Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 23/05/2561 ]
รพ.จิตเวชสระแก้วเปิด อาชาบำบัด รักษาเด็กออทิสติก..ม้า-คนสื่อสารเข้าใจ

 แม้อาการออทิสติก จะไม่มียา หรือวิธีทางการแพทย์ที่รักษาให้หายขาด แต่เด็กออทิสติกสามารถได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีจากพ่อแม่ และทีมดูแลเด็กออทิสติก ประกอบไปด้วยแพทย์ นักจิตวิทยา นักแก้ไขการพูด  นักกิจกรรมบำบัด และคุณครูสอนเด็กพิเศษ ซึ่งจะช่วยให้เด็กสามารถพัฒนาทักษะการเข้าสังคมและการสื่อสารให้ดีขึ้น ใช้ชีวิตปกติได้
          นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า ปัญหาที่น่าห่วงขณะนี้ คือ การเข้า ถึงบริการของเด็กที่ป่วยเป็นโรคจิตเวช ทำให้เด็กเป็นผู้พิการทางจิตใจ และสติปัญญา ที่สำคัญ คือ โรคออทิสติก(Autism)โรคนี้เกิดจากความผิดปกติของสมองตั้งแต่ในครรภ์ ไม่ได้เกิดมาจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ เด็กจะมีความบกพร่องในด้านพัฒนาการการพูด การสื่อสาร ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ร่วมกับมีพฤติกรรมและความสนใจที่เป็นแบบแคบจำกัดหรือซ้ำ ๆ คาดว่าทั่วประเทศมีเด็กอายุ 2-5 ขวบ เป็นออทิสติก 18,220 คน แต่เข้าถึงบริการในปี 2560 เพียงร้อยละ 35
          อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยอีกว่า ปัจจุบันทั่วโลกยังไม่มียารักษาออทิสติก หายขาด แต่มีวิธีป้องกันไม่ให้เด็กมีอาการรุนแรงขึ้น โดยกรมสุขภาพจิต ได้จัดระบบการรักษาและฟื้นฟูด้วยการแพทย์แผนปัจจุบันคือใช้ยาควบคุมอาการ และมีห้องสนูซีเลน เพื่อกระตุ้นประสาทสัมผัสของเด็ก มีบริการที่โรงพยาบาลจิตเวชทั้งผู้ใหญ่และเด็ก และได้นำการฟื้นฟูแนวการแพทย์ทางเลือก คือ อาชาบำบัด ( Hippotherapy) โดยใช้ม้า ซึ่งเป็นวิธีการที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ขณะนี้มีบริการที่สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ จ.เชียงใหม่ ล่าสุดคือที่โรงพยาบาลจิตเวชสระแก้วราชนครินทร์ จ.สระแก้ว เริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนเมษายน 2561 เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ปกครอง สามารถใช้เสริมประสิทธิภาพกันได้ทั้ง 2 ระบบ
          ทั้งนี้ เด็กที่เป็นออทิสติก ช่วงแรกเกิดถึงอายุ 1 ปี เด็กจะเติบโตและมีพัฒนาการเหมือนเด็กปกติทั่วไป โดยพัฒนาการจะเริ่มผิดปกติปรากฏให้เห็นในช่วงย่างเข้าขวบปีที่ 2 เด็กจะพูดช้า สื่อสารไม่ได้ วิธีการที่จะช่วยให้เราค้นหาว่าลูกหลานป่วยเป็นโรคออทิสติกได้เร็วที่สุดมี 2 วิธี วิธีแรกคือ การเฝ้าระวังพัฒนาการตามช่วงวัยของเด็ก โดยพ่อแม่ผู้ปกครองต้อง พาลูกที่มีอายุ 9 เดือน 18 เดือน 30 เดือน และ 42 เดือน ไปตรวจพัฒนาการที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน วิธีที่ 2 คือ การสังเกตความผิดปกติของเด็กจากลักษณะเด่น 4 อาการที่เป็นสัญญาณเฉพาะของเด็กออทิสติก คือ ไม่สบตา ไม่พาที ไม่ชี้นิ้ว และไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง โดยเด็กที่เป็นออทิสติกร้อยละ 70 มักจะซนมาก อยู่ไม่นิ่ง หากพบอาการที่กล่าวมาแม้เพียง 1 อาการ ขอให้รีบพาไปที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านทั่วประเทศ หรือโทรฯ ปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 โดยกรมสุขภาพจิตตั้งเป้าจะเพิ่มการเข้าถึงบริการของเด็กออทิสติกภายในปี 2564 ให้ได้ไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 50
          แพทย์หญิงจุฬาพันธุ์ เหมกูล ผู้อำนวยการ รพ.จิตเวชสระแก้วราชนครินทร์ จ.สระแก้ว กล่าวว่า โปรแกรมบำบัดฟื้นฟูเด็กออทิสติก ด้วยอาชาบำบัด เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2561 เป็นต้นมา เป็นบริการทางเลือกใหม่ในการช่วยเหลือเด็กออทิสติกในพื้นที่ภาคตะวันออก และยังสามารถใช้ฟื้นฟูเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น และเด็กที่มีปัญหาพัฒนาการล่าช้าได้ด้วย เนื่องจากม้าเป็นสัตว์ที่ฉลาด และมีจังหวะการเดินคล้ายกับคน สามารถสื่อสารรับรู้ความรู้สึกของผู้ขี่ได้ ดังนั้น เมื่อเด็กนั่งอยู่บนหลังม้าก็เหมือนกับเด็กได้ฝึกเดินด้วยตนเอง และการทำกิจกรรมบนหลังม้า จะช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย กล้ามเนื้อมัดใหญ่ มัดเล็ก ทำงานได้ดียิ่งขึ้น
          ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจิตเวชสระแก้วราชนครินทร์ จ.สระแก้ว กล่าว อีกว่า เมื่อม้าเดินเคลื่อนที่ เด็กจะเริ่มตื่นตัว มีสมาธิ ช่วยจัดระเบียบร่างกายให้สมดุล ทำให้การทรงตัวของเด็กดีขึ้น เมื่อฝึกไปเรื่อย ๆ เด็กก็จะมีสมาธิยาวขึ้น เด็กที่มีปัญหาด้านการพูดก็จะถูกกระตุ้นจากการที่ต้องออกคำสั่งกับม้า เด็กจึงได้ฝึกเรื่องการควบคุมอารมณ์ไปในตัว ลดความก้าวร้าว มีพัฒนาการทางด้านร่างกายและจิตใจดีขึ้น รู้จักการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า กล้าพบปะผู้คน สามารถใช้ชีวิตในสังคมดีขึ้น โดยทั่วไปเด็กออทิสติกที่ได้รับการบำบัดฟื้นฟูประมาณ 1 ใน 3 สามารถพึ่งพาตนเองได้พอสมควร ต้องการเพียงคำชี้แนะจากผู้ดูแลเป็นระยะเท่านั้น อีกร้อยละ 1-2 พึ่งพาตนเองได้เต็มที่ สามารถประกอบอาชีพ เลี้ยงตัวเอง ดำเนินชีวิตได้เหมือนปกติ ส่วนอีก 2 ใน 3 ต้องพึ่งพิงผู้ดูแลบางส่วน โดยผู้ปกครองที่สนใจ อาชาบำบัด สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลข 0-3726-2995 ต่อ 69137 ในวันและเวลาราชการ.

 pageview  1204381    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved