ช่วงนี้เป็นเวลาแห่งความสุข เนื่องจากเป็นช่วงบรรยากาศของเทศกาลปีใหม่ แต่รู้หรือไม่ว่า หากสุขมากเกินไปก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
รศ.นพ.สุรพล วีระศิริ ภาควิชาจิตเวช ศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น บอกว่า มีคนอยู่จำนวนหนึ่งที่มีความสุขมากเกินปกติ จนเข้าข่ายเป็น "โรคแมเนีย" (mania) หรือโรคอารมณ์ 2 ขั้ว ระยะอารมณ์ดีผิดปกติ ธรรมชาติของโรคนี้มีแนวโน้มจะเริ่มป่วยหรือมักกลับเป็นซ้ำในช่วงฤดูหนาว แต่ก็พบได้ในฤดูอื่นด้วยเช่นกัน
ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอารมณ์ดี มีความสุขมากผิดปกติ ชอบคุยจนลืมเวลา คุยไปหัวเราะไป ชอบทักทายพูดคุยกับคนไม่เลือกหน้า พูดมาก พูดเร็ว พูดไม่หยุด แต่ก็มี บางคนที่มีอาการหงุดหงิดง่าย ฉุนเฉียว ก้าวร้าว และหาเรื่องวิวาท เพราะมั่นใจสูงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจนอาจเลยเถิดไปเป็นหลงผิดคิดว่าเป็นผู้วิเศษ
คนกลุ่มนี้จะขยันมากผิดปกติ จะทำงานหรือกิจกรรมอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทำเร็ว ทำทั้งวัน แต่มักจะทำไม่ค่อยเรียบร้อย ร่วมกับการนอนน้อยลงหรือไม่ยอมนอนทั้งคืน บางรายอาจติดต่อกันหลายคืน มีข้อสังเกตคือ ถึงแม้ไม่ได้นอนแต่คนเหล่านี้ก็จะไม่แสดงอาการง่วงเหมือนคนทั่วไป ยังคงมีพลังในการทำสิ่งต่างๆ อยู่เช่นเดิม อาการสำคัญอย่างอื่น คือ ชอบซื้อ ชอบแจก ชอบช่วยเหลือ (ที่ไม่ค่อยเหมาะสม) มีเงินเท่าไรจะซื้อหมด มีพฤติกรรมที่สร้างความสุขและความท้าทายเกินพอดีที่โดยปกติเจ้าตัวไม่เคยทำหรือทำมากขึ้นกว่าเดิมมาก เช่น แต่งหน้าทาปากและสวมเสื้อผ้าสีฉูดฉาด ร้องรำทำเพลง ออกงานสังคมมากขึ้น โทรศัพท์มากผิดปกติ
โรคนี้ไม่ใช่โรคจิตและรักษาให้หายเป็น ปกติจนกลับไปทำงานได้ดังเดิม หากเป็นครั้งแรกจำเป็นต้องรักษานานประมาณ 1 ปี หากหยุดยาเร็วกว่านั้น ผู้ป่วยจะกลับเป็นซ้ำในเวลาไม่นาน ดังนั้น จึงควรกินยา สมานอารมณ์ให้ครบกำหนด ในรายที่เป็น บ่อยครั้งจำเป็นต้องกินยานานขึ้น ควรจัด สิ่งแวดล้อมไม่ให้เครียด ให้ผู้ป่วยจัดการตนเองได้หลายๆ ทาง เช่น ออกกำลังกาย