การบริโภคอาหารที่มีไขมันสูงจะส่งผลให้ปริมาณอสุจิหรือสเปิร์มในผู้ชายมีจำนวนน้อยลง โดยผลการศึกษากลุ่มตัวอย่างที่เผยแพร่ในวารสารฮิวแมน รีโพรดักชั่น ระบุว่า กลุ่มคนที่บริโภคไขมันสูงจะมีปริมาณ สเปิร์มลดลง 43 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับผู้ที่บริโภคไขมันน้อยที่สุด โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว ซึ่งพบว่าชายที่บริโภคไขมันอิ่มตัวจะมีปริมาณสเปิร์มน้อยลง 35 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับผู้ชายที่บริโภคไขมันอิ่มตัวน้อยที่สุด
          ในทางกลับกัน กรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นไขมันที่มีอยู่ในปลาและน้ำมันพืช จะเป็นประโยชน์ต่อปริมาณสเปิร์ม โดยผู้ชายที่บริโภคไขมันโอเมก้า 3 จะมีปริมาณสเปิร์มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 1.9 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับผู้ที่บริโภคไขมันโอเมก้า 3 น้อยที่สุด ซึ่งผลการวิจัยที่มีการเผยแพร่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ระบุว่า โอเมก้า 3 เป็น สิ่งจำเป็นสำหรับสเปิร์มที่แข็งแรงซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการปฏิสนธิกับไข่
          ขณะที่ผลการวิจัยชิ้นใหม่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกัน ไม่ใช่ผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยตรง และจะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลการวิจัย
          จิล แอททาแมน สูตินรีแพทย์ จากโรงพยาบาลกลางแมสซาชูเซตส์ ในเมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา ผู้ทำการวิจัยครั้งนี้ เปิดเผยว่า ถ้าผู้ชายเปลี่ยนแปลงการบริโภคอาหาร ด้วยการลดการบริโภคไขมันอิ่มตัวในอาหารที่กินเข้าไป แล้วเพิ่มปริมาณโอเมก้า 3 ไม่เพียงแต่จะทำให้สุขภาพร่างกายโดยรวมดีขึ้นแล้ว แต่จะทำให้อนามัยเจริญพันธุ์ดีขึ้นด้วย