อย.ชี้ยังไม่มีการอนุญาตให้ปลูกกัญชา มีเพียงการอนุญาตให้ปลูกกัญชงได้เท่านั้น ส่วนกัญชามีเพียงการอนุญาตให้ใช้ในการศึกษาวิจัยประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องทำเรื่องส่งมาขออนุญาตก่อน และมีเพียง ม.รังสิตแห่งเดียวที่ขอมา "นายกฯ" ช่วยย้ำยังไม่ไฟเขียว แต่ถ้าปลูกก็ต้องมีมาตรการที่ชัดเจนในการควบคุม
          วันที่ 16 ม.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวในการแถลง ข่าวกรณีที่มีข่าวว่า นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้เลือก พื้นที่ในจังหวัดสกลนคร ประมาณ 5,000 ไร่ เป็นแหล่งปลูกกัญชาแห่งแรกของประเทศไทย นำร่องใช้พื้นที่ทหารเพื่อให้ควบ คุมง่าย โดยจะขออนุญาตตามกฎกระทรวง การขออนุญาตและการอนุญาตผลิตจำหน่าย หรือมีไว้ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะเฮมพ์ พ.ศ.2559 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 6 ม.ค. พ.ศ.2561 ว่า ทาง อย.ขอชี้แจงว่า กฎกระทรวงดังกล่าวนั้นออกจาก พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ว่าด้วยการปลูกเฮมพ์ (HEMP) เป็นพืชชนิดย่อยของกัญชา ที่เรียกว่า "กัญชง" ซึ่งจะมีลักษณะทางกายภาพคล้ายกัญชามาก แต่กัญชงจะมีสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล หรือ THC ในปริมาณที่ต่ำกว่ากัญชา 1% ถือเป็นสารเสพติดออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ถือเป็นสารเสพติด จึงมีการอนุญาตให้ทดลองปลูกกัญชงในหลายพื้นที่ แต่ไม่อนุญาตให้ปลูกกัญชา เพราะมีสารในปริมาณที่มากกว่า แต่อย่าง ไรก็ตามก็มีการอนุญาตให้ครอบครองกัญชาเพื่อใช้ในการวิจัยที่ จะพัฒนาสารสกัดจากกัญชาเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการแพทย์
          นพ.สุรโชคกล่าวต่อว่า ดังนั้นหากจะปลูกพืชกัญชาจะ ต้องขออนุญาตตามกฎกระทรวง การขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จำหน่าย นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 4 หรือในประเภท 5 พ.ศ.2559 โดยจะต้องผ่านการเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้ โทษและรัฐมนตรีว่าการกระ ทรวงสาธารณสุข การจะครอบครองก็เช่นกัน จะต้องมีการขอ อนุญาตนำเสนอให้คณะกรรม การได้เห็นว่า หากได้รับอนุญาต จะนำไปใช้อย่างไร มีขั้นตอนในการควบคุมอย่างไร โดยที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้อนุญาตให้มีการครอบครองกัญชาได้เพื่อใช้ในโครงการศึกษา วิจัย ขณะนี้มีที่เดียวที่ขออนุญาตครอบครองคือ ที่มหาวิทยาลัยรังสิต และยังไม่เคยอนุญาตให้ปลูกในพื้นที่ไร่ตามที่เป็นข่าว โดยจะมีการชี้แจงไปยังภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและตัวนายประพัฒน์
          เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่เคยมีการเรียกร้องให้ถอดกัญชา ออกจากบัญชียาเสพติด นพ.สุรโชคกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ มีความคืบหน้าใดๆ อยู่ระหว่างการพูดคุยหารือกับหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และรอผลการศึกษาวิจัย ทำการวิจัยว่าจะสามารถทำได้หรือไม่
          ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประ ยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมน ตรี กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กรณีที่มีการปลูกกัญชา 5,000 ไร่ในพื้นที่ทหาร จ.สกลนคร เพื่อใช้สกัดยาว่า ตนเพิ่งได้ยินข่าวนี้ ไม่รู้เหมือนกันว่ามาได้อย่างไร สอบ ถามทาง สธ.ที่ว่าจะออกเป็นกฎกระทรวงหรืออะไร ก็ไม่มีใครรู้ไปคิดมาเองหรือเปล่าตนไม่รู้
          "วันนี้ต้องไปดูว่าต่างประ เทศเขาทำอะไรในเรื่องเหล่านี้บ้าง ลองไปตามดูก็แล้วกัน อย่างกัญชง เราก็เอามาทำเฉพาะเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งเราต้องควบคุมให้ได้ด้วย เพราะเป็นพืชที่มีสารเสพติด โดยกัญชงมีสารเสพติดน้อยลงหน่อย แต่ถ้าเป็นกัญชาก็มีสารเสพติดมากหน่อย แต่ใน ต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐ อเมริกาจะปลูกกัญชากันมากเพื่อ นำไปเป็นยา แต่ของเราถ้าปลูกก็ต้องมีมาตรการที่ชัดเจนในการ ควบคุมการแพร่ระบาดของยาเสพติดทุกประเภท ซึ่งคนไทยก็ยังรับไม่ได้ ก็ต้องค่อยๆ ศึกษากันไปก่อน".