Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์มติชน [ วันที่ 14/11/2557 ]
แมลงทอด...ยอดนิยม อุดมด้วยสารก่อภูมิแพ้
 แม้ธรรมชาติจะสร้างมนุษย์ให้เป็นสัตว์กินพืช แต่มนุษย์ส่วนใหญ่มักจะชอบกินสัตว์เป็นอาหารมากกว่า อาจเป็นเพราะมีทั้งกลิ่นและรสชาติที่ยั่วยวนชวนน้ำลายหกมนุษย์จึงกินสัตว์แทบทุกชนิด ไม่เว้นแม้กระทั่งหนอนและแมลงก็ยังถูกนำมาปรุงเป็นอาหารอันโอชะได้
          ก็มันอร่อยจริงๆ นั่นแหละ จึงมีพ่อค้าแม้ค้าขายแมลงทอดเกิดขึ้นมากมายทั่วทุกภาคของบ้านเรา โดยเฉพาะตามงานเทศกาลต่างๆ จะมีขายกันดาษดื่นเลย แถมแพงด้วยนะ ก็ด้วยรสชาติที่ถูกปากนักเปิปพิสดาร... เค็มๆ มันๆ กรอบๆ เคี้ยวกร๊วบๆ กลืนได้โดยไม่มีกากให้ต้องคายทิ้ง ก็เลยมีคนนิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลาย
          แมลงที่นิยมนำมาบริโภคมีด้วยกันหลายชนิด ตั้งแต่จิ้งหรีด แมงกระชอน จิ้งโกร่ง (คล้ายจิ้งหรีดแต่ลำตัวอวบอ้วนกว่า) หนอนไม้ไผ่หรือที่นิยมเรียกกันว่ารถด่วน ดักแด้หนอนไหม ตัวอ่อนของตัวต่อ ด้วงมะพร้าว แมลงกุดจี่ แมลงดานา ตั๊กแตน ฯลฯ และที่นิยมบริโภคมากที่สุด คือดักแด้หนอนไหม รองลงมาคือ ตั๊กแตน และตัวอ่อนของตัวต่อ
          คนที่โปรดปรานการบริโภคดักแด้หนอนไหมและตัวอ่อนของตัวต่อจึงถูกแจ๊กพอตไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะดักแด้หนอนไหมและตัวอ่อนของตัวต่อเป็นแมลงที่มีสารก่อภูมิแพ้หรือ "ฮิสตามีน" สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานกว่า 200 เท่าเกินกว่าความสามารถของระบบภูมิคุ้มกันที่จะต้านทานได้
          เป็นผลให้แต่ละปีมีผู้ป่วยเนื่องจากแพ้อาหารหลังจากรับประทานแมลงทอดนับร้อยราย และบางรายเสียชีวิต จนกระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาเตือนเป็นระยะๆ ให้ระวังพิษภัยของสารก่อภูมิแพ้ในแมลงทอด โดยเฉพาะในดักแด้หนอนไหมที่มีขายกันดาษดื่น ซึ่งจากการสุ่มตรวจของกรมควบคุมโรคพบว่า ดักแด้หนอนไหมที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดอาการแพ้มากที่สุดส่วนใหญ่จะมาจากแหล่งเดียวกันคือตลาดโรงเกลือซึ่งผู้ค้าส่วนใหญ่จะไปซื้อมาจากที่นั่น
          เนื่องจากวัตถุดิบจะถูกวางในอุณภูมิห้องเป็นเวลานานกว่าจะถูกนำมาทอดขาย ทำให้แบคทีเรียมีโอกาสได้ย่อยกรดอะมิโนที่ชื่อฮิสตาดีนที่มีอยู่ในเนื้อของแมลงเกือบทุกชนิดให้กลายเป็นฮิสตามีน ซึ่งความร้อนก็ไม่สามารถทำลายมันได้ แต่ความเย็นที่อุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียสสามารถช่วยป้องกันกระบวนการที่จะทำให้เกิดฮิสตามินได้ 
          ปริมาณฮิตามีนที่กระทรวงสาธารณสุขตรวจพบในดักแด้หนอนไหมสูงถึง 5,197 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ตัวอ่อนของตัวต่อมีค่าฮิสตามีนสูงถึง 5,221 มิลลิกรัม/กิโลกรัม (ซึ่งการกำหนดค่ามาตรฐานของฮิสตามีนในอาหารของแต่ละประเทศนั้นแตกต่างกัน บางประเทศกำหนดให้มีฮิสตามีนในอาหารได้ตั้งแต่ 100-200 มิลลิกรัม/กิโลกรัม แต่ของไทยกำหนดให้มีได้ไม่เกิน 50 มิลลิกรัม/กิโลกรัม) 
          ผู้บริโภคจึงเกิดอาการแพ้ขึ้นหลังจากบริโภคแมลงทอด ซึ่งอาการจะมีตั้งแต่คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะรุนแรง เกิดผื่น คันบวมแดงตามใบหน้า ปาก คอ หรืออวัยวะอื่นๆ ีในรายที่แพ้มากจะมีอาการชา ตัวสั่น ใจสั่น เหงื่อออกมากหายใจลำบาก ชีวพจรเต้นเร็ว ความดันโลหิตต่ำจนอาจช็อกหมดสติ ซึ่งในรายที่แพ้มากๆ ควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดเพื่อรับการรักษาที่ถูก วิธีและทันเวลา เพราะหากช้าเกินไปอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดจากคอบวม หลอดลมหดเกร็ง ทำให้ระบบทางเดินหายใจล้มเหลว
          ผู้ป่วยเกิดอาการแพ้ส่วนใหญ่ร้อยละ 90 จะมีอาการทางผิวหนัง รองลงมาจะมีอาการทางระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร ระบบหัวใจและหลอดเลือดตามลำดับ ส่วนอาการจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณฮิสตามีนที่ได้รับ แต่ผู้ที่มีประวัติภูมิแพ้หรือหอบหืดจะตอบสนองฮิสตามีนได้เร็วกว่าคนทั่วไป หากได้รับฮีสตามีนเข้าไปในปริมาณมากก็จะเกิดอาการเร็วและรุนแรง หากได้รับการรักษาไม่ทันเวลาอาจเสียชีวิตเฉียบพลันได้
          ดังนั้น ผู้ที่มีอาการภูมิแพ้หรือหอบหืดเป็นโรคประจำตัวจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแมลงทอดโดยเด็ดขาด และพึงสังเกตด้วยว่าตัวท่านยังแพ้อาหารอย่างอื่นอีกหรือไม่หากแพ้อาหารชนิดใดก็ให้หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารชนิดนั้นโดยเด็ดขาด เพื่อลดความเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับชีวิตของท่านเอง ซึ่งอาการแพ้อาจเกิดขึ้นได้ทันทีหรือเกิดขึ้นหลังจากรับประทานเฉลี่ยประมาณ 3-4 ชั่วโมง
          อย่างไรก็ตามฮิสตามีนไม่ได้มีเฉพาะในแมลงทอด แต่จะมีอยู่ในอาหารที่มีโปรตีนสูงทุกชนิดทั้งในพืชและสัตว์ โดยจะพบบ่อยในนมวัว อาหารทะเล ไข่ ข้าวสาลี ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ตลอดจนถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ ซึ่งอาการแพ้นม ถั่วต่างๆ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่และอาการแพ้อาจจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ส่วนผู้ใหญ่มักจะแพ้อาหารทะเลและส่วนใหญ่จะแพ้ตลอดชีวิต
          วิธีดูแลตัวเองเมื่อเกิดอาการแพ้อาหารสามารถทำได้โดยการสังเกตอาการที่เกิดขึ้นภายหลังการรับประทานอาหาร หากเกิดอาการอย่างเฉียบพลันทันที หรือไม่เกินหนึ่งชั่วโมงตั้งแต่รับประทานเข้าไป ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอาการคันและบวมในปาก คอ จมูกและตา มีผื่นลมพิษทั่วทั้งตัว แน่นหน้าอก ถ้าเกิดอาการดังกล่าวที่ว่านี้ไม่ต้องรีรอรีบนำพาตัวเองไปพบแพทย์ด่วน ก่อนที่ระบบทางเดินหายใจจะล้มเหลว หากอาการแพ้เกิดขึ้นอย่างช้าๆ ภายหลังการรับประทานอาหารตั้งแต่ 1-24 ชั่วโมง และอาการไม่รุนแรงมาก เช่น คลื่นไส้อาเจียนในเบื้องต้นก็ให้ล้วงคอเพื่อให้อาเจียนออกให้หมด หรือถ้าไม่อาเจียนก็ให้ดื่มน้ำมากๆ เพื่อไปเจือจางสารก่อภูมิแพ้ที่รับประทานเข้าไปและให้ร่างกายได้ขับถ่ายมันออกมาทางปัสสาวะ
          ในกรณีที่เคยมีประวัติแพ้อาหารอย่างรุนแรง ควรทำบัตรประวัติการแพ้อาหารติดตัวไว้เสมอและควรแจ้งให้ผู้ใกล้ชิดทราบเพื่อที่จะสามารถให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงทีหากเกิดปัญหาขึ้น ซึ่งในกรณีแบบนี้แพทย์มักจะแนะนำให้พกยาฉีด adrenaline ติดตัวไว้เสมอ เพื่อฉีดช่วยชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล
          แพ้อาหารไม่ใช่เรื่องล้อเล่น อย่าเห็นเป็นเรื่องเล็กแม้กับแมลงตัวน้อยนิด เพราะอาจปลิดชีวิตคุณได้
          "คนที่โปรดปรานการบริโภคดักแด้หนอนไหม และตัวอ่อนของตัวต่อจึงถูกแจ๊กพอตไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะดักแด้หนอนไหมและตัวอ่อนของตัวต่อเป็นแมลงที่มีสารก่อภูมิแพ้ หรือ "ฮิสตามีน" สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานกว่า 200 เท่า เกินกว่าความสามารถของระบบภูมิคุ้มกันที่จะต้านทานได้..."
 pageview  1220587    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved