Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 26/11/2563 ]
สธ.ชู นโยบาย สุขภาพดีวิถีใหม่ - ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ตั้งเป้า 5 ล้านครอบครัวไทย รอบรู้ด้านสุขภาพ

กระทรวงสาธารณสุข มอบ 2 นโยบายหลักสำคัญ 'สุขภาพดีวิถีใหม่ - ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม' วางเป้าหมายให้ครอบครัวไทยมีความรอบรู้ด้านสุขภาพอย่างน้อย 5 ล้านครอบครัว มุ่งดูแลสุขภาพกลุ่มวัยโดยเน้นกลุ่มเด็กปฐมวัย และกลุ่มผู้สูงอายุ ดำเนินการขับเคลื่อนผ่านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด บูรณาการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมมอบโล่เชิดชูเกียรติ 6 ประเภทดีเด่นระดับเขตสุขภาพ ได้แก่ ผู้สูงอายุต้นแบบสุขภาพดีชีวีมีสุข ดีเด่น ชมรมผู้สูงอายุ ดีเด่น ตำบลที่มีระบบการส่งเสริมสุขภาพดูแลผู้สูงอายุระยะยาว (Long Term Care) ในชุมชนผ่านเกณฑ์ ดีเด่น ผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุ (Care Manager) ดีเด่น ผู้ดูแล ผู้สูงอายุ (Caregiver) ดีเด่น และนวัตกรรมด้านการส่งเสริมดูแลสุขภาพผู้สูงอายุดีเด่น ณ ห้องประชุม DIAMOND HALL โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ท จังหวัดปทุมธานี
          ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้การส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคและคุ้มครองผู้บริโภคเป็นเลิศ (PP & P Excellence)   เป็น 1 ใน 4 ยุทธศาสตร์สำคัญ มุ่งเน้นให้ประชาชนมีความรอบรู้ ด้านสุขภาพ (Health Literacy) มีทักษะในการจัดการสุขภาพและปัจจัยโดยรอบได้ด้วยตัวเอง โดยใน ปี 2564 นี้ ได้กำหนดประเด็นการส่งเสริมสุขภาพเพื่อดำเนินการผ่าน 2 นโยบายหลักสำคัญคือ 1) สุขภาพดีวิถีใหม่ : คนไทยรอบรู้ดี สุขภาพดี อารมณ์ดี โดยวางเป้าหมายให้ ครอบครัวไทยมีความรอบรู้ด้านสุขภาพอย่างน้อย 5 ล้านครอบครัว มุ่งเน้นใน 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ประชาชนมีความรอบรู้ในเรื่องการจัดการพฤติกรรมตนเองใน 3 ด้าน คือ การออกกำลังกายการเลือกบริโภคอาหาร และการจัดการอารมณ์ตนเอง สำหรับส่วนที่ 2 คือ การจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยเน้นอาหารปลอดภัยทั้งในสถานประกอบการประเภทสตรีทฟู้ดและตลาดนัด ซึ่งเป็นแหล่งที่ประชาชนเลือกซื้อสินค้าบริโภคเป็นหลัก เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน ความปลอดภัยควบคู่กับการสร้างความเข้าใจด้านสุขอนามัยให้กับผู้บริโภค
          "นโยบายที่ 2 คือ ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม : ดูแลสุขภาพกลุ่มวัยอย่างเป็นระบบมุ่งเน้นสุขภาพเด็กปฐมวัยและผู้สูงอายุ โดยปีนี้กระทรวงสาธารณสุขจะเน้นที่เด็กปฐมวัยซึ่งเป็นช่วงต้นของชีวิต โดยเฉพาะช่วง 1,000 วันแรกที่จะกระตุ้นด้านพัฒนาการและการเจริญเติบโต ซึ่งต้องอาศัยการจัดการโดยชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดการศูนย์เด็กเล็กให้ได้มาตรฐาน มีการสร้างพื้นที่เล่นให้เด็ก เพราะหากเด็กมีความพร้อมสมบูรณ์จะส่งต่อสู่ช่วงวัยอื่นอย่างมีคุณภาพ สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งมีประมาณ 12 ล้านคน และประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้วนั้น การดำเนินงานเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้สูงอายุ กระทรวงสาธารณสุขต้องร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดบริการสุขภาพ สวัสดิการสังคม และพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อลดปัญหาการติดบ้าน ติดเตียง ในกลุ่มผู้สูงอายุให้น้อยลง" ดร.สาธิต กล่าว
          ทางด้านนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินงานพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาว (Long Term Care) ปี 2563 พบว่า มีตำบลที่มีระบบการส่งเสริมสุขภาพดูแลผู้สูงอายุระยะยาว (Long Term Care) ในชุมชนผ่านเกณฑ์ จำนวน 6,722 ตำบล จากทั้งหมด 7,255 ตำบล คิดเป็นร้อยละ 92.65 และมีผู้สูงอายุที่ได้รับการดูแลตาม Care Plan เปลี่ยนกลุ่มจากติดเตียงเป็นติดบ้าน ร้อยละ 1.44 ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงต้องเร่งดำเนินการในระดับพื้นที่ผ่านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ที่จะต้องกำหนดทิศทางให้กับสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และหน่วยบริการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่เร่งยกระดับการส่งเสริมสุขภาพ ให้เกิดผลลัพธ์ต่อสุขภาพประชาชนกลุ่มผู้สูงอายุอย่างยั่งยืน

 pageview  1210908    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved