การสักผิวหนังตามกระแสแฟชั่นนิยม หรือตามความเชื่อส่วนบุคคล ควรคำนึงถึงผลดีผลเสียที่อาจเกิดขึ้น เสี่ยงอันตรายจากการสัก ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี โรคเรื้อน โรคเอดส์
นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า การสักผิวหนังเป็นรูปภาพหรือลวดลายที่สวยงาม เช่น รูปผีเสื้อ ดอกไม้ สัญลักษณ์ต่างๆ สีที่ใช้ในการสักส่วนใหญ่จะนิยมสักสีดำ ยกเว้นในรายที่สักเป็นรูปภาพต่างๆ จะนิยมสักหลากหลายสี เช่น สีน้ำเงิน สีแดง สีเหลือง สีเขียว ในความสวยงามของสีสันและลวดลายการสักผิวหนังมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ที่พึงระวัง เช่น อันตรายจากสีที่ใช้ในการสักทำให้เกิดอาการแพ้ เป็นผื่นหรือตุ่มแดง คันในตำแหน่งของรอยสัก ถ้าไม่ได้รับการรักษาหรือปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้ผื่นเห่อมากขึ้นได้ นอกจากนี้เมื่อโดนแดดเป็นเวลานานๆ หรือบ่อยครั้ง ในคนที่มีโรคผิวหนังอยู่เดิม เช่น โรคสะเก็ดเงิน อาจพบว่ามีผื่นของโรคสะเก็ดเงินกำเริบในบริเวณรอยสัก และการสักผิวหนังยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี วัณโรค โรคเรื้อน โรคเอดส์ จากการใช้เข็มในการสักผิวหนังที่ไม่สะอาด ไม่ผ่านการทำให้ปลอดเชื้อ หรือใช้เข็มร่วมกับคนอื่น
พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนตัดสินใจสักผิวหนัง ควรคำนึงถึงผลดีผลเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการสัก รวมทั้งหาข้อมูลสถานประกอบการที่เชื่อถือได้ก่อนรับบริการ เพราะเมื่อสักผิวหนังไปแล้วภายหลังเกิดไม่ต้องการ หรือไม่ชอบใจรูปที่สักไว้ ต้องการลบรอยสัก ผิวหนังบริเวณนั้นจะไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ และต้องทำการรักษาต่อเนื่องหลายครั้ง เช่น ลบรอยสักโดยการใช้เลเซอร์อาจเกิดผลข้างเคียง เกิดรอยแผลเป็นแดงนูน ที่เรียกว่า คีลอยด์ ซึ่งต้องรักษารอยแผลเป็นอีก ทำให้เสียเวลาและเสียเงินค่ารักษา.
"ก่อนตัดสินใจสักผิวหนัง ควรคำนึงถึงผลดีผลเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการสัก รวมทั้งหาข้อมูลสถานประกอบการที่เชื่อถือได้ก่อนรับบริการ เพราะเมื่อสักผิวหนังไปแล้วภายหลังเกิดไม่ต้องการ หรือไม่ชอบใจรูปที่สักไว้ ต้องการลบรอยสัก ผิวหนังบริเวณนั้นจะไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ และต้องทำการรักษาต่อเนื่องหลายครั้ง" |