แอบตื่นเต้นและมีความหวังเล็กๆ ว่า การเดินทางระหว่างประเทศ (อย่างมีระบบระเบียบ) จะเกิดขึ้นได้เร็วๆ นี้ ท่ามกลางการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ยังอยู่ เมื่อได้ยิน "เรทโน มัรซูดี" รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย เสนอแนวคิดจัดทำ Asean Travel Bubble ช่วยฟื้นฟูแผนการเดินทางท่องเที่ยวต่อที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 53 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม
          แหล่งข่าวการทูตในแวดวงอาเซียน เปิดเผยว่า สุ่มเสียงที่ประชุมรัฐมนตรี ต่างประเทศอาเซียนมีต่อไอเดีย Asean Travel Bubble ออกมาในเชิงบวก และให้อินโดนีเซียกลับไปร่างแผนการดังกล่าวมาเสนอต่อที่ประชุมอาเซียนซัมมิต ครั้งที่ 37 ในเดือน พ.ย.2563
          แม้ว่า Asean Travel Bubble จะเป็นแนวคิดโดนใจ แต่ท่ามกลางกระแสโควิด-19 ยังฝุ่นตลบ ชนิดที่หลายๆ ประเทศยังต้องลุ้นรายวันว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ ทำให้ประเทศส่วนใหญ่ขอฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะกระทรวงสาธารณสุข คมนาคม และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพราะแผนจัดทำ Asean Travel Bubble มีความเชื่อมโยงกับมาตรการคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศ ซึ่งเป็นผลพวงจากที่แต่ละประเทศประกาศขึ้นมาเพื่อสกัดกั้น การระบาดไวรัสนี้
          "ทุกประเทศอาเซียนย้ำว่าตอนนี้เริ่มมีความจำเป็นต้องพิจารณาเปิดประเทศให้สมดุล ระหว่างการดูแลด้านสาธารณสุขกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ" แหล่งข่าวการทูตเผย
          ขณะที่ประเทศคู่เจรจาอื่นๆ อย่างจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ก็แสดง ท่าทีชัดเจนว่ามีความพร้อมจะทำ Travel Bubble กับประเทศใน อาเซียนด้วย ซึ่งตอนนี้มีหลายประเทศในอาเซียนได้จับคู่ทวิภาคีเจรจาจัดทำแผน Travel Bubble ไปบ้างแล้ว เช่น มาเลเซีย กับสิงคโปร์ มาเลเซียกับบรูไน ญี่ปุ่นกับสิงคโปร์ ญี่ปุ่นกับเวียดนาม จีนกับสิงคโปร์ เป็นต้น
          เมื่อถามถึงนิยามคำว่า Asean Travel Bubble ที่อาเซียนจะใช้เป็น กรอบการท่องเที่ยวในภูมิภาค นั่นหมายถึงข้อตกลงระหว่างประเทศที่เปิดให้ คนเดินทางไปหาอีกประเทศหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ โดยไม่ต้องถูกกักตัว 14 วัน ซึ่งจะตกลงเปิดประเทศให้แก่กันและกัน โดยประเทศเหล่านี้จะต้องรักษาระดับจำนวนผู้ติดเชื้อไม่ให้เพิ่มสูง และต้องมั่นใจเรื่องการควบคุมไวรัสในอีกประเทศหนึ่ง รวมไปถึงอาจมีเงื่อนไขอื่นๆ ขึ้นอยู่กับข้อตกลง เช่น ต้องมีใบรับรองผลตรวจโรคโควิด-19 มายื่น ที่สนามบินปลายทาง เป็นต้น
          นักการทูตอาเซียน กล่าวด้วยว่า เวียดนามยังเสนอให้จัดทำ Meeting Bubble สำหรับการเดินทางเฉพาะผู้มีภารกิจการประชุม เข้ามาเสริมจากที่ หลายประเทศได้จับคู่จัดทำเส้นทางปลอดภัย (กรีนเลน) เพื่อเปิด ให้เดินทางติดต่อและเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับการทำธุรกิจ ตลอดจน เดินทางติดต่อราชการระหว่างกันในระยะสั้นๆ โดยพบว่าสิงคโปร์ได้จัดทำกับจีนแล้วเป็นชาติแรก ระหว่างนี้กำลังเจรจาทำกับเกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และมาเลเซีย
          ถึงอย่างไรปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญที่สุดเพื่อให้การเดินทางระหว่างกัน เกิดขึ้นได้ ก็คงเป็นการเปิดเผยถึงสถานการณ์ที่แท้จริงของการ แพร่ระบาดโควิด-19 ในอาเซียน เพื่อให้ Travel Bubble เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของภูมิภาคมากกว่าเป็นช่องทาง กระจายเชื้ออย่างเสรี