ไม่ว่า ใครๆ ย่อมต้องมี วันที่เลวร้าย ผ่านเข้ามาเยือนในชีวิตบ้างล่ะว้า ไม่ว่าจะเป็น นักเรียนหรือนักศึกษาก็เหอะ เห็นมะพอใกล้วันสอบทีไร ต่างคนต่างร้อนๆหนาวๆทุกที เพราะกลัวจะสอบได้เอรึก็เปล่า โธ่ถ้าสอบได้เอแล้วจะกลัวทำไมฟะ หยั่งงี้ต้องกลัวสอบตกสิถึงจะถูก
ส่วนวันลำเค็ญของคนทำงานน่ะเหรอ อู้ย....เต็มไปหมด...นี่ก็พูดเกินไป เพราะวันดีๆ ของคนทำงานก็มี เช่น วันเงินเดือนออก ไง 555 แหมแต่เสียดายจัง...วันเงินเดือนออกดันมีไม่กี่วันใน 1 เดือนนี่สิ ดังนั้น วันอื่นๆที่เหลือ ย่อมมีมั่งละน้า ที่ทำให้คุณรู้สึกวูบหวิว เสียวซ่าน ไร้ความสุข แถมยัง มึนตึบ และทำให้ไม่สบายใจ เอ...แล้วจะให้ยกตัวอย่างไหมเนี่ยว่า มีเรื่องอะไรบ้างที่ทำให้ ผู้ทำงานอึดอัดและพะอืดพะอม? คาดว่าไม่ต้องบอกก็คงรู้ๆกันอยู่ แล้วจะพูดให้แสลงใจทำมั้ย จริงมะ
ฉะนั้น ถ้าวันใด ท่านผู้อ่านต้องเผชิญกับวันแย่ๆ อย่างว่าละก็ มามะ เรามีทางออกให้ได้ชื่นใจและทำใจให้ผ่านพ้นวันอันแสนโหดร้ายไปให้ได้ อย่างงี้ไง......
1. หาทางออกให้ตัวเองด้วยการเดินออกไปสูดอากาศนอกห้องทำงานบ้าง
ในเมื่องานการ ทำให้คุณรู้สึกไม่ดีเอาซะเลย แล้วยังอยู่กับมันอีกทำไม ลองเดินไปในห้อง พักผ่อนที่ทางออฟฟิศจัดไว้ให้พนักงานกิน ดื่ม (น้ำ, ชาหรือกาแฟนะ ไม่ใช่เบียร์เหล้า โอ้ยนี่ก็เกินไป) สิ เผื่อได้พักสมองบ้าง ส่วนท่านใดใช้วิธีไปเดินช็อปฯตามตรอกซอกซอยช่วงเวลาอาหารเที่ยงก็แล้วแต่ ขอให้เบี่ยงเบนสมองไปจากสิ่งที่ทำให้เครียดอยู่เป็นใช้ได้
2. หาทางออกด้วยการเขียนปัญหาของคุณออกมาให้ตัวเองดูหน่อยสิ
การมีปัญหาในชีวิต อย่าเข้าใจผิดคิดว่า คุณมีความบกพร่องซะเต็มประดา เพราะใครๆ ล้วนมีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น บางทีก็ทำให้ตัวเองมีปัญหา บางคราก็ถูกปัญหาหล่นตุ๊บเข้าใส่ แต่ใครจะรับมือกับปัญหาอย่างไรถึงเข้าท่ากว่ากันนี่สิ หวังว่า ปัญหาที่ก่อตัวจนทำให้คุณไม่สบายใจ คงไม่ถึงขั้นร้ายแรงแบบอยากชกหน้าเพื่อนร่วมงานสักเปรี้ยง, สองเปรี้ยงอะไรงี้ละกันนะ
3. หาทางออกด้วยการโทร.หาใครสักคนเพื่อปรึกษาดีมะ
ต้องดีแน่ๆเลย แถมยังถือ โอกาสหาข้ออ้างโทร.ไปคุยกับคนที่คุณชอบได้ด้วย แม้เรื่องนี้ฟังไม่เกี่ยวกันเท่าไหร่ แต่เอามาเกี่ยว เดี๋ยวก็เอี่ยวกันเองเพราะทำให้รู้สึกสบายใจขึ้นมามั่ง แค่นี้ก็ถือว่าทำให้เฮงๆ ได้ แต่ถ้ายิ่งได้โทร.ไปหาใครสักคน แล้วเค้าให้คำปรึกษาได้ด้วยก็ยิ่งเลิศเข้าไปใหญ่ ว่าไหมล้า
4. พักงานนั้นไว้ชั่วคราว แล้วคว้าสิ่งอื่นมาทำแทนไปพลางๆก่อนดี้ อ้าว ! ในเมื่อเราเต็มตื้นกับงานชิ้นนั้นแล้ว ก็หันไปให้ความสำคัญกับสิ่งอื่นๆดีกว่า เพราะขืนอยู่กับสิ่งที่ดั๊นทำให้ทั้งโกรธทั้งปวดหัวละก็ สู้หาทางลัดไปสร้างอารมณ์เอนจอยในด้านอื่นซะมั่งไม่ดีกว่าเรอะ. |