Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 25/12/2563 ]
บิ๊กตู่ ขอทุกฝ่ายร่วมมือ สกัดแพร่ระบาดโควิด-19

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
          นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
          ขอพูดในนามของ ศบค.และในนามของรัฐบาล ในเรื่องที่ทุกคนมีความไม่สบายใจเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน จ.สมุทรสาคร และมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในจังหวัดต่างๆ เป็นการหารือกันว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป ซึ่งได้ทำมาโดยตลอดตั้งแต่วันแรกที่ทราบข้อมูล วันนี้เป็นการสรุปข้อมูลว่า ในช่วงที่ผ่านมาเกิดปัญหาอะไรมาแล้วบ้าง และดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง
          สิ่งสำคัญที่อยากให้ทุกคนเข้าใจ การทำงานมีหลายระดับ ระดับแรกคือรัฐบาล อันดับที่ 2 คือรัฐบาลมอบนโยบายไปที่ ศบค. เผอิญว่ารัฐบาลและ ศบค.เป็นคนเดียวกัน และมีการประชุมย่อยเพื่อหามาตรการที่เหมาะสม ในการสั่งการลงไปในพื้นที่ ฉะนั้นการทำงานจริงๆ จะอยู่ในพื้นที่ คือผู้ว่าราชการจังหวัด มีสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) มีคณะกรรมการอยู่แล้ว สามารถบูรณาการในระดับพื้นที่ได้ สิ่งสำคัญที่สุดในวันนี้คือต้องยกระดับความเข้มข้นใน ศบค.ว่า จะมีการย้ายให้กลับมาอยู่ที่สำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) หรือทำเนียบรัฐบาลเหมือนเดิม และให้มีการประชาสัมพันธ์ทุกวันเพื่อสร้างความเข้าใจ ซึ่งมี 2 ทาง คือ 1.จาก ศบค. 2.จากสื่อมวลชนที่ลงไปในพื้นที่
          ได้มีกำหนดในเรื่องของกิจกรรม ซึ่งบางพื้นที่ทำได้ บางพื้นที่ทำไม่ได้ การจัดงานต้องมีการชี้แจงมาตรการที่ชัดเจนว่า อะไรจัดได้และจัดไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานสาธารณะที่ไม่รู้ที่มาของคน เพราะเมื่อจัดงานคนจะมาร่วมงานเท่าไรไม่รู้ เรื่องนี้คุมไม่ได้ ทุกคนก็กังวลตรงนี้ ผมจำเป็นที่จะต้องตัดสินใจเพื่อความปลอดภัยของคนทั้งประเทศ เพื่อบริหารความเสี่ยงความตื่นตะหนกให้ได้ วันนี้หลายอย่างไปด้วยกัน การท่องเที่ยว ความสุข ปีใหม่ เศรษฐกิจใหม่ๆ ต้องหาวิธีการอย่างเหมาะสม อยากจะยืนยันว่าทั้งจากคณะแพทย์และกรมควบคุมโรคระบุว่า ยังสามารถควบคุมได้ในระดับเป็นที่น่าพอใจ
          ต่อไปนี้ก็เหลือแต่ความร่วมมือในพื้นที่ต่างๆ มาตรการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดไปออกระเบียบมีรายละเอียดมาตรการยิบย่อยจะทำอย่างไร วันนี้เป็นห่วงสถานศึกษา ที่ทำงาน สถานประกอบการค้าสัตว์น้ำ และบางพื้นที่มีการแพร่ระบาดจากคนตรงนี้ไปตรงโน้น แต่ไม่ใช่ประกาศคุมไปทั้งหมด ส่วนเรื่องสัตว์น้ำขณะนี้กรมควบคุมโรคกำลังพิสูจน์ทราบอยู่ แต่เท่าที่ทราบบางทีก็ไม่ใช่ข้อเท็จจริง และจะทำให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพราะจะมีผลต่อการส่งออกสินค้า หากสามารถสร้างความชัดเจนตรงนี้ได้ และมีมาตรฐานรับรองก็จะสามารถควบคุมได้ หากคนทั้ง 70 ล้านคนปฏิบัติตามระเบียบ และมีวินัยของตัวเอง สวมหน้ากาก รักษาระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ไม่ไปแหล่งที่มีคนจำนวนมาก ไม่ไปตะโกนใส่กัน ไม่ไปฟังอะไรที่มีน้ำลายออกมา สิ่งเหล่านี้คือ ส่วนที่จะช่วยกันได้
          สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดจะไม่มีการแพร่เชื้อใหม่ได้ คือการทำมาตรการป้องกันด้านสาธารณสุข ไม่รับเชื้อและแพร่เชื้อให้คนอื่น และถ้ารู้ตัวว่าไปพื้นที่เสี่ยงขอให้กักตัวเอง ทำไมต้องให้บังคับ และถ้ามีอะไรสงสัยก็ให้ไปหาหมอ เพราะตรวจให้ฟรีอยู่แล้ว สิ่งสำคัญวันนี้คือการบริหารแรงงานต่างด้าว ต้องมีแรงงานต่างด้าวที่ถูกกฎหมาย ทุกรัฐบาลที่ทำมาย้อนกลับไปดูมีใครทำไหม รัฐบาลนี้ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวไปเรียบร้อยแล้วเมื่อ 2 ปีที่แล้ว วันนี้ก็ต้องดูที่เล็ดลอด เข้ามา เพราะความต้องการมากขึ้น คนเห็นแก่ตัวมากขึ้น จ้างแรงงานราคาถูก พอเดือดร้อนขึ้นมาก็ขอให้รัฐบาลเยียวยา เรื่องนี้ช่วยกันไม่ได้เหรอ ให้รับแรงงานที่ถูกต้อง ยอมเสียค่าแรงมากหน่อย เป็นเรื่องของความเป็นธรรม การดูแลแรงงาน เพราะเป็นเพื่อนบ้านกัน หากไม่ปฏิบัติตามกฎกติกา กฎหมาย ก็จะมีปัญหา เพราะมีคนที่แสวงหาประโยชน์ตรงนี้ ต้องช่วยสร้างความเข้าใจ นี่คือรวมใจไทยสร้างชาติ
          ทุกกิจกรรมถ้าบอกว่ารัฐบาลได้ผลหรือไม่ได้ผล ทำดีไม่ได้ดี ต้องไปดูว่าคนไทยทั้งหมดร่วมกันได้ไหม ผมไม่ได้ไปโทษคนไทยเลย ไม่ได้โทษใครทั้งสิ้นจะแรงงานต่างด้าว หรือคนไทยก็ไปหาดูว่า ใครที่เกี่ยวข้องตรงนี้จะต้องทำตัวอย่างไร ปรับตัวอย่างไร รัฐบาลมีหน้าที่ในการดูแล เมื่อมีคนได้รับผลกระทบก็ต้องดูแล มีผู้เจ็บป่วย ทุกอย่างคือปัญหาคน 70 ล้านคน จะทำให้ถูกใจทุกคนเป็นไปได้ไหม ยากเหมือนกัน เพราะทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเอง ท้ายที่สุดใครจะด่าจะว่าผม รับได้ทั้งหมด ไม่โกรธ
          ดังนั้นขอให้ทุกคนช่วยกันทำให้บ้านเมืองปลอดภัยในระยะนี้ ต่อไปนี้ทุกวันแถลงตรงนี้ ถ้ามีอะไรที่ไม่ตรงกับที่แถลงก็ถาม นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.จะไปหาคำตอบให้
          วันนี้แรงงานต่างด้าวควรจะอยู่ในพื้นที่ และมีการแยกกันให้ชัดเจน ใครตรวจแล้วจะทำอย่างไร ใครยังไม่ตรวจจะทำอย่างไร และจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้าในเรื่องมาตรการในการให้ทำงานได้เป็นการชั่วคราวในพวกที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน เพราะความต้องการของบริษัท ผู้ประกอบการต้องการแรงงานจำนวนมาก วันนี้มีกิจกรรมมากมายเกิดขึ้น ต้องไปดูว่าที่ขึ้นทะเบียนครั้งที่แล้วพอหรือยัง ก็ต้องให้สถานประกอบการทั้งหมดระบุว่า ต้องการแรงงานเท่าไร เพื่อจะตรวจสอบขึ้นบัญชีให้เรียบร้อย วันนี้คนที่ถูกต้องเท่าไร คนที่ไม่ถูกต้องเท่าไร ทำอย่างไรที่จะให้คนกลุ่มนี้เข้ามาสู่ระบบได้
          ที่มาพูดวันนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลจะดูแลอย่างเต็มที่ และให้คำยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุขว่า สามารถดูแลได้ หากทุกคนให้ความร่วมมือ ขณะนี้มีทั้งจังหวัดที่มีมากบ้างน้อยบ้าง ตรงไหนที่แรงมากหน่อยก็อยู่ในพื้นที่ควบคุมในระดับสูงสุด ส่วนที่เหลือก็อาจจะเฝ้าระวังมากบ้างน้อยบ้าง ก็แล้วแต่สถานการณ์ ไม่เช่นนั้นก็ตื่นตระหนกกันไปทั้งหมด ถ้าบอกจะกำหนดเป็นสี เดี๋ยวก็ตกใจกันอีก จึงใช้การกำหนดบางพื้นที่ บางอำเภอ บางตำบล บางชุมชน วันนี้ในที่ประชุมถือว่าได้ข้อสรุปหลายเรื่อง เพื่อทุกฝ่ายนำไปปฏิบัติได้ ผมได้เน้นย้ำไปกับผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งเป็นผู้บัญชาการในระดับพื้นที่และมีอำนาจสั่งการ ได้มอบอำนาจลงไปแล้ว เพราะฉะนั้นผู้ว่าฯต้องทำให้เต็มที่ ทำให้ดีที่สุด รวมถึงข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ทุกเรื่องช่วยกันปราบปรามการทุจริตให้ด้วย ที่ผ่านมามีการจับกุมแต่ไม่มีการแถลงข่าว วันนี้ก็จะต้องให้รับรู้ข้อมูลกันให้มากยิ่งขึ้น เพราะมีคนสงสัยกันมาก ก็ต้องไปดูที่บอกว่ามีผู้มีอำนาจสั่งให้รถตู้เข้ามา ก็ต้องไปดูว่าใครคือผู้มีอำนาจ ใครจะกล้าสั่งบอกมาเลย จะปลดเดี๋ยวนี้ จะส่งข้อมูลแบบลับๆ มาก็ได้ ชื่อใครบอกมาผมจะสอบให้หมด ขณะนี้กำลังสอบอยู่หลายคนเหมือนกัน ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จะสอบทั้งหมด
          ใครที่รู้ว่าไปพื้นที่เสี่ยงถ้าไม่ต้องการจะเป็นภาระก็ควรหยุดอยู่บ้าน 14 วัน ทางการแพทย์บอกว่า จะดีขึ้น แต่ถ้ายังไม่ดีให้ไปหาหมอ รักษาได้หมด ไม่ถึงตาย ที่ตายตอนแรกเพราะยายังไม่พร้อม แต่วันนี้ยาพร้อมแล้ว ทางการแพทย์ยืนยันว่าถ้ารักษาทัน ให้ยาทัน หายหมด บางคนไม่ต้องใช้ยาภูมิต้านทานก็เกิดขึ้นมาเอง โดยเฉพาะคนที่แข็งแรง แต่คนที่มีความเสี่ยงสูงคือคนชรา ผู้ที่มีโรคประจำตัว ส่วนเรื่องวัคซีนกำลังพัฒนาและติดตามของต่างประเทศ ซึ่งมีข่าวว่าหลายประเทศฉีดอยู่ ต้องติดตามด้วยว่าหลังการฉีดแล้วเกิดอะไรขึ้น ต้องมีมาตรการทุกที่และต้องตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย ต้องไม่มีผลข้างเคียง ตรงนี้ต้องถามแพทย์
          ขอกราบเรียนพ่อแม่พี่น้อง ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ผมไม่อยากให้ทุกคนตื่นตระหนก เราเคยตื่นตระหนกมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเริ่มมีการแพร่ระบาด ก็สามารถทำทุกอย่างให้สงบลงในระดับน่าพอใจ วันนี้เมื่อเกิดมาอีกตราบใดที่โลกยังแก้ปัญหาตรงนี้ไม่ได้ วัคซีนยังไม่มี ก็อาจจะมีโอกาสเกิดขึ้นอีก แต่เมื่อเกิดแล้วมีความพร้อมหรือไม่ แพทย์ พยาบาล ระบบคัดกรอง ครบหรือไม่ ซึ่งถือว่ามีครบพร้อมรองรับได้ ต่อมาต้องดูว่าเมื่อวัคซีนมาแล้วจะทำอย่างไร แต่ตอนนี้ต้องอยู่กับโควิดไประยะหนึ่งก่อน ประคองตัวไปให้ได้ รัฐบาลจะดูแลตรงนี้ และต้องดูแลเรื่องเศรษฐกิจด้วย จากปัญหาตรงนี้หลายคนรอว่าจะล็อกดาวน์ทั้งประเทศหรือเปล่า ก็ต้องดูความรุนแรงของพื้นที่ กิจกรรมที่เกิดขึ้น คนไทยวันนี้ห่วงใยทุกคน รักทุกคน เป็นห่วงทุกคนในทุกๆ เรื่อง เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องดำเนินการเพื่อคนไทย 70 ล้านคน
          ดังนั้นขอให้รอดูอาจมีพื้นที่ที่ต้องใช้มาตรการสูงสุดเช่นเดียวกับที่ จ.สมุทรสาคร อย่าไปบอกว่าสีแดงเปื้อนทั้งจังหวัด เพราะเป็นเพียงบางอำเภอ บางตำบล มีความเสี่ยงมากเสี่ยงน้อย เสี่ยงสูง ต้องว่ากันมา ตรงนั้นระดับพื้นที่จะไปดูแล ในเรื่องกิจกรรมปีใหม่ก็มีมาตรการอยู่จัดได้หรือไม่ได้ งานสาธารณะจัดได้หรือไม่ งานกลุ่มเล็กจัดได้หรือไม่ ต้องไปดู ซึ่งต้องรู้ที่มาของคนมาร่วมงานก็จัดได้
          "....ใครที่รู้ว่าไปพื้นที่เสี่ยงถ้าไม่ต้องการจะเป็นภาระก็ควรหยุดอยู่บ้าน 14 วัน ทางการแพทย์บอกว่า จะดีขึ้น แต่ถ้ายังไม่ดีให้ไปหาหมอ รักษาได้หมด ไม่ถึงตาย ที่ตายตอนแรกเพราะยายังไม่พร้อม แต่วันนี้ยาพร้อมแล้ว ทางการแพทย์ยืนยันว่าถ้ารักษาทัน ให้ยาทัน หายหมด...."

 pageview  1210901    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved