นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์กล่าวถึง สารที่ทำให้ผิวขาวซึ่งแพทย์นำมาใช้รักษาผู้ป่วยปัจจุบันที่ใช้คือ กลูตาไธโอน เป็นสารในกลุ่มไตรเปปไทด์ ประกอบด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิดคือกลูตามีนซีสตีอีน ไกลซีนปกติ กลูตาไธโอน เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะมีโมเลกุลใหญ่ ดูดซึมได้น้อย ใช้รักษาโรคมะเร็ง โรคปลายประสาทเสื่อมผลการรักษาทำให้ผู้ป่วยมีอาการข้างเคียงที่สังเกตได้ คือผิวขาวขึ้นจึงมีการนำมาใช้ในทางไม่ถูกต้อง เช่น รับประทานเกินขนาด ไม่อยู่ในการควบคุมของแพทย์ ทำให้ได้รับอันตราย เช่น ได้รับสารแปลกปลอมที่อยู่ในส่วนผสมกลูตาไธโอน
ส่วนการฉีดโดยบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจติดเชื้อในกระแสเลือด ช็อก มีอาการแพ้ทั้งชนิดรับประทานและชนิดฉีดอาจอันตรายถึงเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ ยังมีสารที่ทำให้ผิวขาวที่นิยมอีกชนิดคือ ทรานซามีน มีฤทธิ์ห้ามเลือดเป็นยาที่ทางการแพทย์ใช้ในผู้ป่วยเพื่อห้ามเลือด ผลข้างเคียง คือคลื่นไส้ อาเจียน และชนิดฉีดใช้ในผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุเลือดออกมาก สารทรานซามีน ถ้านำมาใช้ไม่ถูกต้อง อาจลิ่มเลือดอุดตันในอวัยวะต่างๆ ของร่างกายเช่น ปอดทำให้ระบบหายใจมีปัญหาอุดตันที่ตา ทำให้ตาพร่ามัว อุดตันที่สมอง ทำให้แขนขาอ่อนแรงได้
ทั้งนี้ สาเหตุเสียชีวิตคาดว่ามาจากภาวะตับวายแพ้สารตัวอื่นที่เป็นส่วนผสม หรือได้รับปริมาณมากเกินไป จึงควรศึกษาข้อมูลรอบคอบก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมดังกล่าว และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผอ.สถาบันโรคผิวหนังกล่าวว่า สีผิวคนเอเชียมีเซลล์มีคุณสมบัติป้องกันมะเร็งผิวหนัง ดังนั้น ค่านิยมอยากมีผิวขาว ใส อาจเกิดอันตรายถึงเสียชีวิต จึงแนะนำการจะมีผิวขาวสวยที่ปลอดภัยคือ กินอาหารถูกหลักโภชนา ดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังสม่ำเสมอ ทาครีมกันแดดก่อนออกบ้าน หาเครื่องป้องกันแดด |