'บิ๊กตู่'เผยสูตรสำเร็จเรียน 5 วัน พัก 9 วัน ทดลองการศึกษาแนวใหม่ ห่วงเด็กเล็กยังซน 'ณัฏฐพล'ขอ สธ.-มท.ช่วย ศธ.
          นายกฯห่วงเด็กเล็กเปิดเทอม
          เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีจะมีการเปิดเทอมวันแรกในวันที่ 1 กรกฎาคม ว่า ในที่ประชุมทางกระทรวงศึกษาธิการได้ชี้แจงมาตรการต่างๆ มาแล้ว โดยเฉพาะนักเรียนชายขอบ ยังไม่อนุญาตให้เข้ามาจนกว่าจะมีมาตรการที่รัดกุมในการเปิดโรงเรียน ส่วนใหญ่มีความพร้อมแล้ว 80 กว่าเปอร์เซ็นต์ ส่วนโรงเรียนยังไม่พร้อมก็ยังไม่เปิดในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ วันนี้มีแนวทางใหม่ว่าเราจะมีระบบการศึกษาของเราอย่างไร เช่น การเรียนที่บ้าน การศึกษาออนไลน์ และการปรับเวลาเรียนเหลื่อมเวลาโรงเรียน หรือเหลื่อมเวลาเรียน มีสูตรสำเร็จออกมาว่าเรียน 5 วันพัก 9 วัน เขามีสูตรอยู่ตอนนี้ต้องทดลองแนวใหม่ในเรื่องการศึกษา ระบบของเราให้ได้ และการศึกษาระบบเดิมๆ ก็ต้องทำให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องการปรับองค์กร บุคลากรต่างๆ ให้มีความตื่นตัวในเรื่องระบบการศึกษาเพื่อปรับปรุงมาตรฐาน ยกระดับให้มากยิ่งขึ้น ที่ดีเยอะแยะ ยังไม่พร้อม ยังต้องมาปรับปรุงอีกเยอะเหมือนกัน อยู่ที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกัน
          "วันนี้สิ่งสำคัญที่สุดทุกโรงเรียนต้องมีมาตรการโดยครู ผู้ปกครอง ต้องใช้หน้ากาก เป็นห่วงเด็กเล็กยังซนอยู่ ครูและผู้ปกครองต้องย้ำเตือนกับเด็กเสมอว่าต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา ยกเว้นในช่วงต้องถอด ก็รู้อยู่แล้วว่าช่วงไหน ดุลพินิจของโรงเรียนต่างๆก็ต้องดูแล คือจะต้องเป็นโรงเรียนปลอดโควิด เหมือนกับโรงเรียนต่างๆ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
          'ณัฏฐพล'ขอสธ.-มท.ช่วยศธ.
          นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า  ขณะนี้พบว่าโรงเรียนได้ประเมินตนเองเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนดจำนวน 44 ข้อ โรงเรียนทั่วประเทศสามารถประเมินและตอบโจทย์ที่กำหนดไว้ได้ ส่วนการปฏิบัติจริงนั้น โรงเรียนจะพบปัญหาอะไร เช่น ถ้านักเรียนบางกลุ่ม บางห้อง มีความซน จนไม่สามารถควบคุม ศธ.อาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่น เช่น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หรือหน่วยงานส่วนท้องถิ่นส่วนอื่นๆ เข้ามาช่วยเหลือ เป็นต้น ตนเรียนให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบแล้วว่า หากมีความจำเป็น ศธ.ขอความช่วยเหลือจาก สธ.และกระทรวงมหาดไทย (มท.) เข้ามาช่วยเหลือโรงเรียนเพิ่มเติมด้วย
          'ท็อป'ชี้ต้องโหลดแอพพ์เข้าอุทยาน
          นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ว่า ขอให้ประชาชนดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Queq เพื่อจองการเข้าอุทยานแห่งชาติทั้ง 127 แห่งทั่วประเทศ ภายในแอพฯดังกล่าวจะเปิดให้ลงทะเบียนการท่องเที่ยวอุทยานฯแต่ละแห่ง จะให้ระบุว่าจะไปท่องเที่ยวช่วงใด ยานพาหนะแบบไหน รายชื่อ และเบอร์โทรศัพท์ของผู้จะเดินทางไปท่องเที่ยวทุกคน จากนั้นระบบจะให้โค้ดของแต่ละคน เพื่อให้ประชาชนนำไปแสดงก่อนเข้าอุทยานฯ หากไม่มีโค้ดตัวนี้จะไม่สามารถเข้าพื้นที่อุทยานฯได้ ถือเป็นชีวิตวิถีใหม่ในการท่องเที่ยวอุทยานฯของประเทศไทย ตรงนี้จะแจ้งให้ประชาชนได้รับทราบด้วยว่ามีคนจะเข้าไปในพื้นที่จำนวนเท่าไร เหลือที่ว่างเท่าไร ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายอยากให้ควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวเมื่อมีสถานการณ์โควิด-19 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงจะใช้แอปพ์นี้บริหารจัดการนักท่องเที่ยว รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล นอกจากนี้ก่อนประชาชนจะเข้าพื้นที่นอกจากต้องแสดงโค้ดของแอพพ์นี้แล้ว ยังต้องสแกนแอพพ์ไทยชนะ รวมถึงต้องทำความสะอาดมือ และตรวจเช็กอุณหภูมิด้วย ประชาชนสามารถเริ่มลงทะเบียนได้แล้ว วันที่ 1 กรกฎาคมจะให้ประชาชนเข้าพื้นที่ได้เป็นวันแรก หากมีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วย หรือหากมีอะไรจะติชมสามารถโทรศัพท์มาสายด่วนกรมอุทยานฯ 1362
          สธ.แถลงเตรียมพร้อมเปิดเทอม
          ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย แถลงการเตรียมความพร้อมเปิดเทอม ตามมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 5 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า ขณะนี้ได้รับความร่วมมือในการใช้แพลตฟอร์ม Thai stop covid แพลตฟอร์มกลางประเมินความพร้อมของหน่วยงาน มี 44 ข้อ แบ่งเป็นมาตรการหลัก 20 ข้อ และมาตรการเสริมของสาธารณสุข 24 ข้อ โรงเรียนทั้งประเทศมีมากกว่า 38,450 แห่ง
          พญ.พรรณพิมลกล่าวว่า ขณะนี้ประเมินเบื้องต้น 33,597 แห่ง จากทุกสังกัด ทั้งสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และโรงเรียนพระปริยัติธรรม โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 85.7 ผ่านมาตรการทุกข้อทั้ง 44 ข้อ เป็นความร่วมมือที่โรงเรียนได้เตรียมความพร้อมให้กับเด็ก แต่ยังมีบางส่วนยังต้องดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อให้ผ่านการประเมินก่อนการเปิดเทอม มาตรการหลัก 6 ข้อ ในการป้องกันโควิด-19 ในสถานศึกษา ได้แก่ 1.มาตรการคัดกรองไข้ก่อนเข้าโรงเรียน 2.การสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในโรงเรียน 3.การจัดจุดล้างมือ 4.การเว้นระยะห่าง 5.ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสร่วม และ 6.ลดความแออัด ไม่จัดกิจกรรมที่มีการสัมผัสร่วมกัน
          เจอติดโควิด2-3คนปิดทั้งร.ร.
          "แต่ยังมีบางส่วนที่ไม่ผ่านมาตรการหลักข้อใดข้อหนึ่ง ข้อที่อาจเป็นข้อจำกัดอยู่คือเว้นระยะห่าง โดยเฉพาะโรงเรียนขนาดใหญ่ แต่พอเริ่มมีต้นแบบว่าจะจัดอย่างไรแล้ว หลายๆ โรงเรียนก็ถือว่าดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดการจัดการบางเรื่องเป็นไปตามลักษณะของโรงเรียน จะมีการตรวจติดตามร่วมกัน ตอนนี้มีต้นแบบของโรงเรียนเกือบทุกขนาดอยู่แล้ว จะดูอย่างให้มั่นใจ แต่ไม่อยากให้กังวลใจ โรงเรียนไม่ผ่านเราจะลงไปช่วยเหลือเพื่อให้เด็กได้เรียนหนังสือ ขออย่ากังวล" พญ.พรรณพิมลกล่าว
          อธิบดีกรมอนามัยกล่าวว่า ขณะนี้ สธ. กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงมหาดไทย ได้พูดคุยและเตรียมพร้อมมาจำนวนมาก เหลืออีกจำนวนมากยังไม่ได้ลงไปดู ดังนั้นอย่างน้อยใน 2 สัปดาห์แรกหลังเปิดเรียน จะต้องกำกับติดตามการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคผ่านผู้ตรวจราชการ สธ.และจิตอาสาพิทักษ์อนามัยโรงเรียน ควบคู่มาตรการติดตามปกติ อิงตามมาตรการหลัก 20 ข้อ ครูต้องบันทึกอาการป่วยของเด็กทุกวัน โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ หากเจ็บป่วยพร้อมกัน 5 รายขึ้นไป ต้องรายงานไปยังหน่วยงานสาธารณสุขที่จับคู่กับโรงเรียนให้เข้าไปควบคุมโรคโดยเร็ว เพื่อตัดวงจรการระบาดในโรงเรียน มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด จะดูแลโรงเรียนในพื้นที่ทั้งหมด รวมถึงสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยด้วย
          "เราจะบันทึกการเจ็บป่วยของนักเรียนทุกวันว่าเป็นอย่างไรเพื่อดูแนวโน้มก่อน เช่น อยู่ๆ มีเด็กเป็นไข้หลายคน 5 คนขึ้นไป ต้องลงไปดูและสอบสวนโรคว่าใช้โควิด-19 หรือไม่ ถ้า 1 คน เป็นโควิด-19 ก็ต้องดูต่อว่าเป็นในกลุ่มห้องเรียนเดียว ชั้นเรียนเดียว หรือไม่ ถ้าใช่ก็หยุดชั้นเรียนเดียวนั้น แล้วจัดการเรื่องความสะอาด ควบคุมสังเกตอาการนักเรียนทุกคนในห้องเรียนเดียวกัน แต่ถ้าใน 5 คน เป็น โควิด-19 จำนวน 2-3 คน แปลว่าการกระจายตัวของโควิด-19 มากกว่า 1 ชั้นเรียน มีความจำเป็นต้องปิดทั้งโรงเรียน เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถควบคุมป้องกันโรค จำกัดวงของโรคได้" พญ.พรรณพิมลกล่าว
          ตร.ชลฯซื้อชุดใหม่ให้นักเรียน
          กรณีเกิดเหตุคนร้ายไปโจรกรรมชุดนักเรียนของลูกสาว น.ส.ดาริน อาบสุวรรณ อายุ 46 ปี มีอาชีพนวดแผนโบราณ ที่บ้าน หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดย น.ส.ดารินได้ไปซื้อชุดนักเรียนให้กับลูกสาว 2 คน รวม 6 ตัว ซักตากไว้ เตรียมให้ลูกสาวไปโรงเรียน ปรากฏว่าช่วงกลางดึกมีคนร้ายขี่จักรยานยนต์ ลักขโมยชุดนักเรียนไปทั้งหมด ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เพราะช่วงโควิด-19 ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ จึงนำเงินเก็บซื้อเสื้อผ้านักเรียนจนหมด กระทั่งชุดสืบสวนของ สภ.หนองปรือทราบข่าว จึงได้ช่วยบริจาคเงินซื้อชุดนักเรียน เครื่องเขียนให้กับลูกสาว 2 คน ของน.ส.ดาริน เมื่อมีการเผยแพร่ข่าวออกไปตามโซเชียล ทำให้ชาวโซเชียลแห่ชมกันอย่างมากมาย
          ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 อ.เมือง จ.ชลบุรี พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 ได้มอบใบประกาศนียบัตรให้กับตำรวจชุดสืบสวนสอบ สภ.หนองปรือ ประกอบไปด้วย ร.ต.อ.ปรีดา ช่างแกละ, ดาบตำรวจ พงศ์ฤทธิ์ ศรีสมบูรณ์, ดาบตำรวจ สถิตย์ ทองสถิตย์ และดาบตำรวจ ชินรัตน์ แลบุตร ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ส่วน พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ เป็นตัวแทนรับมอบเงินรางวัลแห่งการทำความดีของตำรวจชุดดังกล่าว
          ร.ต.อ.ปรีดากล่าวว่า ลงพื้นที่ตรวจสอบและติดตามตัวคนร้ายพบเห็นแม่เด็กมีอาการเศร้าหมอง จึงตกลงกับชุดสืบสวนช่วยกันบริจาคเงินคนละ 500 บาท ได้เงินมา 2,000 บาท จากนั้นได้พาไปซื้อชุดนักเรียนคืนให้ทั้งหมด ไม่ได้คิดอะไรมาก อยากจะช่วยเหลือเท่านั้น
          สมุทรสงครามใช้'กูเกิลคลาสรูม'
          ที่โรงเรียนศรัทธาสมุทร ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม มีนักเรียนกว่า 2,000 คน นาย สมเกียรติ รั้วมั่น ผอ.ร.ร.ศรัทธาสมุทร กล่าวว่า การจัดการเรียนการสอนได้จัดแบบสลับกลุ่มนักเรียนแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มเลขที่คี่ และ กลุ่มเลขที่คู่ จะสลับกันมาเรียนแบบวันเว้นวัน หากมีวันหยุดนักขัตฤกษ์ให้มาเรียนชดเชยวันเสาร์ ส่วนในวันที่นักเรียนกลุ่มที่หยุดอยู่บ้านให้นักเรียนเรียนรู้นอกห้องเรียน เช่น ใบความรู้ เรียนทางโทรทัศน์ หรือ ออนไลน์ทาง กูเกิล คลาสรูม เป็นต้น