กุ้งยิง
ขนานที่ 1
กุ้งยิงเป็นฝีชนิดหนึ่ง เวลาเป็นให้เอาหม้อต้มน้ำให้เดือดแล้วยกลงจากเตา เอาผ้าขาวม้าคลุม หัวกับหม้อน้ำไว้ ลืมตารมไอน้ำจนหมดไอ กะระยะให้พอดีอย่าให้ตาร้อนเกินไป ทำเช่นนี้ทุกครั้งที่ รู้สึกปวดหรือเคืองตา วันละ 4 ครั้ง ทำแล้วตาจะรู้สึกหายเจ็ดป่วยและหัวกุ้งยิงจะค่อยๆ ยุบไป
ขนานที่ 2
ใช้ยอดตำลึงเขี่ยที่เป็นกุ้งยิง ให้ยางตำลึงติดอยู่ ทำวันละ 3 ครั้ง กุ้งยิงจะยุบลง ขนานที่ 3 ถ้าเริ่มเป็นใช้เนื้อขมิ้นอ้อยเขี่ยและลูบตรงที่เป็นหัวกุ้งยิงจะยุบทันที
ต้อ
ขนานที่ 1
เอาดอกมะลิลา 1 กำมือ ตำให้ละเอียดผสมพิมเสนแท้ 2 เกล็ด คั้นเอาน้ำหยอดตา วันละ 4-5 ครั้ง ดอกมะลิควรใช้ที่ปลูกเอง อย่าซื้อเพราะที่เขาปลูกอาจมียาฆ่าแมลงเป็นอันตรายได้
ขนานที่ 2
เอาต้นอัญชันดอกขาวทั้ง 5 ต้มพอเดือด เอาไอน้ำมารมตา ก่อนจะรมตาให้โรยพิมเสนอย่าง ดีสัก 4-5 เกล็ด ลงไปในหม้อก่อนแล้วค่อยๆ เปิดฝาหม้อให้ควันรมตามีละน้อย ทำวันละ 1 ครั้ง ยาหม้อหนึ่งใช้ได้ 3 วัน ทำติดต่อกันราว 1-2 เดือน
ป้องกันตาเป็นต้อ
เอาต้นอัญชันดอกขาวทั้ง 5 ต้มพอเดือด เอาไอน้ำมารมตา ก่อนจะรมตาให้โรยพิมเสนอย่าง ดีสัก 4-5 เกล็ด ลงไปในหม้อก่อนแล้วค่อยๆ เปิดฝาหม้อให้ควันรมตามีละน้อย ทำวันละ 1 ครั้ง ยาหม้อหนึ่งใช้ได้ 3 วัน ทำติดต่อกันราว 1-2 เดือน
ปวดตา
รู้สึกว่าตาช้ำทั้งๆ ที่ไม่ได้โดนอะไร มักเกิดจากอ่านหนังสือย้อนแสงหรืออ่านในที่มีแสงไม่พอ ให้เปลี่ยนที่อ่านหนังสือ
ตาอักเสบจากไม้หรือของแข็งดีดเข้าตา
ขนานที่ 1
เอาถุงพลาสติกเล็กๆ ใส่น้ำและน้ำแข็งห่อด้วยผ้าหนาๆ ประคบที่ตา น้ำแข็งอย่าใส่มากไป เพราะก้อนน้ำแข็งจะไปกดตา และอย่าใช้น้ำมากเพราะน้ำจะกดตาเช่นเดียวกัน ประคบจนน้ำหาย เย็น ทำบ่อยๆ หรือทุกๆ 1-2 ชั่วโมงในวันแรก หลังจากนั้นทำวันละ 3-4 ครั้ง
ขนานที่ 2
เอาหัวขมิ้นอ้อยตรงที่เป็นแท่งกลางใหญ่ๆ มาตัดให้เป็นท่อนยาวๆ ขุดตรงกลางของด้านที่ เล็กกว่าให้เป็นหลุมลึกลงไป เอาน้ำนมคนใส่ไปในหลุมนั้นให้เต็ม นำไปนึ่งให้ร้อน ทิ้งให้เย็น เอา น้ำนมที่มีสีเหลืองจากขมิ้นอ้อยหยอดตาวันละ 3-4 ครั้ง
ขนานที่ 3
เอาวุ้นว่านหางจระเข้ล้างยางออกให้หมดปิดเปลือกตา
ขนานที่ 4
เอาขมิ้นผงโรยไปบนถ่านไฟก้อนใหญ่ที่กำลังแดงๆ ให้มีควันขมิ้นลอยขึ้นมาให้ผู้ป่วยลืมตา รมควันขมิ้นวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
แสบตาเนื่องจากถูกแสงจ้ามากเกินไป
ขนานที่ 1
เอาสำลีสะอาดๆ มา 2 ก้อนชุบน้ำฝนหรือน้ำเย็นพอหมาดๆ แล้วนอนหลับตา เอาสำลีที่ชุบ แล้วมาประคบลงบนเปลือกตาทั้งสอง น้ำยิ่งเย็นมากยิ่งดี ชุบน้ำใหม่เมื่อสำลีหายเย็นแล้ว นอนพัก สักครู่ ตื่นขึ้นมาจะรู้สึกสบายขึ้น
ขนานที่ 2
เอาแตงกวาดิบๆ ลูกขนาดประมาณไข่เป็ด ใช้มีดฝานตามยาวของลูกให้โค้งเหมือนรูปปาก ถ้วย ล้างตาแล้วนำส่วนที่โค้งมาคว่ำไว้บนเปลือกตาข้างที่เจ็บสักครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง ยิ่งนานยิ่งดี แล้วนอนพักสักครู่ ตื่นขึ้นมาจะรู้สึกสบายขึ้น
ตาอักเสบเนื่องจากโดนลมหรือแดดมาก
ให้ต้มน้ำชาจีนแก่ๆ ทิ้งไว้จนเย็นสนิท ใช้สำลีชุบน้ำยานี้ปิดตาไว้สักครู่ จะคลายอักเสบ ลงได้
ของแข็งเข้าตา
เอาน้ำมันละหุ่ง ใช้หยอดตาครั้งละ 2 หยด เมื่อเวลาของแข็งเข้าตา เช่น ทราย กรวด หิน ผงเหล็ก กันมิให้บาดตา แล้วรีบเอาของที่เข้าตาออก
ตาอักเสบจากไม้หรือของแข็งดีดเข้าตา
ขนานที่ 1
เอาผักบุ้งสด 1 ต้น ล้างน้ำให้สะอาด ตำในครกสะอาดให้ละเอียด คั้นเอาน้ำใส่ถ้วยไว้ใช้ หยอดตาทั้งสองข้าง (ถึงแดงข้างเดียวก็ต้องหยอดทั้งสองข้าง)
ขนานที่ 2
เอาน้ำเมือกว่านหางจระเข้หยอดตาบ่อยๆ หรือวันละ 3-4 ครั้ง และก่อนนอน (คนที่แพ้ห้าม หยอด)
ขนานที่ 3
เอาผ้าชุบน้ำอุ่นค่อนข้างร้อน บิดพอหมาดๆ วางทับหนังตาเอาไว้จนผ้าหายอุ่น แล้วจึงทำ ใหม่อีกที ทำเช่นนี้ทุกครั้งที่ปวดตาหรือเคืองตา หรือทำวันละ 4 ครั้ง
ขนานที่ 4
เอาสารส้มสะตุใหม่ๆ โดยใช้สารส้มก้อนขนาดเท่าเม็ดมะขามใหญ่ๆ 1 ก้อนเอาไปสะตุแล้ว ละลายน้ำสุกที่เพิ่งเย็น ละลายเข้าด้วยกันใช้หยอดตา แก้ตาแดง ตาเจ็บ เยื่อตาเป็นแผลหยอดวันละ 3-4 ครั้งและก่อนนอน ยานี้ไม่ควรใช้ข้ามวัน
ขนานที่ 5
เอาขมิ้นผง 1 ช้อนแกง (ใช้ช้อนแกงแบบช้อนสังกะสีตักผงขมิ้นแล้วใช้มีดปาดผงขมิ้นที่ล้น ออก) ต้มกับน้ำ 2 แก้ว ต้มจนเหลือน้ำ 1 แก้ว ใช้น้ำยานี้ล้างตา และหยอดตาวันละ 3-4 ครั้ง ก่อนนอน ยานี้ห้ามใช้ข้ามวัน
ขนานที่ 6
เอาแก่นฝางหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆใส่น้ำให้ท่วมยา ต้มให้เดือดสัก 5-10 นาที ใส่พิมเสนลงไปเล็กน้อย (ใส่จนพิมเสนไม่ละลาย) เอาน้ำยาที่ได้ใช้ล้างตาวันละ 3-4 ครั้ง และก่อนนอน ห้ามใช้น้ำยาข้ามวัน
ขนานที่ 7
เอาชาจีนชงด้วยน้ำเดือดให้แก่ ๆ แล้วรมตาด้วยไอน้ำชาจนหมดไอ ทำวันละ 3-4 ครั้ง และก่อนนอน
ตาแดงในเด็กเล็ก
ใช้น้ำนมหยอดตา ให้ไปขอน้ำนมหญิงแม่ลูกอ่อน จับตัวเด็กนอนบนตัก หงายหน้าให้หญิง บีบเต้าให้น้ำนมหยดใส่นัยน์ตาข้างละหนึ่งหยดหรือสองหยด วันละ 2 ครั้ง วันเดียวหรือสองวันก็หาย (ต้องบีบออกจากเต้าโดยตรงจะได้สะอาด)
ตาบอดกลางคืน
เกิดเพราะขาดวิตามินเอ ให้กินผักบุ้งหรือตับสัตว์หรืออาหารที่มีไวตามินเอมาก ๆ เช่น มะละกอ ข้าวโพด
คันตา
ถ้าคันตาเฉย ๆ โดยตาไม่แดง ไม่มีขี้ตาตาไม่บอด ไม่โดนกระทบกระเทือน แสดงว่าตาแพ้ อะไรสักอย่างหนึ่ง เช่น สบู่ที่ใช้ ควันไฟ ให้หลีกเลี่ยงเสีย
เกล็ดกระดี่ขึ้นตา
เกิดจากขาดวิตามินเออย่างรุนแรง ให้กินตับสัตว์มาก ๆ และให้ถ่ายพยาธิด้วย หลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้ตาเสีย
(1) อย่าดูโทรทัศน์ในห้องมืด ถ้าดูในห้องมืดแสงจากโทรทัศน์จะจ้าไปทำลายดวงตาได้
(2) อย่าอ่านหนังสือย้อนแสง
(3) อย่าอ่านหนังสือในที่ที่แสงไม่พอ
(4) อย่าอ่านหนังสือบนรถ |