รัฐบาลแจกเสื้อดำ 8 ล้านตัวให้ผู้มีรายได้น้อย ลงทะเบียน-รับแจกที่แบงก์รัฐ 'สมคิด'หารือกลุ่มผู้ผลิตผ้า เร่งระบายสต๊อกหวั่นขาดตลาด จัดโครงการนำชุดดำขายราคาพิเศษทั่วประเทศ สั่งคุมราคาเสื้อดำคอกลมตัวละ 89 บาท เสื้อโปโล 179 บาท เสื้อเชิ้ต 239 บาท ขณะที่ก.แรงงาน ทำริบบิ้นดำแจก 9,999,999 ชิ้น แก้ปัญหาข้อ ติดขัดแต่งไว้ทุกข์ กรมธนารักษ์ทำเหรียญที่ระลึกงานพระบรมศพ 4 ประเภท ส่วนกศน.สอนย้อมผ้าดำ-ทำริบบิ้น กสท.ให้ทีวีถ่ายบอลได้-ละคร ต้องสำรวม
          แจกเสื้อดำ 8 ล้านตัวที่แบงก์รัฐ
          เมื่อวันที่ 17 ต.ค. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กล่าวภายหลังหารือร่วมกับกลุ่มผู้ผลิตผ้าผืน ผ้าย้อม เครื่องนุ่งห่มและผู้ประกอบการค้าปลีก ถึงสถานการณ์ความต้องการชุดดำในช่วงแสดงความไว้อาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดการขาดแคลน แต่เป็นระยะสั้น จึงขอความร่วมมือไปยังผู้ผลิตให้เร่งระบายสต๊อกและได้รับการยืนยันว่ามีสินค้าอยู่ในสต๊อกมากถึง 5 เท่าของกำลังการผลิตปกติ และจะระบายออกสู่ตลาดได้ทันช่วงสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ภาคเอกชนยังจะร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ จัดโครงการ 'เทใจ ถวายอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช' ในช่วงวันศุกร์อาทิตย์นี้ เพื่อนำเสื้อชุดดำมาจำหน่ายในราคาพิเศษทั่วประเทศ และระหว่างนี้จะจัดทำริบบิ้นสีดำแจกจ่ายฟรีให้ด้วย
          ด้านนายถาวร กนกวลีวงศ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย กล่าวว่า สาเหตุที่ชุดดำขาดแคลน เนื่องจากติดเรื่องโลจิสติกส์ช่วงหยุดเสาร์-อาทิตย์ โดยพบมีความต้องการเพิ่มขึ้น 5-10 เท่า ดังนั้นสัปดาห์นี้จะเร่งทยอยระบายล็อตเดิม ออกมาและเร่งผลิตล็อตใหม่ ยืนยันจะตรึงราคาไว้เท่าเดิม อีกทั้งเตรียมผลิตชุดดำร่วมโครงการขายในราคาพิเศษให้ทันวันศุกร์นี้ด้วย
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาจำหน่ายปลีกในห้างค้าปลีกขณะนี้ยังคงตรึงไว้เท่าเดิม โดยเนื้อผ้าตามมาตรฐานทั่วไป เสื้อคอกลมราคาขั้นต่ำตัวละ 89 บาท เสื้อคอโปโล 179 บาท และเสื้อเชิ้ตราคาขั้นต่ำตัวละ 239 บาท
          ขณะที่นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวง การคลัง เปิดเผยว่า ได้หารือกับธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ให้ผลิตเสื้อยืดสีดำคอกลมฟรีไซซ์ให้ผู้มาลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย 8 ล้านคน เพื่อสวมใส่ ไว้ทุกข์ โดยแบงก์รัฐจะรับผิดชอบแจกเสื้อให้ผู้มาลงทะเบียนไว้กับแบงก์นั้น เพื่อให้ผู้มีรายได้มีเสื้อดำสวมใส่ไว้ทุกข์ตลอดทั้งปี ซึ่งเสื้อยืดสีดำคอกลมราคาอยู่ที่ประมาณตัวละ 50 บาท เป็นเงินที่แบงก์รัฐต้องจ่าย 400 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายของผู้มีรายได้น้อยและเป็นนโยบายรัฐบาล
          ทำเหรียญที่ระลึกพิธีพระบรมศพ
          ส่วนนายจักรกฤศฎิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์เตรียมผลิตเหรียญที่ระลึกงานพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวในพระบรมโกศ แบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ทองคำ เงิน, ทองแดง ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เบื้องต้นกำหนดราคาเหรียญที่ระลึกสูงสุดเหรียญละ 50,000 บาท และราคาต่ำสุดเหรียญละ 100 บาท เพื่อให้ประชาชนเก็บไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งขณะนี้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษารูปแบบและระยะเวลาการเปิดให้ประชาชนจองและรับแลก ก่อน เสนอให้ครม.และสำนักพระราชวังพิจารณา โดยปกติกระบวนการผลิตจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี
          นายจักรกฤศฎิ์กล่าวอีกว่า ขณะนี้พบประชาชนจำนวนมากเริ่มสะสมเหรียญที่ระลึก โดยมีประ ชาชนมาแลกเป็นจำนวนมากตั้งแต่เช้าวันที่ 17 ต.ค. รวมถึงเก็บเหรียญกษาปณ์ที่ใช้จ่ายหมุนเวียนไว้เป็นที่ระลึกบ้างแล้ว โดยเตรียมแผนการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการ ขณะที่การปรับเปลี่ยนหน้าเหรียญกษาปณ์ใหม่นั้น ต้องรอกระบวนการและความชัดเจน โดยธนารักษ์เตรียมพร้อมไว้แล้ว แต่ตามหลักการต้องรอโปรดเกล้าฯในการผลิตเหรียญกษาปณ์แบบใหม่ก่อน ขณะที่เหรียญกษาปณ์ที่ ใช้หมุนเวียนในปัจจุบันยังใช้ควบคู่กันไป โดยจะไม่เรียกคืน แต่จะให้ใช้เหรียญกษาปณ์จนหมดอายุ ก่อนนำมาหลอมทำลาย
          ด้านนายบุญเชิด กิติธรางกูร รองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า ตามที่ มหาเถรสมาคมมีมติให้คณะสงฆ์และทุกวัดทั้งในและต่างประเทศ ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลตั้งแต่ วันที่ 14 ต.ค. โดยวัดที่เป็นศูนย์กลางประกอบพิธีในกทม.  มี 150 วัด อาทิ วัดปากน้ำภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ, วัดสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์, วัดบวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร, วัดสระเกศฯ เขตป้อมปราบ ศัตรูพ่าย ส่วนภูมิภาคอีก 96 วัด แบ่งเป็นหนใต้ 14 วัด อาทิ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรี ธรรมราช, วัดมงคลนิมิตร วัดท่าเรือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นต้น หนตะวันออก จำนวน 24 วัด อาทิ วัดหนองกุง อ.เมือง จ.ขอนแก่น, วัด โสธร จ.ฉะเชิงเทรา เป็นต้น หนกลาง จำนวน 22 วัด อาทิ วัดบัวขวัญ จ.นนทบุรี, วัดไร่ขิง จ.นครปฐม, วัดพระพุทธบาท จ.สระบุรี เป็นต้น หนเหนือ มีจำนวน 16 วัด อาทิ พุทธมณฑลจังหวัด เชียงราย วัดพระสิงห์ จ.เชียงราย, วัดพระธาตุแช่แห้ง จ.น่าน, วัดศรีโคมคำ จ.พะเยา เป็นต้น ทั้งนี้ดูรายละเอียดชื่อวัดที่ประกอบพิธีที่ เว็บไซต์ของพศ. www.onab.go.th
          ทำริบบิ้นดำแจก 9,999,999ชิ้น
          ขณะที่นายธีรพล ขุนเมือง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน มอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานจัดทำริบบิ้นแจกจ่ายให้ประชาชนที่มาร่วมแสดงความไว้อาลัยทั่วประเทศ เพื่อแก้ปัญหาและข้อติดขัดการแต่งกายไว้ทุกข์ที่ไม่สามารถหาเครื่องแต่งกายไว้ทุกข์ตามปกติได้ ซึ่งสามารถใช้ริบบิ้นดำติดบน เสื้อแทนการแต่งกายไว้ทุกข์ได้ เบื้องต้นจัดทำ 9,999,999 ชิ้น แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกในแต่ละจังหวัดให้สถาบันและศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน มอบริบบิ้นให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่ พร้อมแจกให้แก่ผู้มาติดต่อราชการ สำหรับส่วนกลางมอบให้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีแจกจ่ายประชาชนโดยทั่วไปตามที่เห็นสมควรด้วย
          ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สำนักงานกศน.สาธิตการสอนย้อมผ้าด้วยสีสังเคราะห์สีดำให้บริการย้อมผ้า และสอนทำริบบิ้นดำไว้อาลัย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเป็นวันแรก ช่วงเช้ามีประชาชนให้ความสนใจทยอยมาขอรับบริการไม่ขาดสาย
          นายสุรพงษ์ จำจด เลขาธิการกศน. กล่าวว่า เป็นวันแรกที่กศน.ทั่วประเทศเปิดให้บริการประชาชน ในการสอนย้อมผ้าด้วยสีสังเคราะห์สีดำให้บริการย้อมผ้า และสอนทำริบบิ้นดำไว้อาลัย เพื่อลดค่าใช้จ่ายอีกทาง
          กสท.ให้ถ่ายบอล-ละครที่สำรวมได้
          วันเดียวกัน พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานกสท. เปิดเผยว่าสำนักงานกสทช.ประชุมผู้ประกอบการโทรทัศน์และผู้ประกอบการวิทยุกระจายเสียง เพื่อชี้แจงแนวทางการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ในช่วงนี้ เพื่อความเข้าใจการเผยแพร่รายการแสดงถึงความรื่นเริงและความเหมาะสม โดยได้ข้อสรุปคือ 1.การถ่ายทอดรายการจากโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ให้สถานีโทรทัศน์และโทรทัศน์ออนไลน์เชื่อมโยงสัญญาณเมื่อปรากฏสัญลักษณ์โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย
          2.รูปแบบนำเสนอรายการช่วง 30 วัน เช่น ข่าวสารบ้านเมือง รายการพัฒนาประชาชนทุกเพศทุกวัย เป็นต้น ควรหาวิธีเผยแพร่ให้คนต่างชาติเข้าใจด้วย ส่วนรายการกีฬา รายการละคร รายการเพลง รายการเด็กหรือการโฆษณาให้กระทำได้ แต่การพากย์เสียงควรใช้น้ำเสียงและถ้อยคำสำรวม ขณะที่รายการกีฬามวยควรงดไปก่อน ถ่ายทอดสดแข่งขันฟุตบอลทำได้ ซึ่งรายการกีฬาที่ไม่รุนแรงและสนุกสนานจนเกินสมควรให้ออกอากาศได้ ส่วนละครหลังข่าวหากไม่ขัดแนวปฏิบัติก็ดำเนินการได้
          พ.อ.นทีกล่าวอีกว่า 3.พิธีกร ผู้ดำเนินรายการและบุคคลเข้าร่วมรายการควรแต่งกายโทนสีขาว-ดำ ห้ามลวดลายและใช้โทนสีดำมากกว่าสีขาว แต่งกายเรียบร้อยและให้สำรวม 4.ในช่วงตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป 30 วัน ขอให้ทุกคนรักษาบรรยากาศแสดงความไว้อาลัย 5.รายการเดินหน้าประเทศไทยยังคงดำเนินการต่อไป โดยการปรับผังให้เหมาะสม และ 6.ในโซเชี่ยลมีเดียที่อยู่ในการดำเนินการของสถานีวิทยุกระจายเสียง สถานีโทรทัศน์ ให้ใช้ข้อมูลข่าวสารที่เชื่อถือได้มานำเสนอ
          เปิดสักลายจงรักภักดีฟรี
          ส่วนบรรยากาศการแสดงความไว้อาลัยในต่างจังหวัด ที่จ.ชลบุรี กลุ่มวัยรุ่นชายหญิงกว่า 10 คน ยืนเต็มหน้าร้านสกรีน อาร์ต แทททู ย่านพัทยากลาง เพื่อรอรับบัตรคิวสักลายแสดงออกถึงความจงรักภักดีและแสดงความไว้อาลัยฟรี นายนพรัตน์ ณปลอด ช่างสักเผยว่าต้องการให้ประชาชนที่จงรักภักดีได้แสดงออก จึงเปิดให้สักลายที่แสดงออกถึงความจงรักภักดีและแสดงความไว้อาลัยฟรี อาทิ รูปธงชาติ รูปแผนที่และรูปเลข 9 แต่จะไม่สักลายพระพักตร์ ขณะที่ร้านครัวลุงทองข้าวแกงใต้ ต.หนองขาม อ.ศรีราชา น.ส.สรัญญา ทัฬหกิจ เจ้าของร้านเผยว่า เปิดให้มากินอาหารฟรีถึงวันที่ 31 ต.ค. เป็นอาหารหลากหลายชนิดวันละ 12 อย่าง เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
          ที่จ.ตราด น.ส.นันทกาญจน์ ไข่มุก เปิดทำริบบิ้นดำแจกฟรี บริเวณแผงขายหนังสือหน้าบริษัท เชิดชัยทัวร์ ต.บางพระ อ.เมืองตราด เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนมีรายได้น้อยร่วมติดไว้ทุกข์ โดยใช้เวลาไม่ถึง 1 ช.ม.ริบบิ้นดำถูกแจกจนหมดเกลี้ยง
          ที่จ.พระนครศรีอยุธยา น.ส.ศศิภา ตั้งกีรติ น.ส. ฐาณิฎา ตั้งกีรติ สองพี่น้องร่วมกันทำริบบิ้นดำ แจกให้ประชาชนฟรี เพื่อแสดงความไว้อาลัย บริเวณร้านจำหน่ายสินค้าอยุธยาพาวินเลี่ยน น.ส.ศศิภากล่าวว่าต้องการทำริบบิ้นดำแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่ขาดทุนทรัพย์ เพื่อร่วมแสดงความไว้อาลัยพ่อหลวง โดยมีประชาชนติดต่อขอรับกว่า 1 หมื่นชิ้นแล้ว
          ที่จ.สมุทรสาคร นายสมศักดิ์ ขวัญเมือง นายกเทศมนตรีเทศบาลนครอ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จัดมอบเสื้อสีดำให้ประชาชนร่วมลงนามไว้อาลัย เพื่อช่วยผู้มีรายได้น้อย
          ใส่กรอบพระบรมฉายาลักษณ์
          ที่จ.พิษณุโลก นางศรัญญา นุชกำแหง รอง ประธานชมรมแม่บ้านทหารบก กองพลทหารราบที่ 4 นำริบบิ้นดำแจกให้ประชาชนที่มากราบสักการะหลวงพ่อพุทธชินราช ภายในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ
          ที่จ.สุราษฎร์ธานี นายอวยชัย อินทร์นาค ผวจ.สุราษฎร์ธานี มีคำสั่งด่วนให้ระงับการจัดงานบันเทิงในรูปแบบงานฟูลมูนปาร์ตี้รวมเวลา 30 วัน ทำให้ต้องยกเลิกงานในคืนวันที่ 17 ต.ค. รวมถึงงานปาร์ตี้และงานรื่นเริง โดยที่ท่าเทียบเรือเร็วลมพระยา อ.เกาะสมุย มีนักท่องเที่ยวเดินทางออกจากเกาะพะงันมายังเกาะสมุย หลังทราบว่ายกเลิกงานฟูลมูนปาร์ตี้ แต่บางส่วนยังคงพักผ่อนกันตามปกติ ขณะที่ น.ส.ชาคริยา หนูขาว ได้นั่งทำริบบิ้นดำแจก ให้ชาวบ้านฟรี บริเวณศาลาท่าเรือสะพานนริศ เพื่อใช้ติดไว้อาลัย
          ที่จ.กระบี่ ผู้ประกอบการรถแท็กซี่มิเตอร์รวม 24 คัน เปิดให้บริการรับส่งผู้โดยสารและนักท่องเที่ยว ภายในท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่โดยไม่คิดค่าบริการ เป็นเวลา 1 วัน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยว
          ที่จ.ยะลา บรรยากาศตามร้านจำหน่ายกรอบรูปมีชาวบ้านมาสั่งซื้อและทำกรอบพระบรมฉายาลักษณ์เพิ่มขึ้น โดยนายสายัณห์ วัฒนธรรม เจ้าของร้านกรอบรูปในตลาด ตัวเมืองเบตง เผยว่า ช่วงนี้มีประชาชนนำพระบรมฉายาลักษณ์มาใส่กรอบรูปจำนวนมาก เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกและสักการะ ขณะที่ร้านหนังสือในพื้นที่มีชาวบ้านมาซื้อหนังสือ พิมพ์เก็บไว้จนขายเกลี้ยงแผง
          ที่จ.นราธิวาส ชาวบ้านต่างหาซื้อเสื้อดำมาสวมใส่ถวายไว้อาลัย จนร้านค้าในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาสต่างนำเสื้อดำมาขาย เพื่อรองรับลูกค้าซื้อใส่ไว้ทุกข์ตลอดทั้งปี จนบางแห่งเริ่มขาดตลาดแล้ว
          แห่ซื้อแสตมป์เก็บสะสม
          ที่จ.ขอนแก่น ชาวบ้านต่างมาแลกซื้อแสตมป์พระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อนำไปเก็บสะสมและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ โดยนายสุทิน สารนิพนธ์ หัวหน้าไปรษณีย์ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ชาวขอนแก่นให้ความสนใจซื้อแสตมป์พระบรมฉายาลักษณ์จำนวนมาก จนตอนนี้เหลือแค่ 2 ชุดเท่านั้น นอกจากนี้ประชาชนส่วนใหญ่ต่างนำพระบรมฉายาลักษณ์และปฏิทินไปใส่กรอบรูปเก็บไว้สักการะด้วย
          ที่จ.มหาสารคาม ชาวบ้านต่างหาซื้อหนังสือพิมพ์ตามแผงเป็นที่ระลึกจำนวนมาก ทำให้หนังสือพิมพ์ในพื้นที่ขาดตลาด
          ครอบครัวพระสหายสายบุรีอาลัย
          สำหรับความประทับใจของบรรดาบุคคลที่เคยถวายงานรับใช้และรับเสด็จ เริ่มจากที่จ.เชียงราย อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ และผู้สร้างศิลปะวัดร่องขุ่น ซึ่งเคยถวายงานเล่าว่า เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ทรงพระราชนิพนธ์พระมหาชนกและเลือกศิลปินให้วาดภาพ ซึ่งตนได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในนั้น ตอนเข้าเฝ้าฯวันแรกทรงถามว่าใครเป็นคนวาดรูปวัดพุทธประทีป เมื่อทรงทราบว่าเป็นตนก็ตรัสว่าดีมาก เป็นงานศิลปะสมัยใหม่ ซึ่งขณะได้ถวายงานทำให้รู้หลายอย่าง โดยเห็นพระองค์ทรงตรวจงานเป็นจำนวนมาก เป็นร้อยๆ รูปที่พวกเราได้วาด พระองค์ทรงขับรถมาเองและทรงถือรูปจำนวนมากที่ตรวจลงรถมาเอง แล้วยังตรัสว่าเมื่อคืนไม่ได้บรรทมเลย เพราะตรวจรูปภาพดังกล่าว ทำให้พวกเราตกใจและไม่เคยคิดว่าจะทรงงานเองทั้งหมด จึงเป็นที่มาที่ทำให้ตนตั้งใจในวันนั้นว่าจะถวายชีวิต   และเมื่อเสร็จงานพระมหาชนกแล้วจะกลับบ้านมาทำสิ่งที่พระองค์ทรงปรารถนา ด้วยการสร้างศิลปะประจำรัชกาลของพระองค์ จนวันตาย
          ขณะที่ครอบครัวนายวาเด็ง ปูเต๊ะ พระสหายแห่งสายบุรี ถึงแม้นายวาเด็งได้เสียชีวิตด้วยโรคชรา แต่ครอบครัวยังสานต่อเจตนารมณ์ในการจงรักภักดี โดยนางสะลาเมาะ ปูเต๊ะ อายุ 90 ปี และนางอะตีเกาะ ปูเต๊ะ อายุ 40 ปี ภรรยาและบุตรสาวนายวาเด็ง ที่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า ซึ่งนางอะตีเกาะเล่าว่า หลังจากทราบข่าวพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศสวรรคต จึงรีบมาบอกแม่ทันที โดยแม่รู้สึกเสียใจและเสียดายที่พระองค์ท่านจากเราไป จากนั้นครอบครัวนายวาเด็งพาไปดูต้นจำปาดะหลังบ้านอายุกว่า 100 ปี ซึ่งนายวาเด็งกำชับกับครอบครัวให้ดูแลให้ดีและนำผลจำปาดะที่ดีที่สุดไปถวายทุกปี
          ทรงแก้ภัยแล้งที่ด่านขุนทด
          ส่วนในจ.เลย พล.ต.ต.วชิระศักดิ์ พุ่มทอง อดีตผบก.ฝึกพิเศษ บช.ตชด. เล่าถึงความประทับใจว่า โครงการพัฒนาปศุสัตว์ตาม พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ได้พระราชทานให้ชาวชุมชนบ้านเดิ่น ต.ด่านซ้าย อ.ด่านซ้าย บนที่ดิน 39 ไร่ที่พระองค์ทรงซื้อไว้ด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เมื่อครั้งเสด็จฯเยี่ยมราษฎรเมื่อปี 2516 โดยที่ดินมีโฉนดเป็นพระนามของพระองค์ท่านเมื่อปี 2526 โดยแต่ก่อนชาวด่านซ้ายมีความเป็นอยู่ลำบาก พอมีโครงการนี้ทำให้ชาวบ้านมีรายได้จากการมาเรียนรู้ศึกษานำไปประกอบอาชีพตามทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นการพัฒนาชีวิตของชาวบ้านให้ดีขึ้น
          ที่จ.นครราชสีมา พระภาวนาประชานาถ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด พาเดินชมบึงเก็บน้ำของวัด ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริ สร้างขึ้นเมื่อปี 2546 เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งซ้ำซากในพื้นที่ โดยพระภาวนาประชานาถ เปิดเผยว่า ในอดีตชาวต.กุดพิมาน ประสบปัญหาภัยแล้งต่อเนื่อง ต่อมาปี 2538 หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่อยู่นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศเสด็จฯมาวัดบ้านไร่ เพื่อทรงเป็นประธานในพิธียกมณฑปพระบรมสารีริก ธาตุขึ้นประดิษฐานไว้บนหลังคาอุโบสถ เมื่อทรงทราบว่าในพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำทุกปี พระองค์ท่านจึงพระราชทานเงินที่วัดบริจาคให้ 72 ล้านบาทคืนวัด เพื่อขุดลอกบึงวัดบ้านไร่พื้นที่ 75 ไร่ ทำเป็นแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้ช่วงหน้าแล้ง เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง