|
ไทยโพสต์ [ วันที่ 23/02/2560 ] |
|
|
|
|
สธ.ตั้งเป้าลดปัญหาเชื้อดื้อยา50%ภายในปี64 |
|
|
|
|
สธ.เดินหน้าลดการใช้ยาปฏิชีวนะ 20% แก้ปัญหาเชื้อดื้อยาให้ได้ 50% ภายในปี 2564 เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ป่วย
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สธ.มีนโยบายให้เกิดการใช้ยาที่เหมาะสม ส่วนยุทธศาสตร์การใช้ยาอย่างสมเหตุสมผลนั้น ได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่ง ทุกระดับ เร่งรัดดำเนินการ เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย โดยตั้งเป้าระหว่างปี 2560-2564 จะลดปริมาณการใช้ยาปฏิชีวนะลงร้อยละ 20 ลดการเจ็บป่วยจากเชื้อดื้อยาร้อยละ 50 และลดค่าใช้จ่ายด้านยาที่ไม่เหมาะสม คาดว่าจะช่วยประเทศชาติประหยัดงบประมาณจากการใช้ยาที่ไม่จำเป็นให้ได้มากที่สุดอย่างน้อยปีละ 10,000 ล้านบาท
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน ปลัด สธ. กล่าวว่า สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้ลงนามความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนัก งานประกันสังคม (สปส.) สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กรมบัญชีกลาง และกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ที่จะพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (RDU hospital) โดยกำหนดกลยุทธ์การดำเนินงานดังนี้ 1.ระดับต้นน้ำ โดยจัดระบบการควบคุมกำกับการผลิต/การนำเข้าและการกระจายยาที่มีคุณภาพ รวมถึงการจัดการยาที่มีคุณภาพในโรงพยาบาล โดยการกำกับดูแลของคณะกรรมการเภสัชกรรมและการบำบัด 2.ระดับกลางน้ำ โดยให้ รพ.ในสังกัดทุกแห่งเป็น รพ.ที่ส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล มีการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างรับผิดชอบ มีการจัดการเชื้อดื้อยา การส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพรมากขึ้น และ 3.ระดับปลายน้ำ โดยการสื่อสารทำความเข้าใจกับผู้ป่วยและประชาชนในเรื่องการใช้ยาที่เหมาะสม ปัจจุบันมีโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งเข้าร่วมดำเนินการ
ในการดำเนินการให้เป็น รพ.ส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล จะยึดกุญแจสำคัญ 6 ประการ คือ P-L-E-A-S-E ประกอบด้วย 1.Pharmacy and Therapeutics Committee หรือคณะกรรมการเภสัช กรรมและการบำบัด ที่จะกำหนดนโยบายและพัฒนาระบบการจัดการด้านยาให้เป็นไปอย่างสมเหตุผลตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก 2.Labeling and Leaflet หรือฉลากยา ที่ให้ข้อมูลอย่างเพียงพอแก่ผู้ใช้ยา 3.Essential tools หรือเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการใช้ยาอย่างสมเหตุผล เช่น คำแนะนำการใช้ยาในกลุ่มโรคต่างๆ การคัดเลือกยา 4.Awareness การสร้างความตระหนักรู้แก่บุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย 5.Special population ว่าการใช้ยาในคนสูงอายุ เด็ก สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร ผู้ป่วยโรคตับ โรคไตเรื้อรัง และผู้ป่วยกลุ่มพิเศษอื่นตามที่สถานพยาบาลกำหนด และ 6.Ethics คือจริยธรรมในการจัดซื้อ และจรรณยาบรรณการสั่งใช้ยา. |
| | |
|
|