดาห์ |
ลักษณะพ่อแม่ที่มีลูกติดเกม |
พ่อแม่ควรทบทวนตัวเองว่าลักษณะต่างๆต่อไปนี้ มีบ้างหรือไม่ ถ้ามีการแก้ไขจะช่วยป้องกัน และรักษาเด็กติดเกมได้ผล ลักษณะพ่อแม่ที่มีลูกติดเกม ที่พบบ่อยคือ ใจอ่อน ตามใจ ไม่มีเวลา ขาดอำนาจส่วนตัว
|
ลักษณะเด็กที่จะติดเกมง่าย |
เด็กที่มีลักษณะต่อไปนี้ ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษ มีโอกาสติดเกมได้ง่าย หรือถ้าเริ่มเล่นเกมต้องคอยควบคุมอย่างใกล้ชิด
1.กลุ่มที่มีปัญหาการเรียน เช่น โรคสมาธิสั้น ภาวะบกพร่องในทักษะการเรียน (LD)
2.มีปัญหากับเพื่อน ขาดทักษะสังคม
3.ปัญหาอารมณ์ เหงา เครียด ซึมเศร้า
4.ขาดการยับยั้งใจตนเอง
5.รอคอยไม่ได้
6.ขาดความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง
|
8) ปัจจัยส่งเสริมความสำเร็จในการแก้ปัญหาการติดเกม |
พ่อแม่ผู้ใหญ่ตรงกัน เป็นทีม เสริมกัน
มองในแง่ดี
ชมเชยข้อดี ความสำเร็จ
desensitization มีกิจกรรมเสริม ทดแทน ให้สนุกสนาน อย่าห้ามเฉยๆ
คอยกำกับให้เป็นไปตามที่ตกลง เอาจริง สม่ำเสมอ ไม่รุนแรง เอาจริง อย่างนุ่มนวล
มีวิธีเตือนดีๆ มองในแง่ดี ตกลงวิธีเตือน |
9) ปัจจัยรบกวนความสำเร็จ |
เตือนบ่อยๆ
บ่น ดุ ว่า เท้าความ
ปล่อย ไม่สนใจ ไม่มีเวลา
หงุดหงิด อารมณ์เสียใส่กัน
พ่อแม่แตกคอกัน ขัดแย้งกัน ยอมเด็กไม่เท่ากัน |
หมายเหตุ |
คณะรัฐมนตรีต้องมีมติเมื่อวันที่ 23 พ.ย.2547 เพื่อล้อมคอกปัญหาไม่ให้ลุกลามจนสายเกินแก้ ด้วยการ ออกมาตรการควบคุมเกมออนไลน์ 4 ข้อ ตามข้อเสนอของกระทรวงไอซีที คือ
1. จำกัดชั่วโมงการเล่นเกมออนไลน์ของเยาวชน ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ให้เล่นได้วันละไม่ เกิน 3 ชั่วโมง
2. ห้ามเล่นการพนัน ชิงโชค หรือซื้อขายอุปกรณ์ในเกมออนไลน์
3. ออกระเบียบเกี่ยวกับการจดทะเบียนร้านอินเตอร์เน็ต เพื่อกำกับดูแลการให้บริการ อินเตอร์เน็ต และ
4. รณรงค์ให้เยาวชนและผู้ปกครองทราบ โทษของการเล่นเกมออนไลน์ติดต่อกันเป็น เวลานาน
|
กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการออกกฎกระทรวง โดยอาศัย พ.ร.บ.ควบคุมกิจการเทปและวัสดุ โทรทัศน์ พ.ศ. 2530 ให้ รมว.มหาดไทย แต่งตั้งข้าราชการกระทรวงไอซีที ในการควบคุมร้านอินเตอร์เน็ตและเกมออนไลน์ หมายความว่าหลังจากนี้ไปร้านอินเตอร์เน็ต คาเฟ่ 5,670 ร้าน ทั่วประเทศ ต้องจดทะเบียน ไม่เช่นนั้นถือว่าทำผิดกฎหมาย หรือหากใครทำผิดมาตรการ ควบคุมทั้ง 4 ข้อ ทางกระทรวงไอซีทีสั่งปิดได้ทันที
ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุข ก็จัดตั้ง ศูนย์บำบัดเด็กติดเกม ขึ้นที่สถาบันสุขภาพจิตเด็ก และวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต โดยให้บริการคลินิกพิเศษ สำหรับผู้ปกครอง ที่มีปัญหาเด็กติดเกม เพื่อแก้ไขปัญหา พร้อมหาแนวทางเพื่อ พัฒนาศักยภาพ ของครอบครัว |
กิจกรรมของศูนย์บำบัดฯนี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.47 เป็นการอบรมเทคนิคการดูแลเด็กติดเกม เบื้องต้น สำหรับผู้ปกครอง ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. 2548 เป็นการเข้ากลุ่มบำบัดเด็กติดเกม วันที่ 29-30 ม.ค. 2548 เป็นค่ายบำบัดเด็กติดเกมครั้งที่ 1 และวันที่ 18 ก.พ. 2548 เป็นค่ายบำบัดเด็กติดเกมครั้งที่ 2 ซึ่งการบำบัดด้วยการเข้าค่ายอบรมร่วมกันระหว่างเด็กและผู้ปกครองนี้ เป้าหมายเพื่อนำไปสู่ ทางออกที่แท้จริง หากใครสนใจนำบุตรหลานร่วมการบำบัด โทร.0-2354-8305 ต่อ 104 หรือรับคำปรึกษาได้ที่สายฮอตไลน์ โทร.0-2354-8300 |
กระทรวงวัฒนธรรม เตรียมจัดตั้ง สำนักเฝ้าระวังวัฒนธรรม ซึ่งเป็นไปตามมติ ครม. ที่ให้กระทรวงวัฒนธรรม รับโอนภารกิจกองทะเบียนของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงมหาดไทย ใน พ.ร.บ.ควบคุมกิจการเทปและ วัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. 2530 และ พ.ร.บ.ภาพยนตร์ พ.ศ. 2473 โดยจะมีสถานะเทียบเท่ากรม เพื่อดูแลการผลิตสื่อที่ไม่เหมาะสม มีความรุนแรง ซึ่งจะรวมไปถึงตัวเกมจากเครื่องเล่นเกมชนิดต่างๆด้วย |
|
|