"สระบุรี" วิกฤติหนัก ประกาศเสียงตามสาย รีบยกทรัพย์สินขึ้นที่สูงทันทีหลังน้ำป่าสักที่ถูกระบายออกมาไหลทะลักไม่หยุดเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ ชาวบ้านท่าหลวงเมืองกรุงเก่า ก็ไม่รอลุ้นระดับน้ำเร่งขนของขึ้นที่สูงเช่นกัน เชื่อไม่เกิน 2 วันมาแน่ หวั่นใจ "ธงแดง" เขื่อนพระรามหกเตือน ด้านสองพี่น้องสุพรรณบุรี-โผงเผงอ่างทอง ต้องลุยแก้สถานการณ์แบบเฉพาะหน้าวันต่อวัน ชาวเมืองลิงผวา สั่งปิดน้ำตกวังก้านเหลือง "อุตุ" เตือน เหนือ-อีสานตอนล่าง-กลาง-ภาคใต้ฝั่งตะวันตก  มีฝนหนัก ยัน พายุ "แอรี" ไม่กระทบ
          เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ผู้สื่อข่าวได้รายงานสถานการณ์ฝนตกน้ำท่วม ที่ จ.นครราชสีมา พบว่ามีฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางดึกจนถึงเช้า ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังในตัวเมืองนครราชสีมา หลายจุด เช่น สามแยกหัวทะเลไปถึงหน้าโรงเรียนบุญวัฒนา  รวมทั้ง ถนนราชดำเนินหน้าค่ายสุรนารี ส่งผลให้รถเล็กสัญจรลำบาก การจราจรติดขัด นอกจากนี้ยังมีถนนสายรองในชุมชนหลายแห่งถูกน้ำท่วมสูง ทั้งชุมชนหนองโสน ชุมชนบึงแสนสุขพัฒนา ต.โพธิ์ ส่งผลให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก ส่วนสถานการณ์น้ำป่าที่ทะลักออกจากอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ลำคันฉู เข้าท่วมบ้านเรือนพื้นที่การเกษตรใน อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ยังน่าเป็นห่วง พบว่า 8 หมู่บ้านและ 1 เทศบาล ใน 6 ตำบล ถูกน้ำท่วมสูง ทางส่วนราชการ จึงได้เร่งระดมอพยพประชาชน ข้าวของมีค่า และ สัตว์เลี้ยงขึ้นสู่ที่สูงเพื่อความปลอดภัย มวลน้ำจำนวนมากกำลังไหลทะลักลงที่ลุ่ม จ่อทะลักเข้าท่วมในเขตอำเภอจัตุรัสอีกด้วย
          นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์  ผวจ. ขอนแก่น เปิดเผยว่า ได้เดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำที่สะพานบ้านท่าฉางซึ่งเชื่อม ระหว่าง ต.ท่านางแนว อ.แวงน้อย และ อ.คอน สวรรค์ จ.ชัยภูมิ ซึ่งมีมวลน้ำไหลมาจาก จ.ชัยภูมิ ทางสำนักงานปภ.ได้นำธงแดงไปปักไว้เป็นสัญลักษณ์ว่าน้ำเพิ่มสูงขึ้นมาก ให้ประชาชนเตรียมพร้อมอพยพไปที่สูง
          ด้านนายทรงวุฒิ กิจวรวุฒิ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย กรมชล ประทาน กล่าวว่าปริมาณน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์เช้าวันนี้ อยู่ที่ 2,431 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 73 ของความจุอ่างมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่าง 50.95 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทำให้จำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำจากเดิม 5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เป็น 9 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่จะไหลลงอ่างอย่างต่อเนื่อง ที่บ้านโนนม่วง ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ชาวบ้านแจ้งว่า มีจระเข้อยู่ในลานจอดรถหน้าบ้าน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำอุปกรณ์ไปจับได้พบจระเข้ยาวประมาณ 1.5 เมตร จึงนำมาไว้ที่ศูนย์กู้ภัยตำรวจทางหลวงขอนแก่นเพื่อรอดำเนินการต่อไป ส่วนที่บ้านโนนแคน ต.ตบหู อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ฝนที่ตกมาหลายวันทำให้น้ำในลำน้ำได้ไหลทะลักเข้าพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย เช่น นาข้าว ไร่มันสำปะหลัง และสวนยางพารา รวมหลาย 100 ไร่ โดยทางเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 56 อุบลราชธานี พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้เข้าให้การช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว   ที่หอเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา หน้าศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานประชุมและมอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 18 อำเภอ ในพื้นที่เสี่ยงภัย โดย เฉพาะ อ.ฆ้องชัย อ.กมลาไสย และอ.ร่องคำ ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่มและติดกับแม่น้ำชี แม่น้ำปาว ให้เฝ้าระวังเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมจัดเตรียมเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์เครื่องสูบน้ำ เรือท้องแบนไว้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยเหลือและอพยพประชาชนหากเกิดน้ำท่วมฉับพลันเนื่องจากเกรงว่ามวลน้ำจากจังหวัดชัยภูมิ จังหวัดขอนแก่น และมวลน้ำที่ยังกระจายอยู่ตามทุ่งนาที่รวมกันแล้วมีปริมาณมหาศาลจะ
          ไหลลงแม่น้ำชีและไหลมายังพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์พร้อมกันในสัปดาห์หน้า
          สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมทางภาคเหนือ ยังมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เริ่มที่ จ.พิษณุโลก ที่บ้านหมู่ 10 และหมู่ 12 ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม เริ่มวิกฤติอีกครั้งหลังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องโดยระดับน้ำในแม่น้ำยมสายเก่าเพิ่มระดับสูงขึ้น ขณะที่คันดินที่ทำกั้นน้ำไว้เพื่อไม่ให้น้ำท่วมนาข้าวอีกฟากของถนนในบ้านหมู่ 12 บ้านใหม่ ท่าช้าง เริ่มรั่วซึมหลายจุดแต่ชาวนาก็พยายามช่วยกันซ่อมแซมหวั่นข้าวได้รับความเสียหายเพราะยังไม่ได้เก็บเกี่ยว ด้านนางรติฬส มีคำแหง หัวหน้าสำนักงานปภ. พิษณุโลก เปิดเผยว่าพื้นที่ อ.พรหมพิราม ได้รับความเสียหาย 8 ตำบล 45 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 2,004 ครัวเรือน พื้นที่เกษตรที่ได้รับผลกระทบ 67,224 ไร่ บ่อปลา 41 บ่อ ถนน 12 สาย ปัจจุบันน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ทางการเกษตรสูงประมาณ 30 - 80 ซม.
          ส่วนที่ จ.นครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ที่มีน้ำแม่วงก์ไหลบ่าเข้าท่วมเขตเศรษฐกิจย่านการค้า เขตเทศบาลตำบลลาดยาว อ.ลาดยาว มีระดับน้ำสูง 50-80 เซนติเมตรนั้น ล่าสุด น้ำที่ได้ลดระดับลงจนเกือบกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วจึงทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้า และเจ้าของกิจการห้างร้านต่าง ๆเร่งทำความสะอาดบ้านเรือนและร้านค้าของตนเองกันอย่างคึกคัก โดยมีเจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลลาดยาวนำรถดับเพลิงมาช่วยฉีดน้ำล้างถนน  ส่วนน้ำที่ไหลผ่านเขตเทศบาลลาดยาว ได้ไหลบ่าเข้าสู่ ต.ดอนโม่ ต.หนองนมวัว ซึ่งเป็นที่รับน้ำต่อจนทำให้มีน้ำท่วมขังถนนสายลาดยาว-หนองเบน หลายจุด อีกทั้งมวลน้ำยังได้ขยายวงกว้างเข้าท่วมไร่นาและบ้านเรือนของประชาชนจนได้รับความเดือดร้อนอีกด้วย
          ลงมาที่ จ.อุทัยธานี ฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายวัน ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนห้วยขุนแก้ว อ.ห้วยคต มีปริมาณ 44.73 ล้านลูกบาศก์เมตรหรือ 103.04 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินปริมาตรเก็บกัก โดยน้ำส่วนเกินได้ไหลล้นข้ามสปริงเวย์ วันละ 2-5 ล้านลูกบาศก์เมตร ลงไปสู่ลำคลองธรรมชาติและลำห้วยขุนแก้ว ทั้งในเขตอ.ห้วยคต หนองฉาง หนองขาหย่างและบางอำเภอของ จ.ชัยนาท
          นายศรีชัย ตันทะโสภณ นายอำเภอชัยบาดาล จ.ลพบุรี เปิดเผยว่าสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน 900 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 93 เปอร์เซ็นต์ จากปริมาณกักเก็บน้ำได้ 960 ล้านลูกบาศก์เมตร เพราะมีฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้มีน้ำล้นตลิ่ง ได้ประสานงานให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นของอ.ชัยบาดาลและอ.ที่อยู่ติดแม่น้ำป่าสักฯ ให้ประชาชนขนสิ่งของและสัตว์เลี้ยงไปสู่ที่ปลอดภัยโดยด่วนคาดว่าอีก 2-3วันปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จะเต็ม ส่วนที่สวนรุกขชาติน้ำตกวังก้านเหลือง หมู่ 4 ต.ท่าดินดำ อ.ชัยบาดาล มีน้ำมาก จึงปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกวังก้านเหลือง
          ขณะเดียวกันน้ำที่ระบายลงมาจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ผ่านลำน้ำป่าสักไหลผ่านถึงตัวเมืองสระบุรีพบว่ายังคงมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆและต่อเนื่อง โดยเฉพาะชุมชนตามแนวสองฝั่งแม่น้ำในเขตเทศบาลเมืองสระบุรีซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำทำให้ทางเทศบาลต้องประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านรีบขนของไปไว้ในที่สูงก่อนเลยเพื่อความปลอดภัย ดร.ภาณุพงศ์ ทิพยเศวต นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรีต้องนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายบรรเทาทุกข์เบื้องต้น
          ขณะที่นายเฉลิมพล ศักดิ์คำ  นายกเทศมนตรีเมืองท่าช้าง จ.จันทบุรี  พร้อมด้วย นายนัชอานันท์ งามการ  หัวหน้าฝ่ายปกครอง  และเจ้าหน้าที่ปภ. เทศบาลเมืองท่าช้าง  นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชน ที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ริมคลองได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์น้ำหลากซัดดินทรุด ที่บ้านหมู่ที่  5 ต.ท่าช้าง อ.ท่าช้าง เนื่องจากในช่วงนี้พื้นที่ จ.จันทบุรี มีฝนตกชุก ทำให้น้ำในคลองเพิ่มสูง และไหลแรงประกอบกับดินอุ้มน้ำไว้ไม่ไหว จึงทำให้บ้านทรุดตัว   ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กองช่างใช้เครื่องจักรขนแผ่นหินขนาดใหญ่ มาสร้างเป็นพนังกั้นน้ำ เพื่อลดความแรงของน้ำ และป้องกันดินทรุดตัวเพิ่มอีก พร้อมกันนี้ ได้ใช้รถแทรกเตอร์ ไถดินบริเวณไหล่ทางถนนที่อยู่ใกล้กัน เพื่อเปิดทางให้น้ำไหลออกจากถนน  ป้องกันไม่ให้น้ำท่วมขังผิวจราจรเพื่อความปลอดภัยในการสัญจรของประชาชน
          ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำที่ ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าประตูระบายน้ำของเขื่อนพระรามหก มีการเปิดประตูทั้ง 6 บานแล้ว เนื่องจากเหนือเขื่อนมีปริมาณมาก เหลือประมาณ 1.30 เมตร จะถึงตลิ่งบริเวณท้ายเขื่อน ทำให้ทางชลประทานจำเป็นต้องขึ้นธงแดงเอาไว้ให้เป็นสัญลักษณ์เตือนภัย หลังน้ำไม่ลด แสดงถึงระดับน้ำของเขื่อน สร้างความวิตกกังวลให้ชาวบ้านมากว่าน้ำจะล้นเข้าท่วมถนนหน้าเทศบาลในเร็ววันนี้หรือไม่ โดยส่วนใหญ่ไม่รอช้าเตรียมขนทรัพย์สินของมีค่าขึ้นไว้ที่สูงแล้วเพราะทางชาวบ้านเชื่อว่า น้ำจะเข้าท่วมแน่ภายในไม่เกิน2 วันนี้  ขณะที่ นางสุพัฒน์ตรา ไกรพจน์ อายุ 60 ปี ต้องสู้ชีวิตอย่างยากลำบาก หลังน้ำท่วมสูงเข้ามาในบ้านพักพื้นที่ ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล ทำให้ต้องหลบหนีมาใช้ชีวิตอยู่บนถนนไปก่อน ส่วนที่ จ.สุพรรณบุรี  นายภูวนารถ จารุภูมิก นายก อบต.ต้นตาล อ.สองพี่น้อง ได้ระดมกำลังลงพื้นที่ไปช่วยกู้สถานการณ์ดินถล่มเข้ามาในแนวคันกั้นน้ำทั้งจากทิศตะวันออกและทิศเหนือ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากน้ำที่ไหลทะลักเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับชาวบ้าน ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับน้ำมานานนับครึ่งเดือน ต่างพากันปรับสภาพความเป็นอยู่ให้คุ้นชินมากที่สุด เพื่อเงยหน้าดำเนินชีวิตให้ได้ต่อไป
          ด้านนายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดี กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า สำหรับอากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีปริมาณฝนลดลง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนตกหนักราว 80% ในบางพื้นที่ สำหรับพายุโซนร้อน "แอรี" ที่บริเวณทะเลจีน ใต้ตอนบน กำลังเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ เลียบชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้  พายุนี้ยังไม่มีผล กระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยม วิทยาอย่างใกล้ชิดต่อไป.