|
| หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 24/08/2563 ] |
|
|
|
|
| สธ.ลั่นพร้อมรับมือระบาดรอบ2 ไทยติดโควิดเพิ่ม5กลับจากนอก |
|
|
|
|
'สธ.'ยันเข้มงวดคนเดินทางมาจากต่างประเทศ สกัดไม่ให้นำเชื้อโควิดเข้ามาแพร่ในไทย แต่พร้อม รับมือหากมีระบาดรอบ 2 วอนคนไทยรักษาวินัยสวมหน้ากาก-ล้างมือ
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม เฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศไทยว่ามีผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าพักในสถานกักกันโรค ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,395 ราย ติดเชื้อในประเทศ 2,444 ราย และอยู่ในสถานกักกันโรคของรัฐ 458 ราย รักษาหายป่วยแล้ว 3,221 ราย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) 116 ราย เสียชีวิตสะสม 58 ราย
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย ได้แก่ 1.อินเดีย 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 41 ปี อาชีพแม่บ้าน เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม เดินทางมาถึงไทย เป็นเที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 19 ราย เข้าพักในสถานกักกันโรคของรัฐ ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 3 ผลตรวจพบเชื้อ ให้ประวัติเคยมีอาการป่วย (อยู่ระหว่างสอบสวน) 2.อังกฤษ 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 45 ปี อาชีพรับจ้าง เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม เดินทางมาถึงไทยเข้าพักในสถานกักกันโรคของรัฐ ใน จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ผลตรวจพบเชื้อ โดยไม่มีอาการ 3.โอมาน 3 ราย เป็นหญิงไทย 2 ราย อายุ 26 ปี ว่างงาน และ 29 ปี อาชีพพนักงานโรงแรม ส่วนอีก 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 53 ปี อาชีพรับจ้าง เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม เดินทางมาถึงไทย เข้าพักในสถานกักกันโรคของรัฐ ใน จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 ผลตรวจพบเชื้อ ทั้งหมดไม่มีอาการ
วันเดียวกัน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า มาตรการการดูแลสำหรับคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ยังคงเข้มงวดทุกขั้นตอน โดยทุกคนต้องถูกกักตัวเพื่อเฝ้าระวังสังเกตอาการ 14 วัน และตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะไม่มีการนำเชื้อเข้าสู่ประเทศ หากพบว่าป่วยหรือติดเชื้อจะนำเข้าสู่ระบบการรักษาทันที
นพ.โสภณกล่าวว่า สำหรับข้อกังวลของประชาชนว่าจะเกิดระบาดระลอก 2 นั้น สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ไม่เกิดการระบาดได้ คือ รักษาวินัยในการป้องกันตนเองทำให้เป็นนิสัย โดยการสวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้านและตลอดเวลาขณะอยู่ในพื้นที่สาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ กินร้อน ใช้ช้อนกลางส่วนตัว เว้นระยะห่างลดการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่น หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่แออัด เมื่อไปใช้บริการในสถานที่ต่างๆ ต้องลงทะเบียนเข้าออก หรือลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะ
นพ.โสภณกล่าวว่า ผู้ประกอบการ หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ยังต้องให้ความร่วมมือรักษามาตรการที่รัฐได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันและช่วยรักษาสถานการณ์ให้อยู่ในระดับต่ำต่อไป แต่หากเกิดการระบาดขึ้น ระบบสาธารณสุขของไทยมีความพร้อมที่สามารถรองรับการดูแลรักษาประชาชนได้ และขอความร่วมมือประชาชน ไม่ส่งต่อ ไม่แชร์ ไม่เชื่อ ข่าวปลอมที่ไม่ทราบแหล่งที่มา โดยสามารถติดตามข่าวสารที่ถูกต้องเชื่อถือได้ จากศูนย์บริหารสถานการณ์ แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. และกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
วันเดียวกัน เว็บไซต์ เวิลโดมิเตอร์ส รายงานสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ทั่วโลกว่า ยอดผู้ติดเชื้อรวม 23,383,472 คน เสียชีวิต 808,715 ราย รักษาหาย 15,910,371 คน
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐอเมริกายังมากเป็นอันดับที่ 1 กว่า 5.8 ล้านคน ตามด้วยบราซิล 3.5 ล้านคน ส่วนอินเดียพุ่งทะลุ 3 ล้านคน หลังจากช่วง 1 วันที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึงกว่า 70,000 คน มากที่สุดในโลก ตามมาด้วยรัสเซีย 951,000 คน และแอฟริกาใต้กว่า 600,000 คน
ส่วนยอดผู้เสียชีวิต สหรัฐอเมริกายังคงเป็นอันดับที่ 1 กว่า 180,174 ราย ตามมาด้วยบราซิลกว่า 114,277 ราย เม็กซิโก 60,254 ราย อินเดีย 56,846 ราย และอังกฤษที่ 41,423 ราย
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี (เคซีดีซี) ระบุว่า เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงนับจนถึงเที่ยงคืนวันที่ 22 สิงหาคมอีก 397 ราย เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 332 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเกาหลีใต้มีเพิ่มขึ้นรายวันเป็นตัวเลข 3 หลักมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อโควิดในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นกว่า 17,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 309 ราย
รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศขยายเวลามาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในระดับที่ 2 ในกรุงโซลต่อไป โดยห้ามการรวมกลุ่มทำกิจกรรมทางศาสนาในโบสถ์ ปิดสถานบันเทิงเวลากลางคืน ร้านอาหารบุฟเฟต์ และร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ และอาจจะประกาศมาตรการในระดับที่ 3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่จะสั่งปิดโรงเรียนและร้านค้าต่างๆ หากยอดผู้ติดเชื้อยังไม่ลดลงในเร็วๆ นี้
ด้านกระทรวงสาธารณสุขอิตาลี เผยเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า ยอดผู้ติดเชื้อ โควิดรายใหม่ในประเทศในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอีก 1,071 ราย นับเป็นยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มสูงกว่า 1,000 ราย เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ลง
รายงานระบุว่าอิตาลีได้รับผลกระทบจาก โควิดมากที่สุดในยุโรป มียอดผู้เสียชีวิตแล้ว กว่า 35,000 ราย สามารถควบคุมการแพร่ระบาดในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนเอาไว้ได้ โดยครั้งสุดท้ายที่มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อมากกว่ายอดล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,402 ราย หรือ 6 วันก่อนหน้าที่ร้านอาหาร บาร์ และร้านค้าจะได้รับอนุญาตให้เปิดให้บริการอีกครั้ง หลังการล็อกดาวน์เป็นเวลา 10 สัปดาห์ |
'สธ.'ยันเข้มงวดคนเดินทางมาจากต่างประเทศ สกัดไม่ให้นำเชื้อโควิดเข้ามาแพร่ในไทย แต่พร้อม รับมือหากมีระบาดรอบ 2 วอนคนไทยรักษาวินัยสวมหน้ากาก-ล้างมือ
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม เฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในประเทศไทยว่ามีผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าพักในสถานกักกันโรค ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,395 ราย ติดเชื้อในประเทศ 2,444 ราย และอยู่ในสถานกักกันโรคของรัฐ 458 ราย รักษาหายป่วยแล้ว 3,221 ราย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล (รพ.) 116 ราย เสียชีวิตสะสม 58 ราย
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 5 ราย ได้แก่ 1.อินเดีย 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 41 ปี อาชีพแม่บ้าน เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม เดินทางมาถึงไทย เป็นเที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 19 ราย เข้าพักในสถานกักกันโรคของรัฐ ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 3 ผลตรวจพบเชื้อ ให้ประวัติเคยมีอาการป่วย (อยู่ระหว่างสอบสวน) 2.อังกฤษ 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 45 ปี อาชีพรับจ้าง เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม เดินทางมาถึงไทยเข้าพักในสถานกักกันโรคของรัฐ ใน จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ผลตรวจพบเชื้อ โดยไม่มีอาการ 3.โอมาน 3 ราย เป็นหญิงไทย 2 ราย อายุ 26 ปี ว่างงาน และ 29 ปี อาชีพพนักงานโรงแรม ส่วนอีก 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 53 ปี อาชีพรับจ้าง เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม เดินทางมาถึงไทย เข้าพักในสถานกักกันโรคของรัฐ ใน จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 ผลตรวจพบเชื้อ ทั้งหมดไม่มีอาการ
วันเดียวกัน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า มาตรการการดูแลสำหรับคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ยังคงเข้มงวดทุกขั้นตอน โดยทุกคนต้องถูกกักตัวเพื่อเฝ้าระวังสังเกตอาการ 14 วัน และตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะไม่มีการนำเชื้อเข้าสู่ประเทศ หากพบว่าป่วยหรือติดเชื้อจะนำเข้าสู่ระบบการรักษาทันที
นพ.โสภณกล่าวว่า สำหรับข้อกังวลของประชาชนว่าจะเกิดระบาดระลอก 2 นั้น สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ไม่เกิดการระบาดได้ คือ รักษาวินัยในการป้องกันตนเองทำให้เป็นนิสัย โดยการสวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้านและตลอดเวลาขณะอยู่ในพื้นที่สาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ กินร้อน ใช้ช้อนกลางส่วนตัว เว้นระยะห่างลดการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่น หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่แออัด เมื่อไปใช้บริการในสถานที่ต่างๆ ต้องลงทะเบียนเข้าออก หรือลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะ
นพ.โสภณกล่าวว่า ผู้ประกอบการ หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ยังต้องให้ความร่วมมือรักษามาตรการที่รัฐได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันและช่วยรักษาสถานการณ์ให้อยู่ในระดับต่ำต่อไป แต่หากเกิดการระบาดขึ้น ระบบสาธารณสุขของไทยมีความพร้อมที่สามารถรองรับการดูแลรักษาประชาชนได้ และขอความร่วมมือประชาชน ไม่ส่งต่อ ไม่แชร์ ไม่เชื่อ ข่าวปลอมที่ไม่ทราบแหล่งที่มา โดยสามารถติดตามข่าวสารที่ถูกต้องเชื่อถือได้ จากศูนย์บริหารสถานการณ์ แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. และกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
วันเดียวกัน เว็บไซต์ เวิลโดมิเตอร์ส รายงานสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ทั่วโลกว่า ยอดผู้ติดเชื้อรวม 23,383,472 คน เสียชีวิต 808,715 ราย รักษาหาย 15,910,371 คน
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐอเมริกายังมากเป็นอันดับที่ 1 กว่า 5.8 ล้านคน ตามด้วยบราซิล 3.5 ล้านคน ส่วนอินเดียพุ่งทะลุ 3 ล้านคน หลังจากช่วง 1 วันที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึงกว่า 70,000 คน มากที่สุดในโลก ตามมาด้วยรัสเซีย 951,000 คน และแอฟริกาใต้กว่า 600,000 คน
ส่วนยอดผู้เสียชีวิต สหรัฐอเมริกายังคงเป็นอันดับที่ 1 กว่า 180,174 ราย ตามมาด้วยบราซิลกว่า 114,277 ราย เม็กซิโก 60,254 ราย อินเดีย 56,846 ราย และอังกฤษที่ 41,423 ราย
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี (เคซีดีซี) ระบุว่า เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงนับจนถึงเที่ยงคืนวันที่ 22 สิงหาคมอีก 397 ราย เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 332 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเกาหลีใต้มีเพิ่มขึ้นรายวันเป็นตัวเลข 3 หลักมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อโควิดในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นกว่า 17,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 309 ราย
รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศขยายเวลามาตรการควบคุมการแพร่ระบาดในระดับที่ 2 ในกรุงโซลต่อไป โดยห้ามการรวมกลุ่มทำกิจกรรมทางศาสนาในโบสถ์ ปิดสถานบันเทิงเวลากลางคืน ร้านอาหารบุฟเฟต์ และร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ และอาจจะประกาศมาตรการในระดับที่ 3 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่จะสั่งปิดโรงเรียนและร้านค้าต่างๆ หากยอดผู้ติดเชื้อยังไม่ลดลงในเร็วๆ นี้
ด้านกระทรวงสาธารณสุขอิตาลี เผยเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า ยอดผู้ติดเชื้อ โควิดรายใหม่ในประเทศในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอีก 1,071 ราย นับเป็นยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มสูงกว่า 1,000 ราย เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ลง
รายงานระบุว่าอิตาลีได้รับผลกระทบจาก โควิดมากที่สุดในยุโรป มียอดผู้เสียชีวิตแล้ว กว่า 35,000 ราย สามารถควบคุมการแพร่ระบาดในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนเอาไว้ได้ โดยครั้งสุดท้ายที่มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อมากกว่ายอดล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,402 ราย หรือ 6 วันก่อนหน้าที่ร้านอาหาร บาร์ และร้านค้าจะได้รับอนุญาตให้เปิดให้บริการอีกครั้ง หลังการล็อกดาวน์เป็นเวลา 10 สัปดาห์ |
|
| | |
|
|
