นพ.วิโรจน์ เศรษฐิน อายุรแพทย์เฉพาะทางโรคปอดและทางเดินหายใจ โรงพยาบาลหัวเฉียว เผยไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน เกิดจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอน-ซา หรือไวรัสไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ เช่นสายพันธุ์เอ สายพันธุ์บี ส่วนสายพันธุ์ซี รุนแรงน้อยและระบาดเฉพาะวงจำกัด
อาการจะรุนแรง-เป็นนานกว่าไข้หวัดทั่วไป หลังเชื้อเข้าสู่ร่างกาย1- 4 วัน จะเริ่มแสดงอาการที่พบบ่อยคือไข้สูงเฉียบพลัน หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลียมาก อาจคัดจมูก เจ็บคอ ไอ อาจมีคลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร
ส่วนใหญ่จะหายเป็นปกติใน 1- 2 สัปดาห์ แต่บางรายที่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ อาจมีอาการรุนแรงถึงชีวิตได้
ไวรัสไข้หวัดใหญ่ติดต่อทางไอ จาม ในที่คนแออัด เช่น ที่ทำงานห้องแอร์ โรงเรียน ที่สาธารณะคนพลุกพล่าน ติดต่อทางละอองฝอยน้ำมูก-น้ำลาย หรือจากมือที่เปรอะเปื้อนเชื้อไวรัสแล้วนำไปสัมผัสจมูก-ปาก
ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงคือ อายุ 65 ปีขึ้นไป มีโรคเรื้อรังประจำตัว เช่นถุงลมปอดโป่งพอง โรคหัวใจ ไตวายเรื้อรัง เบาหวาน ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
แนวทางดูแลรักษาที่สำคัญคือ พักผ่อนมากๆ ดื่มน้ำมากๆ ให้ยาลดไข้พาราเซตามอล หรือตามแพทย์แนะนำ ไม่ควรรับประทานยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อเอง รายที่อาการรุนแรง-กลุ่มเสี่ยง อาจต้องให้ยาต้านไวรัสตั้งแต่แรกเริ่ม
โดยทั่วไป แพทย์วินิจฉัยโรคไข้ได้จากอาการ-ตรวจร่างกาย และยืนยันด้วยวิธีคัดกรอง ตรวจหาเชื้อไวรัส จากลำคอหรือโพรงหลังจมูกส่วนการตรวจเพื่อพิสูจน์แยกเชื้อให้ชัดเจนต้องใช้เวลามาก ทางปฏิบัติจึงไม่ทำกัน
ยกเว้นกรณีไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ระบาดเป็นปัญหาสาธารณสุข จึงเพาะเชื้อ แยกสายพันธุ์เชื้อนั้นๆ |