|
หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 13/09/2555 ] |
|
|
|
|
โรคฮันตาไวรัส |
|
|
|
|
กรณีมีกระแสข่าว โรคฮันตาไวรัสหรือ ไวรัสฮันตา ระบาดในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้าไปพักแรมในอุทยานแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา โดยนักท่องเที่ยวติดเชื้อโรคฮันตาไวรัส ซึ่งล่าสุดศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐ ระบุว่า พบผู้ป่วยเสี่ยงติดเชื้อแล้ว กว่า 10,000 ราย และในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 3 รายนั้น
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้ข้อมูลว่า เชื้อไวรัส ฮันตามีสัตว์ฟันแทะเป็นพาหะนำโรคสำคัญ เช่น หนูป่า โรคนี้พบบ่อยในสัตว์ฟันแทะที่อาศัยในป่า โดยเฉพาะในหนูป่าหลายชนิด สามารถติดต่อมาสู่คน แต่ไม่พบว่ามีการติดต่อจากคนสู่คน โดยการหายใจ เอาฝุ่นละอองที่ปนเปื้อนอุจจาระ ปัสสาวะ และน้ำลายของสัตว์ฟันแทะที่มีเชื้อ และจากการถูกสัตว์ฟันแทะกัด อาการจะเกิดขึ้นประมาณ 2-4 สัปดาห์ โดยระยะแรกจะมีอาการคล้ายไข้หวัด มึนงง ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ส่วนรายที่อาการรุนแรงอาจเกิดเลือดออกที่ไต จนช็อกและเสียชีวิตได้
โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ดังนั้น ในการรักษาผู้ป่วยจะไม่มียาเฉพาะ แต่แพทย์จะทำการรักษาผู้ป่วยตามอาการเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลสำนักระบาด วิทยา กรมควบคุมโรค พบผู้ป่วยโรค ฮันตาไวรัสในประเทศไทยน้อยมาก ไม่อยู่ในขั้นระบาด และยังไม่มีรายงาน ผู้เสียชีวิต แต่เคยมีรายงานผู้ป่วยในปี 2528 ที่ จ.กาญจนบุรี และกรุงเทพ มหานคร ต่อมาพบอีกครั้งในปี 2541 อีก 1 ราย ในกรุงเทพฯ
|
| | |
|
|