Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 19/06/2560 ]
"ไอโอดีน"สารอาหารที่ขาดไม่ได้

  แม้ในแต่ละวันร่างกายคนเรามีความต้องการสารไอโอดีนในปริมาณไม่มาก แต่แร่ธาตุชนิดนี้กลับเป็นสารอาหารชนิดหนึ่ง ที่มีความจำเป็นต่อร่างกายตั้งแต่เกิดจวบจนวันสุดท้ายของชีวิต ขณะเดียวกันในปัจจุบันโรคร้ายที่เกิดจากขาดสารไอโอดีนยังปรากฏให้เห็นอยู่ไม่น้อย ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจึงกำหนดให้วันที่ 25 มิ.ย. ที่ใกล้จะถึงนี้เป็น "วันไอโอดีน แห่งชาติ" โดยมีจุดมุ่งหมายในประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชนในการขจัดปัญหาขาดไอโอดีนให้หมดไปอย่างแท้จริง
          ไอโอดีน คือแร่ธาตุที่เกิดขึ้นเองในธรรมชาติ พบได้ในดินที่ราบลุ่ม ปากแม่น้ำ และได้ในสัตว์ทะเล เช่น ปลา กุ้ง หอย ปู และสาหร่ายทะเล ดังนั้น วิธีหลักในการรับไอโอดีนเข้าสู่ร่างกายอย่างได้ผลคือ การรับประทานอาหารทะเล รวมถึงไข่ไก่ นมสด และขนมปังบางชนิดที่มีสารไอโอดีน วันหนึ่งๆ แม้ร่างกายต้องการไอโอดีนเพียง 0.1 มิลลิกรัม แต่สารชนิดนี้ก็จำเป็นอย่างยิ่งต่อร่างกาย เพราะทำหน้าที่มากมาย เช่น ช่วยในการเจริญเติบโตของต่อมไทรอยด์ และเป็นส่วนประกอบของฮอร์โมนไทรอกซิน ผลิตโดยต่อมไทรอยด์ ซึ่งทำหน้าที่ ควบคุมอัตราเมแทบอลิซึมของร่างกาย ช่วยให้การดูดซึมอาหารทำงานอย่างเป็นปกติ นอกจากนี้ ยังมีผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อสภาพจิตใจ สภาพของผม ผิวหนัง เล็บ และ ฟัน ของร่างกาย การเปลี่ยนของแคโรทีนเป็นวิตามินเอ การสังเคราะห์ โปรตีน โดย ไรโบโซม และการดูดซึมน้ำตาลจากลำไส้เล็กทั้งหมดนี้จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น
          ในทางตรงกันข้าม หากไม่ได้รับสารอาหารชนิดนี้เพียงพออาจก่อให้เกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับต่อมไทรอยต์ เช่น โรคคอพอก และหากร่างกายขาดไอโอดีนเป็นระยะเวลานานอาจทำให้ไทรอยด์ฮอร์โมนทำงานผิดปกติ ก่อให้เกิดการผิดปกติของร่างกาย เช่น อ้วนฉุ เชื่องช้า หัวใจเต้นผิดปกติ บวมเท้า ฯลฯ ยิ่งไปกว่านั้น การขาดไอโอดีนจะแสดงผลร้ายที่สุดในกลุ่มทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เพราะทำให้เด็กบางรายคลอดออกมาพิการแต่กำเนิด คือ หูหนวก ขาแข็ง กระตุก ตาเหล่ รูปร่างแคระแกร็น และสติปัญญาเสื่อมจนถึงปัญญาอ่อน ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองจึงต้องตระหนักอยู่ เสมอว่า ไอโอดีนมีความสำคัญต่อการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในสัปดาห์แรกของการ ตั้งครรภ์จนถึงอายุ 2 ขวบ เด็กจะมีพัฒนาการทางสมองถึงร้อยละ 80 ที่สำคัญช่วงก่อนระยะ 12 สัปดาห์ ทารกในครรภ์ต้องการสารไอโอดีนจากมารดาในการเพิ่มจำนวนและขนาดเซลล์สมอง และต้องการสารนี้เพื่อช่วยในการสร้างโครงข่ายใยประสาทต่อเชื่อมถึงกัน การสร้างปลอกหุ้มเซลล์ใยประสาท ซึ่งจะเกิดต่อเนื่องไปจนถึงระยะ 2 ขวบ ด้วยเหตุนี้ แม่ที่กำลัง ตั้งครรภ์และให้นมลูกควรรับประทานอาหารที่ให้ไอโอดีนเป็น 2 เท่าของคนทั่วไป คิดเป็นปริมาณราวๆ 2.9 มิลลิกรัม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดความ ผิดปกติของทารกในครรภ์
          ในปัจจุบันการรับประทานเพื่อรับสารอาหารที่ต้องการไม่ใช่เรื่อง ยากเย็นเช่นในอดีต เนื่องจากปัจจุบันผลิตภัณฑ์อาหารที่ได้มาตรฐาน ซึ่งวางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดของไทย ส่วนใหญ่มี "ฉลากโภชนาการ" ที่แสดงข้อมูลทางโภชนาการของอาหารชนิดนั้นๆ กำกับไว้ เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกบริโภคตามความเหมาะสม และความต้องการทางสภาวะโภชนาการของตนเองได้ สำหรับครอบครัวที่ไม่นิยมบริโภคอาหารสำเร็จรูป กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ก็แนะนำให้รับประทาน แกงเหลือง ปลากะพง 1 ถ้วย ได้ไอโอดีนประมาณ 0.5 มิลลิกรัม ใครที่ไม่ทานอาหารทะเล ก็มีไข่ต้ม 1 ฟอง ได้ไอโอดีนประมาณ 0.50 มิลลิกรัม แซนวิซทูน่า 1 ชิ้น กับนมสดพร่องมันเนย 1 แก้ว ได้ไอโอดีนประมาณ 0.46 มิลลิกรัม แกงจืดใส่สาหร่ายทะเล ได้ไอโอดีนประมาณ 0.75 มิลลิกรัม เหล่านี้ล้วนเป็นอาหารที่ซื้อหาได้ง่าย สามารถนำไปเป็นเมนูเพื่อเพิ่มไอโอดีนบำรุงเด็กในครรภ์ได้เป็นอย่างดี
          ทั้งนี้ก็เพราะร่างกายมนุษย์ไม่สามารถสะสมไอโอดีนเอาไว้ใช้งานได้ ท้ายที่สุดพึงระลึกอยู่เสมอว่า "ความสม่ำเสมอ" คือสิ่งสำคัญที่สุดในการเสริมสร้าง "ไอโอดีน" เพื่อป้องกันโรคร้าย

 pageview  1205099    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved