ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุขกล่าวว่า องค์การอนามัยโลกระบุทั่วโลกมีการใช้ยาไม่เหมาะสมถึงร้อยละ 50 และปี 57 ไทยป่วยจากเชื้อดื้อยาถึง 88,000 ครั้ง เกิดค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงขึ้น และทำให้ผู้ป่วยส่วนหนึ่งเสียชีวิต รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาการใช้ยาในประเทศปีละกว่าแสนล้านบาท จึงมีแผนยุทธศาสตร์พัฒนาระบบยาแห่งชาติ เพื่อให้การใช้ยาในประเทศมีประสิทธิภาพ ประชาชนปลอดภัย คุ้มค่ากับงบฯประเทศ ด้วยยุทธศาสตร์ 5 ด้านคือ เข้าถึงยา, ใช้ยาสมเหตุผล,พัฒนาอุตสาหกรรมผลิตยา ชีววัตถุ สมุนไพร, พัฒนาระบบควบคุมยาและสร้างเสริมกลไกประสานเชื่อมโยง-ยุทธศาสตร์พัฒนาระบบยาแห่งชาติ ทั้งนี้ ให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่งทุกระดับ เร่งดำเนินการตั้งเป้าปี 60-64 จะลดใช้ยาปฏิชีวนะลงร้อยละ 20 ลดป่วยจากเชื้อดื้อยาร้อยละ 50 ลดค่าใช้จ่ายด้านยาที่ไม่เหมาะสม คาดจะประหยัดงบฯ อย่างน้อยปีละ 10,000 ล้านบาท
          นพ.โสภณ เมฆธน ปลัด ก.สาธารณสุขกล่าวว่า ได้ลงนามความร่วมมือกับ สนง.คณะกรรมการอาหารและยา สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข สนง.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สนง.ประกันสังคม สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล สนง.กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กรมบัญชีกลาง กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์ฯ ที่จะพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมการใช้อย่างมีเหตุผลกำหนดกลยุทธ์ดำเนินงานระดับต้นน้ำ โดยจัดระบบควบคุมกำกับการผลิต/นำเข้าและกระจายยามีคุณภาพ, ระดับกลางน้ำ โดยให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่งส่งเสริมใช้ยาสมเหตุผล ใช้ยาปฏิชีวนะอย่างรับผิดชอบ มีการจัดการเชื้อดื้อยา ส่งเสริมใช้ยาสมุนไพรมากขึ้นและระบบปลายน้ำ โดยสื่อสารกับผู้ป่วย-ประชาชนใช้ยาที่เหมาะสม ปัจจุบันมีโรงพยาบาลในสังกัดก.สาธารณสุขทุกแห่งเข้าร่วม