เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าว รายงานกรณีเกิดเหตุสลดเมื่อมีนักวิ่งเสียชีวิตวันเดียวถึง 3 ราย จากการร่วมแข่งขันวิ่ง 2 รายการ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้แก่ นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ อายุ 59 ปี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ในรายการวิ่ง มินิฮาล์ฟมาราธอน ถิ่นวีรชน ที่ จ.สิงห์บุรี ส่วนอีก 2 ราย คือ นายสงกรานต์ จันธิยะ อายุ 30 ปี และนายนราสิฐ สันสมภาค อายุ 54 ปี ในรายการวิ่งอาสา พาวิ่ง 2020 ที่ จ.ระยอง นั้น
          พล.ต.ต.สุรพงษ์ อาริยะมงคล เลขาธิการสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า ผู้ที่จะร่วมวิ่งทั้งมินิมาราธอน, ฮาล์ฟมาราธอน และมาราธอนนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือต้อง สำรวจว่าตัวเองมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ, ความดัน หรือไม่ ถ้ามีไม่ควรร่วมวิ่ง ส่วนเข้าร่วมการวิ่งนั้น ตามหลักวิทยาศาสตร์การกีฬา ต้องเตรียมตัวคือพักผ่อนให้เพียงพอ ก่อนการวิ่ง 2 วัน ไม่ควรรับประทานอาหารพวกเนื้อสัตว์ ให้ทานพวกแป้งในปริมาณที่พอเหมาะ เช่น ขนมปัง เพราะร่างกายที่เหมาะกับการวิ่งระยะไกลคือจะใช้พลังงานที่เกิดจากคาร์โบไฮเดรต และเกลือแร่จากน้ำดื่มเท่านั้น อีกประการที่สำคัญมากคือก่อนการวิ่งให้งดของหวานและน้ำตาล ระหว่างการวิ่งให้ดื่มน้ำหรือเกลือแร่ เพื่อชดเชยเหงื่อที่เสียไป
          "ทั้งนี้ ไม่มีข้อบังคับว่าต้องทำประกันให้ ผู้ที่เข้าร่วมทุกคน ดังนั้น ผมเห็นด้วยที่ผู้จัดแข่งขันต้องทำประกันผ่านสปอนเซอร์ให้นักกีฬาทุกคน หรือหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์ก็ควรทำโดยใส่ไว้ในเงินสมัครแข่งขัน" พล.ต.ต.สุรพงษ์กล่าว
          นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และสมาคมวิ่งเพื่อสุขภาพ เห็นชอบให้จัดทำมาตรฐานการวิ่งขึ้นใหม่และประกาศใช้แล้ว โดยผู้ขอจัดกิจกรรมวิ่งจะต้องมีหน่วยปฐมพยาบาลเคลื่อนที่ รถพยาบาล รถฉุกเฉิน ตลอดจนดูแลอาหารและน้ำดื่มให้เพียงพอ สำหรับนักวิ่งให้ปฏิบัติ ดังนี้ 1.เตรียมตัวก่อนถึงวันวิ่ง ด้วยการออกกำลังกายหรือซ้อมมาก่อน 2.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-9 ชั่วโมงทุกวัน เพื่อให้ร่างกายพร้อม ไม่กินอาหารมื้อดึก ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และดื่มน้ำให้เพียงพอ และ 3.สังเกตร่างกายตนเองว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่ เช่น ความเหนื่อย ความอ่อนล้า หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ หากไม่มั่นใจให้รีบขอความช่วยเหลือยังจุดปฐมพยาบาลทันที
          นางณิรดา รวยอาจิณ อายุ 58 ปี พยาบาล รพ.สิงห์บุรี ภรรยา นพ.อัษฎางค์ กล่าวขณะนำศพ นพ.อัษฎางค์ ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดเสมียนนารี กทม.ว่า ปกติ นพ.อัษฎางค์ จะออกกำลังกายทุกวันและจะร่วมกิจกรรมการวิ่งเสมอ โดยจะกลับบ้านทุกวันศุกร์แล้วไปทำงานเช้าวันจันทร์ การมาร่วมกิจกรรมวิ่งครั้งนี้เป็นเรื่องปกติ วันเกิดเหตุ นพ.อัษฎางค์มาวิ่งพร้อมตนกับลูกชายคนโต โดยตนและลูกชายสมัครวิ่งระยะทาง 21 กิโลเมตร แต่ นพ.อัษฎางค์สมัครวิ่งระยะทาง 5 กิโลเมตร เมื่อตนวิ่งไปได้ 12 กิโลเมตร เพื่อนพยาบาลโทรมาบอกว่า นพ.อัษฎางค์ เป็นลมกำลังปั๊มหัวใจอยู่ จึงขอให้รถฉุกเฉินที่จอดอยู่ตามทางให้มาส่งจุดที่ นพ.อัษฎางค์เป็นลม แต่ส่งตัวไป รพ.ค่ายบางระจันแล้ว เมื่อตามไป รพ.ปรากฏว่า นพ.อัษฎางค์เสียชีวิตแล้ว