เมื่อวันที่ 10 มีนาคม นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวชี้แจงกรณีออกประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา ให้เจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ต่ำกว่า 70% เป็นเครื่องสำอาง ห้ามผลิต นำเข้า หรือขาย ว่า การล้างมือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จึงกำหนดให้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือมีมาตรฐานและมีคุณภาพโดยให้ผลิต นำเข้า และขาย แอลกอฮอล์เจลที่เท่ากับหรือมากกว่า 70% ขึ้นไป แต่ห้ามผลิต นำเข้า และขายในส่วนที่ต่ำกว่า 70% เพื่อมาตรฐานในการใช้งาน และที่ระบุว่าแอลกอฮอล์เจลล้างมือยังเป็นเครื่องสำอาง เนื่องจากส่วนของกำลังผลิตที่มีสูตรการผลิตแอลกอฮอล์เจลที่มากกว่า 70% ที่ทั้งหมด 2,643 ตำรับ มีสถานผลิต 766 แห่ง ส่วนของกำลังการผลิตประมาณ 90 ตันต่อวัน แบ่งเป็น แบบขวดปริมาณ 450 กรัม ประมาณ 190,000 ขวดต่อวัน และแบบที่เป็นหลอดปริมาณ 50 กรัม 1,780,000 หลอดต่อวัน
          "เวลาอ่านข้อความในประกาศราชกิจจานุเบกษา จะต้องอ่านทั้งหมด อย่าอ่านเพียงแค่หัว หรือคัดมาบางส่วนก็จะเป็นประเด็น และประชาชนเองก็สามารถผลิตใช้เองด้วยสูตรของ อย.แบบอย่างง่ายที่สุดคือ ปริมาณ 100 ซีซี ควรจะมีแอลกอฮอล์ 95% ประมาณ 75 ซีซี กลีเซอร์ลีน 5 ซีซี และผสมน้ำ 20 ซีซี ประชาชนสามารถทำได้เองเลย" นพ.ไพศาลกล่าว และว่า แอลกอฮอล์ล้างมือเจลเป็นเครื่องสำอาง อย.จะให้จดแจ้งได้จะต้องมีปริมาณของแอลกอฮอล์มากกว่า 70% ขึ้นไปเท่านั้น ดังนั้นสินค้าที่ถูกต้องจะต้องมีเลขจดแจ้ง 13 หลักอยู่ ซึ่งสามารถนำไปตรวจสอบได้ในระบบออนไลน์เว็บไซต์ของ อย. ประชาชนสามารถนำเลขเข้าไปตรวจสอบได้ด้วยตนเอง
          ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การล้างมือเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากมือสามารถนำเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายได้ ดังนั้นจะต้องล้างมือบ่อยๆ การล้างมือที่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ สามารถล้างได้ด้วยน้ำสบู่ แต่หากไม่สะดวกก็สามารถใช้แอลกอฮอล์ล้างมือเจลได้