Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 17/12/2563 ]
ลด ฝุ่นพิษ กทม. เข้มมาตรการก.ม. แนะทำงานที่บ้าน

 ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 กทม.ยังเกิน มาตรฐานระดับมีผลต่อสุขภาพต่อเนื่อง รัฐเข้มบังคับใช้กฎหมาย 3 หน่วยงาน กรมควบคุมมลพิษ-ขนส่งทางบก-ตำรวจ ตั้งจุดตรวจรถยนต์ควันดำรอบกรุง รมว.สาธารณสุขเสนอทำงานที่บ้าน -ใช้ขนส่งสาธารณะ
          สถานการณ์ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ล่าสุด วานนี้ (16 ธ.ค.) ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศของกรุงเทพมหานคร สรุปผลการตรวจวัด PM 2.5 ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร ประจำวันพุธที่ 16 ธันวาคม  2563 เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจวัดได้ 24-98 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่าเกินมาตรฐาน (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 39 พื้นที่ ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของกรุงเทพมหานคร: ส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศเริ่มมีผลต่อสุขภาพ
          ต่อมาเวลา 13.00 - 15.00 น. ตรวจวัดได้ 22-80 มคก./ลบ.ม. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร = 42.3 มคก./ลบ.ม. ค่า PM2.5 มีแนวโน้มลดลงแต่มีค่าเกินมาตรฐาน อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 14 พื้นที่ ได้แก่ เขตหนองแขม เขตทวีวัฒนา เขตตลิ่งชัน เขตบางขุนเทียน เขตบางพลัด เขตบางบอน เขตบางแค เขตบางกอกใหญ่ เขตพระนคร เขตคลองสาน เขตบางกอกน้อย เขตภาษีเจริญ สวนทวีวนารมย์ (เขตทวีวัฒนา) และสวนบางแคภิรมย์ (เขตบางแค)
          นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่ามาตรการป้องกันบังคับใช้กฎหมายและลดปัญหาฝุ่น พีเอ็ม 2.5 ที่ต้นเหตุว่ากรุงเทพมหานครติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 อย่างใกล้ชิด โดยมอบหมายเจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อม และ เจ้าหน้าที่เทศกิจทั้ง 50 เขต ตรวจตรา สอดส่องดูแลมิให้มี การลักลอบเผาขยะในที่สาธารณะและที่เอกชน พร้อมตรวจสถานประกอบการไม่ให้ประกอบกิจการปล่อยควันเกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ตลอดจนกำชับไซต์งานก่อสร้างให้ล้างล้อรถทุกคันก่อนออกจากไซต์งาน และมิให้มีการจอดรถโดยติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้ที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า
          รวมทั้ง ยังได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และกรมควบคุมมลพิษ เพิ่มความเข้มงวดตรวจจับและห้ามใช้รถยนต์ควันดำทุกประเภท พร้อมแนะนำการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ให้กับผู้ขับขี่รถยนต์
          อีกทั้ง ประสานสถานีตำรวจท้องที่เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจรหรือจัดการจราจรให้คล่องตัวลดการสะสมฝุ่นละอองจากควันรถยนต์ รวมทั้งให้เพิ่มความถี่ในการล้าง ดูดฝุ่นถนน และฉีดล้างใบไม้
          ทั้งนี้ ได้เตรียมจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉิน ด้านสาธารณสุข หากพบฝุ่นละออง PM 2.5 เกิน 75 มคก./ลบ.ม. ติดต่อกันมากกว่า 3 วัน โดยสั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัด  กทม. เปิดคลินิกมลพิษทางอากาศ ได้แก่ โรงพยาบาลตากสิน (วันจันทร์-วันอังคาร เวลา 13.00 - 15.30 น.) โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ (วันพุธ เวลา 13.00 - 15.30 น.) และโรงพยาบาลกลาง (วันพฤหัสบดี เวลา 13.00 - 15.30 น.) รวมทั้งให้บริการ Hotline 1646 สายด่วนสุขภาพ สำนักการแพทย์ บริการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อตอบปัญหาและให้คำปรึกษาเรื่องโรคที่มี สาเหตุจากฝุ่นละออง หาก ต้องการปรึกษาแพทย์จะประสานต่อสายผ่านไปยังศูนย์ BFC : Bangkok Fast & Clear ศูนย์บริหารราชการฉับไว ใสสะอาด ของแต่ละโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพฯ เพื่อนัดพบแพทย์
          "อนุทิน"แนะทำงานที่บ้านลดฝุ่น
          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข(รมว.สธ.)กล่าวว่าการใช้ชีวิตประจำวันในช่วงสภาพอากาศฝุ่น PM 2.5สิ่งที่ดีที่สุดคือการพยายามลดการใช้ยานพาหนะส่วนตัว ด้วยการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งรัฐบาลได้ลงทุนและเปิดให้บริการมากขึ้นแล้ว รวมถึง การปรับเวลาการทำงานและในธุรกิจบางอย่างที่สามารถทำงานที่บ้านได้ก็แนะนำให้ใช้การ work from home อย่างเช่นที่เคยดำเนินมาในช่วงของการล็อกดาวน์ การก่อสร้างอยู่ภายใต้มาตรฐานที่ไม่กระจายมลพิษก็จะช่วยลดลงได้แนะ 6 วิธีช่วยลดฝุ่นPM 2.5
          นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัยระบุว่า จากรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนในวันที่ 16 ธันวาคม 2563 พบว่า เกินค่ามาตรฐานใน กทม. นนทบุรี สมุทรสาคร และสมุทรปราการ โดยพบค่าสูงสุด ที่ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 เขตหนองแขม และมีแนวโน้มลดลงในทุกพื้นที่ เนื่องจากลมพัดแรงขึ้น โดยคาดว่าในช่วงวันที่ 17- 24 ธันวาคม 2563 สถานการณ์ฝุ่นจะอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และบางพื้นที่อยู่ในระดับปานกลางและดี ตามลำดับ
          ประชาชนสามารถช่วยกัน ลดแหล่งสะสมของฝุ่นได้ด้วย 6 วิธีง่าย 1. หมั่นทำความสะอาดบ้าน 2. ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ใช้รถสาธารณะ
          3. เช็กสภาพรถเป็นประจำ ดับเครื่องยนต์เมื่อจอดรถ 4. งดเผาขยะ ใบไม้ 5. งดจุดธูป เปลี่ยนมาใช้ธูปสั้น หรือธูปไฟฟ้า
          และ 6. ปลูกต้นไม้ที่มีใบหยาบและมีขน เพราะใบไม้แบบนี้มีประสิทธิภาพในการดักฝุ่นสูง และก่อนออกจากบ้านประชาชนยังคงต้องสวมหน้ากากป้องกันและติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศ
          พบควันดำเกินร้อยละ20-25
          ทางด้านกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) และกรุงเทพมหานคร ตรวจจับรถยนต์ควันดำในเขต กทม. โดย นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า จากการตั้งจุดตรวจจับควันดำ พบรถกระบะทั้งรถรับจ้างและรถส่วนบุคคล มีควันดำเกินค่ามาตรฐานร้อยละ 20-25 ส่วนรถขนส่ง รถบรรทุก มีควันดำเกินค่ามาตรฐานร้อยละ 15-20
          ทั้งนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ออกคำสั่งห้ามใช้ชั่วคราว ตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 และ ห้ามใช้รถตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบกพ.ศ.2522 ขณะนี้ มีการตั้งจุดตรวจจับรถยนต์ควันดำวันละ 20 จุด และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น พร้อมทั้งทบทวน อบรมขั้นตอน การตรวจวัดรถยนต์ควันดำ การใช้เครื่องมือตรวจวัดควันดำ ระบบวัดความทึบแสงให้ผู้ปฏิบัติงาน
          พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ออกคำสั่งห้ามใช้ชั่วคราว ตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 และ ห้ามใช้รถตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบกพ.ศ.2522 ขณะนี้ มีการตั้งจุดตรวจจับรถยนต์ควันดำวันละ 20 จุด และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น พร้อมทั้งทบทวน อบรมขั้นตอนการตรวจวัดรถยนต์ควันดำ การใช้เครื่องมือตรวจวัดควันดำระบบวัดความทึบแสงให้ผู้ปฏิบัติงาน
          พ.ต.อ.พายัพ สมบูรณ์ ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจจราจร กล่าวว่าการตั้งด่านตรวจวัดควันดำจะเพิ่มปริมาณจุดตรวจให้มากขึ้น เน้นพื้นที่มีค่าฝุ่นละออง สูง และกำหนดให้มีระยะการ ตั้งจุดตรวจให้เจ้าหน้าที่ทำงานไม่เกิน 2 ชั่วโมง เพื่อป้องกันสุขภาพของผู้ปฏิบัติงาน
          ส่วนรถยนต์ส่วนบุคคลที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ที่มีควันดำเกินค่ามาตรฐาน จะติดสติ๊กเกอร์สีเหลือง ห้ามใช้ชั่วคราว หรือสีแดงห้ามใช้เด็ดขาด และต้องกลับไปปรับปรุงเครื่องยนต์ภายใน 30 วัน และจ่ายค่าปรับ 1,000 บาท
          หากไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนด คพ.จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสามารถจับกุมรถที่ปล่อยควันดำเกินค่ามาตรฐานได้ปีละประมาณ 100,000 คัน โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม.หรือเฉลี่ยเดือนละ 10,000 -13,000 คัน ภาพรวมหลังจากปี 2562 พบเริ่มมีแนวโน้มการจับกุมรถยนต์ควันดำลดลงต่อเนื่อง จากการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นและการประชาสัมพันธ์ให้ ผู้ใช้รถใช้ถนนให้ความสำคัญของปัญหาดังกล่าว
          พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า จากมาตรการบังคับใช้กฎหมายโดยตำรวจ กก.5 บก.จร.ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก คพ.และสำนักเทศกิจ กทม.ตั้งจุดตรวจควันดำทั่วกรุงเทพฯ กว่า 20 จุด ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมาจับกุมผู้กระทำผิดแล้ว 3,404 ราย และสั่งห้ามใช้รถ 300 กว่าราย

 pageview  1210903    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved