Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 16/11/2560 ]
กรมอนามัย ดึงเครือข่าย ยกระดับชีวิตเด็กถิ่นกันดาร ส่งเสริมสุขภาพตั้งแต่ในครรภ์

 เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานเปิดงานสัมมนาเรื่อง แนวทางการดำเนินงานการพัฒนาสุขภาพเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ภายใต้โครงการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัยเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร (กพด.) ปีงบประมาณ 2561 ตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามแนวพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ฉบับที่ 5 (พ.ศ.2560-2569) โดยการสัมมนาครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมสัมมนา ประกอบด้วย ผู้ปฏิบัติงานโครงการตามพระราชดำริในพื้นที่เป้าหมายจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด 50 จังหวัด เลขานุการคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) 134 อำเภอ ต้นสังกัดโรงเรียน อาทิ ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) หน่วยงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมควบคุมโรค และกรมอนามัย เพื่อร่วมกันเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจสาระสำคัญของแผนฯ ให้ชัดเจนตรงกัน ให้การขับเคลื่อนการพัฒนาไปในทิศทางเดียวกันอย่างมีประสิทธิภาพ
          นพ.วชิระเปิดเผยว่า ผลการสำรวจภาวะสุขภาพเด็กและเยาวชนในพื้นที่ในศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขาแม่ฟ้าหลวง ปี 2558 พบว่าเด็กแรกเกิดถึงอายุ 5 ปี น้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ร้อยละ 25 เตี้ยร้อยละ 38 ผอมร้อยละ 14 พัฒนาการเด็กสมวัยร้อยละ 48 ฟันผุ ร้อยละ 26 อายุ 6-14 ปี เตี้ยร้อยละ 28 ฟันผุร้อยละ 35 มีส้วมใช้ร้อยละ 51 ไม่มีส้วมใช้ร้อยละ 80 ขณะที่ผลการสำรวจภาวะสุขภาพนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ปี 2560 พบว่าเด็กประถมเตี้ยร้อยละ 11 สูงสมส่วนร้อยละ 61 ฟันผุร้อยละ 30 น้ำดื่มไม่เพียงพอร้อยละ 20 ไม่ได้ปรับปรุงคุณภาพน้ำร้อยละ 8 ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานร้อยละ 72 ส้วมมีกลิ่นเหม็นร้อยละ 43 ไม่สะอาดร้อยละ 20 นอกจากนี้ ยังพบหนอนพยาธิร้อยละ 7.5 เป็นพยาธิไส้เดือนร้อยละ 60 พบเชื้อโรคไข้มาลาเรียในนักเรียน 39 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 0.31 ต่อพันประชากร มีอัตราพบเชื้อร้อยละ 0.13 ในโรงเรียนพระปริยัติธรรม พบว่า สามเณรอ้วนและเริ่มอ้วนกว่าร้อยละ 20 ส่วนคุณภาพน้ำบริโภคและสุขาภิบาลอาหารในโรงเรียนพระปริยัติธรรมและวัดที่สามเณรจำวัดมีปัญหาเนื่องจากขาดการดูแลระบบปรับปรุง ที่เหมาะสม ขาดความรู้ความเข้าใจและไม่ตระหนักถึงโรคที่เกิดจากน้ำเป็นสื่อ
          นพ.วชิระกล่าวต่อไปว่า จากปัญหาดังกล่าว กรมอนามัยจึงร่วมกับภาคีเครือข่ายในการแก้ไขปัญหาโดยจัดทำแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ระยะ 10 ปี นอกจากนี้ ได้ร่วมกับกรมควบคุมโรค และหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่เป้าหมายดำเนินโครงการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัยแม่และเด็กในถิ่นทุรกันดารตั้งแต่ปี 2539 ซึ่งเป็นช่วงเวลาของแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ฉบับที่ 1 ที่จัดทำขึ้นครั้งแรก ในปี 2534 และดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องจนสิ้นสุดแผนฯ ฉบับที่ 4 ปี 2559 แม้ว่าเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารมีปัญหาสุขภาพลดลงตามลำดับ แต่ด้วยสภาพพื้นที่ที่ห่างไกลจากสถานบริการสาธารณสุข เข้าถึงได้ยากลำบาก ในหลายพื้นจึงยังมีปัญหาสุขภาพ
          "แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 5 นี้ จึงเป็นการสานต่อการดำเนินงานที่ผ่านมา มีแนวทางการพัฒนาคือ เสริมสร้างสุขภาพของเด็กตั้งแต่ในครรภ์มารดา โดยหญิงตั้งครรภ์ มารดาหลังคลอด และทารกหลังคลอดได้รับบริการที่มีคุณภาพ เด็กปฐมวัยทุกช่วงอายุได้รับการส่งเสริมด้านโภชนาการและมีพัฒนาการตามวัย เด็กและเยาวชนมีน้ำหนักและส่วนสูงตามเกณฑ์มาตรฐานเพิ่มขึ้นและมีพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสม ขยายการพัฒนาสู่ชุมชนโดยให้เด็กและเยาวชนและสมาชิก ในครอบครัวมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพและร่วมกันพัฒนาสภาพแวดล้อมของบ้านและชุมชนให้ถูกสุขลักษณะ และพัฒนาสถานศึกษาเป็นศูนย์บริการความรู้ โดยจัดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการพัฒนาเด็กและเยาวชนอย่างกว้างขวางทั้งในระดับภาค ระดับประเทศ และนานาชาติ" นพ.วชิระกล่าว

 pageview  1204471    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved