เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม นาย บาบาทุนเด โอโลโวคูเร ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก ขององค์การอนามัยโลก แถลงที่สิงคโปร์ ว่า ทางการจีนยินดีต้อนรับทีมสอบสวนสืบสวนโรคโควิด-19 นานาชาติที่นำทีมโดยตัวแทนขององค์การอนามัยโลก ให้เดินทางเข้าประเทศมาสืบสวนสอบสวนหาที่มาของโรคระบาดร้ายแรงที่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งพบครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่นในจีนเมื่อปลายเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ก่อนระบาดออกไปทั่วโลกไม่น้อยกว่า 120 ประเทศและเขตปกครองในขณะนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้ จีนจะคัดค้านการสอบสวนของทีมนานาชาติอย่างแข็งกร้าว โดยอ้างว่าเป็นข้อเรียกร้องที่แฝงการต่อต้านจีนอยู่ในตัวและประกาศจะยอมรับเพียงการสอบสวนของทีมผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกเท่านั้น
          นายโอโลโวคูเร ระบุว่า องค์การอนามัยโลกยังคงติดต่อประสานงานกับจีนอย่างต่อเนื่องเพื่อหารือถึงการเดินทางของทีมนานาชาติกับสถานที่ซึ่งทีมสอบสวนดังกล่าวจะเดินทางไปตรวจสอบ และยังไม่แน่ชัดว่ารวมถึงการเยือนอู่ฮั่นหรือไม่ ทั้งนี้ตามความเข้าใจของอนามัยโลกนั้น ครั้งนี้ทางการจีนเต็มใจและยินดีต้อนรับทีมสอบสวนนานาชาติดังกล่าว โดยคาดว่า การเดินทางเข้าไปสอบในจีนจะเริ่มต้นได้ในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม แต่ย้ำว่า กำหนดเวลาที่แน่นอนของการเดินทางนี้ ยังคงต้องขึ้นอยู่กับผลลัพธ์การตรวจสอบเบื้องต้นบางประการที่กำลังดำเนินการอยู่ในเวลานี้
          การสอบสวนเพื่อหาต้นตอของโรคโควิด-19 นี้กลายเป็นประเด็นขัดแย้งสำคัญระหว่างสหรัฐอเมริกากับอนามัยโลกและจีนก่อนหน้านี้ โดยสหรัฐกล่าวหาจีนว่าพยายามปกปิดความรุนแรงของการระบาดไว้ในช่วงต้นและเรียกร้องให้ทีมนานาชาติเข้าตรวจสอบอย่างโปร่งใส ในขณะที่ สื่อในจีนก่อนหน้านี้ก็อ้างเช่นกันว่า ไวรัสก่อโรคโควิด-19 นั้นมีแพร่อยู่ในต่างประเทศอยู่แล้วก่อนที่จะเข้ามาแพร่ระบาดในอู่ฮั่น โดยอ้างเหตุผลที่มีการพบไวรัสนี้ในหีบห่ออาหารแช่แข็งที่นำเข้า และมีรายงานผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นที่อ้างว่าตรวจพบไวรัสเดียวกันนี้วนเวียนแพร่ระบาดอยู่ในยุโรปในปีที่ผ่านมาก่อนหน้าเกิดการระบาดที่อู่ฮั่น
          'ไบเดน'โชว์ฉีดวัคซีนสัปดาห์หน้าทางด้านทีมงานเพื่อการถ่ายโอนอำนาจในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า นาย โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีเตรียมเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็วภายในสัปดาห์หน้านี้ โดยการฉีดจะดำเนินการอย่างเปิดเผยต่อสาธารณะ เพื่อเป็นแบบอย่างและสร้างความเชื่อมั่นให้กับสาธารณชนอเมริกันว่าเป็นวิธียับยั้งการแพร่ระบาดที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
          ก่อนหน้านี้นายไบเดน อายุ 78 ปี เคยพูดถึงกรณีนี้ว่า จริงๆ แล้วตนต้องการให้การฉีดวัคซีนของตัวเองเป็นไปตามลำดับขั้น แต่อยากให้แน่ใจว่าการฉีดครั้งนี้จะแสดงให้ประชาชนทุกคนเห็นว่าวัคซีนปลอดภัยจริงๆ
          ทางด้านทำเนียบขาวแถลงว่า นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีมีกำหนดเข้ารับการ ฉีดวัคซีนในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ ส่วนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเคยต้องเข้ารับการรักษา โควิด-19 ไปก่อนหน้านี้กำหนดจะเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุดทันทีที่แพทย์เห็นว่าเหมาะสม(รอยเตอร์)