นพ.ประเวช ตันติพิวัฒนสกุล จิตแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมสุขภาพจิต แนะนำว่า ความวิตกกังวลใจที่อาจบั่นทอนประสิทธิภาพในการทำงานหรือทำให้การดำเนินชีวิตประจำวันเสียไปว่า เรื่องของความเครียดและความวิตกกังวลเป็นโรคของยุคสมัยปัจจุบัน คือทั่วทั้งโลกปัญหาเรื่องความกังวล ความเครียด กลายเป็นเรื่องใหญ่ สาเหตุที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการบริโภคข้อมูลข่าวสารที่มากขึ้น ทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เต็มไปด้วยความเร่งรีบ มีอาการแสดงออกที่แตกต่างกันไป เช่น ตัวเย็น มือเย็นปากแห้ง เหงื่อออก คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะบ่อย กลืนอาหารลำบาก กระวนกระวายเหนื่อยง่าย ขาดสมาธิ หงุดหงิดบ่อย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และนอนไม่หลับ ซึ่งส่งผลเสียต่อการทำงานและการดำเนินชีวิตประจำวันควรหันมาดูแลจิตใจและจัด การเรื่องของความเครียดความกังวลแต่เนิ่นๆ ก่อนที่มันจะส่งผลเสียต่อชีวิตเรา
นพ.ประเวชแนะนำเทคนิคในการจัดการความกังวลใจและความเครียดที่สามารถฝึกได้ด้วยตนเอง 4 ประการ ดังนี้ 1.ฝึกทักษะผ่อนคลาย เพราะร่างกายกับจิตใจสัมพันธ์กันทักษะหนึ่งที่ฝึกได้ง่ายๆ คือ ฝึกการหายใจเข้าออก เทคนิคการยืดเหยียด การบริหารร่างกาย 2.การจัดการด้านความคิด ซึ่งการระวังความคิดที่ทำให้เรากังวลและเครียด ไม่ไปเผลอคิด รู้ทัน ฝึกวิธีคิดที่ช่วยให้เรามีความสุข
3.จัดการปัญหาชีวิต โดยเฉพาะปัญหาความสัมพันธ์ ซึ่งมีส่วนทำให้คนเราเครียดและกังวลได้มาก 4.เรื่องอาหารการกิน พบว่าคนที่ทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงจะหงุดหงิดง่าย การควบคุมอารมณ์ต่ำลง เห็นชัดในเด็กที่มีสมาธิสูตรของการกินอาหารเพื่อสมอง เป็นสูตรเดียวกับการกินอาหารเพื่อสุขภาพ อาหารอะไรที่ดีต่อหัวใจจะดีต่อสมองด้วย กินอาหารเพื่อสุขภาพให้ดี สมองก็จะได้รับประโยชน์ไปด้วย |