ในที่สุดยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมรวมกันทั้งโลกก็ทะลุ 100 ล้านไปเรียบร้อยแล้วดังที่ผมเขียนเกริ่นเรียนท่านผู้อ่านเมื่อวานนี้ว่ายังไงๆ ก็ต้องทะลุแน่เพราะขาดอยู่เพียงแสนเศษๆเท่านั้น...และผลก็เป็นไปตามคาดทุกประการ
          ตัวเลขขณะที่ผมเขียนต้นฉบับวันนี้ ช่วงบ่ายวันอังคารที่ 26 มกราคมก็คือ 100,861,597 หรืออ่านได้ว่า หนึ่งร้อยล้านแปดแสนหกหมื่นหนึ่งพันห้าร้อยเก้าสิบเจ็ด ราย
          ส่วนยอดผู้เสียชีวิตนั้นอยู่ที่ 2,148,650 ราย...ขออนุญาตอ่านอย่างย่อๆว่า สองล้านหนึ่งแสนกับสี่หมื่น รายเศษๆก็แล้วกัน
          มองอย่างเผินๆ ติดเชื้อ 100 ล้าน เสียชีวิตแค่ 2 ล้าน ก็แค่ 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง...โรคอื่นๆยังมีผู้เสียชีวิตเป็นเปอร์เซ็นต์มากกว่า
          แต่ในเรื่องของความเป็นความตายของมนุษย์นั้น จะมองเผินๆหรือคิดตื้นๆไม่ได้เด็ดขาด เพราะชีวิตมนุษย์เป็นของมีค่า แต่ละ 1 ชีวิตที่สูญเสียไป ล้วนมีมูลค่ามหาศาล
          ดังนั้น การสูญเสียถึงกว่า 2 ล้านคนทั่วโลก ภายใน 1 ปีเศษๆ เช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่น่าสลดใจ และน่าเสียดายแทนญาติมิตรของผู้สูญเสียทั่วโลกเป็นอย่างยิ่ง
          แต่จากข้อมูลของ มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกิ้นส์ ที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ WORLDOMETER วันนี้โดยเฉพาะการดูจากกราฟของยอดติดเชื้อใหม่รายวันที่เขาแสดงไว้ด้วย...ก็ทำให้รู้สึกเบาใจลงบ้าง
          เพราะเส้นกราฟที่พุ่งกระฉูดไปจนถึงวันละ 600,000-700,000 กว่าราย อยู่หลายวันและเกิน 800,000 ราย อยู่หนึ่งวันในช่วงเดือนธันวาคม มาจนถึงต้นๆเดือนมกราคมนั้นเริ่มดิ่งลงมา
          อย่างในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ต่อวันลดลงมาเหลือประมาณ 400,000 กว่ารายเท่านั้น ทำให้รู้สึกเบาใจขึ้นมาบ้างว่า...การระบาดแรงๆในรอบ 2 อาจจะเริ่มซาแล้วกระมัง?
          แต่ก็ดูเหมือนว่านักวิเคราะห์หลายๆ รายยังกังวลใจอยู่ และยังเตือนให้ระวังการระบาดรอบใหม่อยู่ตลอด
          กลับมาที่บ้านเราตัวเลขที่แถลงออกมาวันนี้ เห็นแล้วก็อดสะดุ้งเสียมิได้ เพราะมีการติดเชื้อใหม่วันเดียวถึง 959 ราย สูงสุดนับตั้งแต่เราแถลงข่าวกันมา
          แม้คุณหมอ ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ท่านจะย้ำว่าเหตุที่ตัวเลขสูงก็เพราะเป็นการตรวจเชิงรุก ในจังหวัดสมุทรสาคร โดยเข้าตรวจตามโรงงานต่างๆ ที่มีคนงานนับหมื่นจึงทำให้ตัวเลขสูงขึ้น
          แต่มองอย่างชาวบ้าน จะตรวจแบบไหนก็ตาม จะเชิงรุกหรือเชิงรับก็ตาม เมื่อตัวเลขออกมาสูงเฉียดๆพันเช่นนี้ ก็อดสะดุ้งไม่ได้ละครับ
          เพราะมันแปลว่าเรายังมีคนติดเชื้ออีกจำนวนมาก แม้ผู้ติดจะอยู่ในโรงงานแต่เขาก็ต้องเดินทางไปโน่นไปนี่เข้าบ้างจนได้แหละ...เชื้อก็ย่อมจะเผยแพร่ไปได้ ต่อให้ป้องกันดีขนาดไหน
          อะไรไม่อะไรการระบาดรอบหลังเร็วมากจริงๆครับ จากยอดสะสมล่าสุดของเรา 14,646 รายนั้น ปรากฏว่าระบาดในช่วง 1 5ธันวาคมมาจนถึง 26 มกราคม 1 เดือนเศษถึง 10,409 ราย
          คิดดูซีครับ ตลอดเวลาที่เราตื่นเต้นในรอบแรก เป็นเวลาถึง 1 ปี โดยประมาณนั้น เราติดเชื้อแค่ 4,237 รายเท่านั้นเอง
          ที่ไหนได้...ในรอบหลังนี้เราใช้เวลาแค่เดือนเศษ 10,409 รายจะไม่ให้สะดุ้งยังไงละครับ
          แต่เมื่อสะดุ้งแล้วผมก็กลับมาตั้งสติได้เหมือนเดิม ยกมือไหว้พระต่อไปตามเดิม พร้อมกับท่องคาถา"อัตตาหิอัตโนนาโถ"หรือตนเป็นที่พึ่งแห่งตน...ตามเดิม
          วัคซีนงวดแรกจะมาเดือนกุมภาพันธ์ก็จริง แต่จำนวนค่อนข้างจำกัดก็คงจะฉีดได้เฉพาะบุคคลที่จำเป็นเช่นบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าของพวกเรา เป็นต้น
          สำหรับพวกเราประชาชนทั่วไป ขอให้ใช้นโยบายตนเป็นที่พึ่งแห่งตน...คือต้องช่วยตัวเองป้องกันตนเองกันต่อไปและต่อไปเป็นดีที่สุด
          "สวมหน้ากากทุกครั้งที่ออกจากบ้านเว้นระยะห่างและล้างมือบ่อยๆไม่จำเป็นไม่ไปที่เสี่ยง"อย่างที่คุณหมอท่านบอกไว้นั่นแหละครับ
          เพิ่มเติมอีกข้อเดียว ผู้มีอิทธิพลทั้งหลายอย่าแอบเพิ่ม"ที่เสี่ยง"เช่น บ่อนพนันต่างๆหรือแหล่งมั่วสุมต่างๆขึ้นมาอีกก็แล้วกัน.