ความฝัน
เป็นความสุขที่ประหยัดที่สุด
ความสุขจากการมีสิ่งต่าง ๆ ยังต้องแลกเปลี่ยนด้วยเงินตรา แต่ความสุขที่เกิดจากความฝัน ไม่ต้องซื้อหา ก็เกิดขึ้นได้
ความฝัน เป็นเสมือนเข็มทิศของผู้หลงทาง ที่มีความหวังว่า จะต้องมีผู้มานำทางให้ออกจากป่าได้
ความฝัน เป็นความหวังของผู้ที่กำลังตกอยู่ในความทุกข์
อาจมีใครสักคนที่มาช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
ฝันยามหลับ
แม้จะให้ความสุข แต่ไม่อาจเป็นจริงขึ้นได้เมื่อยามตื่น
แต่ฝันยามตื่น..อาจทำให้เกิดความจริงมาได้ ถ้าคนฝันนั้นมาเริ่มต้นสานฝัน และทอฝันนั้นให้เป็นจริง
ฝนที่ตกลงมาท่ามกลางความร้อนระอุของเปลวแดดย่อมนำความชุ่มฉ่ำมาให้ ฉันใด
ความฝัน ย่อมนำความสุขมาให้กับผู้ที่ทอฝันให้เป็นจริงได้ ฉันนั้น
ความฝันที่ก่อความสุขให้อย่างแท้จริง คือ ความฝันที่ประกอบด้วยปัญญา
ความฝันที่สูงสุดคือ มรรค ผล นิพพาน
จงเริ่มต้นฝัน..ฝันที่จะเป็น พระโสดาบัน แล้วเริ่มทอฝันให้เป็นจริง
โดยการเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้ความจริง (ปริยัติ)
นำชีวิตมาตั้งมั่นเดินอยู่บนเส้นทาง (ปฏิบัติ)
และจงเชื่อมั่นในความฝันของตนเองสักวันหนึ่ง
ฝันนั้นย่อมเป็นจริง(ปฏิเวธ)
เพราะว่า
เมื่อเป็น พระโสดาบัน ปลอกคอที่รัดอยู่ ย่อมหลุดออกไป เมื่อไม่มีปลอกคอ อาหารที่ได้รับย่อมก่อให้เกิดประโยชน์มากขึ้น
เมื่อเป็น พระสกทาคามี ปลอกที่รัดข้อมือก็หลุดออกไป เมื่อไม่มีปลอกรัดมือ โอกาสที่จะไขว่คว้าปัญญาย่อมมีมากขึ้น
เมื่อเป็น พระอนาคามี ปลอกที่รัดข้อเท้าก็หลุดออกไป ทำให้ชีวิตหลุดออกจากการผูกรัด กระโดดออกจากปุถุชน
สู่ความเป็นอริยชน คือ
พระอรหันต์ ได้ในที่สุดนั่นคือ "ความฝันที่ให้ความสุขอย่างแท้จริง"
|