นายแพทย์ภาคภูมิ มโนสิทธิศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม เปิดเผยเมื่อ เร็ว ๆ นี้ ว่า หลังจากที่ประเทศไทยได้เกิดเชื้อไวรัส COVID-19  ระบาด โรงพยาบาลมหาสารคาม จึงได้มีการคุมเข้มเฝ้าระวัง โดยมีการตั้งจุดคัดกรองผู้ป่วยไข้หวัดบริเวณชั้น 1 อาคารผู้ป่วยนอก และได้มีการเฝ้าระวัง พร้อมออกเตือนประชาชนรับมือการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19 ของโรงพยาบาล โดยโรงพยาบาลมหาสารคาม ได้ใช้เครื่องวัดอุณหภูมิตรวจผู้ป่วยมาใช้บริการ พร้อมเตรียมจุดล้างมือ บริการในทุกประตูทางเข้า ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการคัดกรองผู้ป่วย
          ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม เปิดเผยอีกว่า ทั้งนี้ การตรวจวัด หากพบอุณหภูมิร่างกายเกิน 37.5 องศาเซลเซียส จะเชิญเข้าห้องสังเกตอาการ และซักประวัติการเดินทาง ประวัติสุขภาพก่อน เพื่อเป็นการป้องกันและลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของ COVID-19 นอกจากนี้ยังมีการแยกโรคผู้ป่วยแพร่เชื้อทางอากาศ พร้อมรับฟังแนวทางการปฏิบัติกรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส COVID-19  จึงได้วางมาตรการเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย และญาติ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคต่อไป โดยประกาศขอความร่วมมือจำกัดการเข้าเยี่ยม ครั้งละ 1 คนในช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น พร้อมให้ญาติผู้ป่วยทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่หอผู้ป่วยเตรียมไว้ให้ ทั้งก่อน-หลัง เข้าเยี่ยมผู้ป่วย
          นายแพทย์ภาคภูมิ เปิดเผยด้วยว่า ได้ขอความร่วมมือให้ผู้มีความเสี่ยงกักตัวอยู่บ้านเป็นเวลา 14 วัน นอกจากนี้จังหวัดมหาสารคาม ยังได้เตรียมมาตรการการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และการสาธารณสุข กรณีมีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19  หรือหากเข้าสู่การระบาดในวงกว้าง ระยะที่ 3 จะให้โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง เตรียมความพร้อมของห้องแยกโรคความดันลบ ห้องแยก และสำรองทรัพยากรในการดูแลผู้ป่วยให้เพียงพอ หากกรณีที่มีผู้ป่วยยืนยัน (Confirm case) ในโรงพยาบาลมหาสารคาม มากกว่า 30 ราย ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคามประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดมหาสารคาม เพื่อมีมติเปิดโรงพยาบาลชุมชนในพื้นที่ หรือเปิดหอผู้ป่วยเพิ่มเติมของโรงพยาบาลมหาสารคาม เป็นโรงพยาบาลเฉพาะด้าน เพื่อการรักษาโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19  พร้อมเพิ่มมาตรการอื่น ๆ ตามความจำเป็นต่อไป.