ยิ่งใกล้วันพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ช่วงเวลานี้ประชาชนจะกลับมามีความรู้สึกโศกเศร้า คิดถึง ระลึกถึงเพิ่มมากขึ้นได้
          น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้ข้อมูลว่า อาการดังกล่าวถือเป็นปฏิกิริยาปกติทางจิตใจที่เกิดขึ้นได้ในผู้ที่มีความรู้สึกสูญเสีย แต่อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นและหมดไป ทั้งนี้ขอให้ยึดหลัก 3 ส. สอดส่องมองหา ใส่ใจรับฟัง ส่งต่อเชื่อมโยง โดยหมั่นสังเกตจิตใจของตนเองและบุคคลใกล้ชิด ปลอบโยน รับฟัง ให้กำลังใจกันและกัน หากมีอาการวูบวาบ หายใจไม่อิ่ม ใจสั่น หรือเป็นมากถึงขั้นนอนไม่หลับ จนทำงานไม่ได้ ถือว่ามีความผิดปกติ ควรได้รับการช่วยเหลือทางจิตใจ ขอให้ไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน  หรือโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323
          ทั้งนี้ สามารถเตรียมความพร้อมทั้งกายและใจได้โดย 1.แสดงความรู้สึกของตนเองได้เต็มที่ผ่านพิธีกรรมทั้งของรัฐ ทุกศาสนา และชุมชน เช่น มีส่วนร่วมในพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ร่วมกิจกรรมไว้อาลัย สวดมนต์ และทำพิธีกรรมของแต่ละศาสนารวมทั้งการเขียนความรู้สึก เล่าเรื่องความประทับใจที่มีต่อพระราชกรณียกิจของในหลวง 2.มีส่วนร่วมในการทำสิ่งที่ดีงามให้กับพระองค์ ตั้งใจ ตั้งสติ หมั่นทำกิจกรรมที่เป็นสาธารณกุศล เช่น เป็นจิตอาสาช่วยในด้านต่างๆ ทำดอกไม้จันทน์ ร่วมทำบุญบริจาคหรือกิจกรรมอื่นๆ 3.ใช้เวลาว่างทำกิจกรรมกับครอบครัวให้เป็นประโยชน์ ไม่อยู่คนเดียว ช่วยกันดูแลคนใกล้ชิด ปลอบโยน ให้กำลังใจ 4.ร่วมกันสืบทอดปณิธานของในหลวง เช่น แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง การบริหารจัดการน้ำ โครงการในพระราชดำริต่างๆ 5.ติดตามข่าวสารจากทางราชการเป็น ระยะๆ โดยเฉพาะพระราชกรณียกิจของพระองค์ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ เกิดความภาคภูมิใจแก่ตนเองและครอบครัว และ 6.หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ
          หากมีความทุกข์ใจ มีอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตหรือการดำเนินชีวิต ขอให้มองไปที่รูปของพระองค์ เสมือนพระองค์ยังคอยเป็นกำลังใจให้ประชาชนชาวไทยได้ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ให้พร้อมต่อสู้สำหรับการดำเนินชีวิตต่อไป