Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 19/01/2564 ]
สธ.เผยแค่5วันพบ เหยื่อเคนมผง71ราย แฉมียาจิตเวชผสม

'สบยช.'เผยแค่ 5 วัน มีเหยื่อเคนมผงเข้าบำบัดรักษาถึง 71 ราย ห้องแล็บย้ำพบไดอะซีแพม เข้มข้นถึง 99% เทียบเสพแวเลียมถึง 100 เม็ด เผยมีหลายสูตร
          จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.5 จับกุมนายอมรเทพ หรือฉายา "อั๋น กีวี่" เฉลิมวัฒน์ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาเครือข่ายค้ายาเคนมผง เมื่อช่วงค่ำวันที่ 17 มกราคม เพื่อขยายผลแหล่งผลิตและขบวนการค้ายาเสพติดดังกล่าว
          เมื่อวันที่ 18 มกราคม พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ให้สัมภาษณ์ถึงการจับกุมนายอมรเทพ ว่า เป็นการจับกุมในคดีเก่าตามหมายศาลอาญาข้อหาพยายามฆ่าและอาวุธปืน และจากการรวบรวมพยานหลักฐานเชื่อว่าเป็นผู้จำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร แต่ไม่ทราบว่าเป็นคนผสมยาเสพติดหรือไม่
          "เท่าที่ทราบผู้เสพที่เสียชีวิตส่วนหนึ่งได้ยาเสพติดมาจากนายอมรเทพ พบพยานหลักฐานว่ามีการจำหน่ายยาเสพติดให้กับผู้เสพ 1 จุด แต่ต้องขอรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดย ผู้ต้องหาให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี รับสารภาพคดีพยายามฆ่า โดยขัดแย้งกันเรื่องการจำหน่ายยาเสพติด และให้การภาคเสธคดียาเสพติดว่า จำหน่ายยาเสพติด แต่ไม่ได้ให้การลึกลงไปในรายละเอียดว่า ยาเสพติดที่จำหน่ายเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหรือไม่ ต้องนำของกลางไปตรวจพิสูจน์ ซึ่งนายอมรเทพเพิ่งพ้นโทษในคดียาเสพติดเมื่อปี 2560" พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าว และว่า ปัจจุบันยอด ผู้เสียชีวิตจากการเสพเคนมผง จำนวน 10 คน พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 4 คน อยู่ในห้องไอซียู 2 คน
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 มกราคม ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร ได้รับแจ้งว่ามีหญิงสาวเสียชีวิต ในบ้านเช่าเลขที่ 922/29 ซอยเจริญราษฎร์ 7 แยก 4 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบผู้ตาย คือ น.ส.พาณิภัค หรือเอมมี่ จันทราวราวรรณ์ อายุ 21 ปี และพบนายทัชชัย หรือดรีม กล่อมใจ อายุ 23 ปี นอนหมดสติ ทราบภายหลังว่าทั้ง 2 เป็นแฟนกัน ต่อมานายทัชชัยให้การว่า เมื่อวันที่ 9 มกราคม ได้ติดต่อซื้อยาเคนมผงจากน.ส.กุลนที เอี่ยมลอย ที่ถูกจับกุมก่อนหน้า และนายอมรเทพ มาสูดดมกับแฟนจนเกิดเหตุดังกล่าว
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนคุมตัวนายอมรเทพออกจากห้องคุมขังมา สอบปากคำที่ห้องสืบสวน โดยผู้ต้องหาปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมบอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับผู้เสียชีวิตในท้องที่ สน.วัดพระยาไกร รวมถึงไม่ใช่เอเยนต์และผู้ผสมยาเคนมผงแต่อย่างใด
          วันเดียวกัน นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากกรณีพบผู้เสียชีวิตจากการใช้ "เคนมผง" 9 ราย โดยนำสารที่พบส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการแบบวิเคราะห์แยกสารแล้วพบว่ามีส่วนผสมของคีตามีนและไดอะซีแพม ซึ่งไดอะซีแพม (Diazepam) หรือชื่อทางการค้าว่าแวเลียม (Valium) เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 4 ตาม พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2559 โดยจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ในทางการแพทย์ใช้ยานี้เป็นยากล่อมประสาทหรือสงบประสาท (Tranquilizer) ทำให้จิตใจสงบ ใช้สำหรับรักษาอาการผิดปกติทางอารมณ์ เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว แก้อาการชัก ผลข้างเคียงจากการใช้ไดอะซีแพม อาจทำให้มีอาการง่วงซึม เหนื่อยล้า กล้ามเนื้ออ่อนแรง มึนงง เห็นภาพหลอน ซึมเศร้า กล้ามเนื้อกระตุก กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ รวมถึงเกิดอาการชักได้
          "หากมีการใช้ไดอะซีแพมร่วมกับยาเสพติดชนิดอื่นๆ เช่น มอร์ฝีน เฮโรอีน หรือใช้ร่วมกับการดื่มแอลกอฮอล์ จะทำให้เสริมฤทธิ์การกดระบบประสาท หายใจลำบาก และอาจเสียชีวิตได้ ไดอะซีแพมจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ต้องให้แพทย์เป็นผู้สั่งใช้ตามความจำเป็น ซึ่งหากมีการลักลอบจำหน่ายต้องระวางโทษจำคุก 2-10 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000-1,000,000 บาท และความผิดฐานครอบครองหรือใช้ประโยชน์ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" รองอธิบดีกรมการแพทย์กล่าว
          ด้าน นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กล่าวว่า ไดอะซีแพมหากใช้ในปริมาณสูงเป็นเวลานานๆ อาจทำให้เกิดการดื้อยาและติดยาได้ ซึ่งถ้าหยุดใช้ยาทันทีจะเกิดอาการขาดยาหรือถอนยา เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว มือสั่น ซึมเศร้า เป็นโรคจิต หรืออาจเกิดอาการชักได้ ในกรณีของกลุ่มผู้เสียชีวิตจากการเสพเคนมผง จากผลการตรวจสารที่พบทางห้องปฏิบัติการแบบวิเคราะห์แยกสารของสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) รายงานการตรวจพิสูจน์ 5 ตัวอย่างพบว่าสารตัวอย่างมีความเข้มข้นของไดอะซีแพม 93-99% ตกแล้วผู้เสพ 1 คน ใช้แวเลียมถึงคนละ 200 มิลลิกรัม หรือ 100 เม็ด นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิต
          "ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 11-15 มกราคม สบยช.พบผู้ป่วยที่เข้ารับการบำบัดรักษาจากยาเคนมผง 71 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยนอกให้การรักษาแบบไป-กลับ 56 ราย และผู้ป่วยในพักรักษาตัวภายใน สบยช. 15 ราย โดยได้รับการตรวจทางห้องปฏิบัติการแบบวิเคราะห์แยกสาร (LC) จำนวน 24 ราย พบไดอะซีแพมเป็น ส่วนผสมถึง 23 ราย และยังพบส่วนผสมของยาเสพติดชนิดอื่น คือยาบ้า/ยาไอซ์ 11 ราย เคตามีน 9 ราย กระท่อม 4 ราย กัญชา 2 ราย ยาอี 1 ราย เฮโรอีน 1 ราย นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของยาอื่นๆ โดยแบ่งเป็นกลุ่มยาแก้ปวด tramol 3 ราย ยาแก้ปวดอื่นๆ 9 ราย ยาจิตเวช 7 ราย และยาแก้แพ้ 6 ราย" ฅนพ.สรายุทธ์กล่าว
          นพ.สรายุทธ์กล่าวว่า ผลสารเสพติดที่ตรวจพบสอดคล้องกับสารเสพติดที่ตำรวจตรวจยึดได้ การใช้ยาและสารเสพติดทุกชนิดส่งผลกระทบต่อร่างกายร้ายแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ หากมีปัญหาเกี่ยวกับยาและสารเสพติดสามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่สายด่วนยาเสพติด 1165 หรือที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กรมการแพทย์จังหวัดปทุมธานี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอนขอนแก่น อุดรธานี สงขลา และปัตตานี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ww.pmindat.go.th

 pageview  1210899    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved