พญ.ปราณี เมืองน้อยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก)กรมการแพทย์กระทรวงสาธารณสุข
เคยสงสัยไหมคะว่า เกมมีดีอะไร คนทั่วไปไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่จึงติดกันงอมแงมดูเหมือนเกมจะทำให้ทุกคนสนุกสนานจนลืมความร้ายแรงที่แฝงมากับเกม นั่นคือ "เกมเหมือนยาเสพติด มีกลไกทำให้เสพติดเหมือนการติดยาเสพติด" และทำให้สมองเกิดการเปลี่ยนแปลงกลไกการทำงาน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว จึงต้องเสียเวลาในการบำบัดอย่างมากมายมีโอกาสที่จะเลิกแล้วติดใหม่ซ้ำไปซ้ำมาเหมือนคนติดยาเสพติดที่ต้องเข้าๆ ออกๆสถานบำบัดยาเสพติดหลายๆ รอบ
สมองคนเรามีส่วนที่ทำให้คนเราเกิดความสุข สนุกสนาน เพลิดเพลิน ปีติยินดีเกิดความพึงพอใจ โดยมีระบบประสาทหลายส่วนทำงานร่วมกันเป็นวงจร ในที่นี้ขอเรียกว่า "ศูนย์แห่งความพึงพอใจ" เรามาดูกันนะคะ ว่าเกมต่างๆ หรือยาเสพติดเกี่ยวข้องกับศูนย์นี้อย่างไร
เกมหรือยาเสพติดที่ได้รับ เปรียบเหมือนสิ่งเร้าที่เข้าไปในสมอง กระตุ้นกลไกภายในศูนย์แห่งความพึงพอใจ สมองจะหลั่งสารเคมีที่สร้างความพึงพอใจออกมามากกว่าสิ่งเร้าตามธรรมชาติมากถึง2-10 เท่า สมองก็จะเริ่มจดจำความเพลิดเพลินสุดๆ แบบนี้ อยากวิ่งหาความสุขแบบนี้เรื่อยๆจึงเป็นตัวดึงเข้าหาสิ่งเร้าจนถอนตัวไม่ขึ้น นานๆ ไปสมองเริ่มชาชินก็จะเรียกร้องมากขึ้น ว่าแรงกระตุ้นจากสิ่งเร้าแค่นี้ไม่พอจะสร้างความเพลิดเพลินเท่าเดิม ก็จะส่งสัญญานบอกเจ้าของร่างกายให้ไปหาสิ่งเร้าที่แรงขึ้น
นั่นหมายถึงปริมาณยาเสพติดหรือเกมต้องมากขึ้น เร้าใจกว่าเดิม ต้องเล่นให้นานกว่าเดิม เจ้าตัวก็จะเริ่มทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ระดับความเพลิดเพลินหรือความสุขนั้น จนต้องอุทิศเวลาของตัวเองไม่ยอมกิน ไม่ยอมนอน ไม่ยอมคุยกับใครสุขภาพและทักษะสังคมก็จะเริ่มแย่ แถมกลายเป็นคนที่หาความสุขจากสิ่งรอบตัวยาก
เนื่องจากความสุขจากสิ่งรอบตัวเป็นแค่สิ่งเร้าตามธรรมชาติ (เช่น ความอร่อยของอาหาร ความสำเร็จจากการทำกิจกรรมต่างๆ) ซึ่งสร้างแรงกระตุ้นประสาทน้อยกว่ายาเสพติดหรือเกมหลายเท่า คนที่ติดจึงเริ่มแยกตัว ถอนตัวจากกิจกรรมเดิมที่ตัวเองเคยชอบ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ การเล่นกีฬา การท่องเที่ยว อารมณ์ก็จะเริ่มไม่ดีโดยเฉพาะหากโดนขัดขวางการเล่น เห็นชัดไหมคะว่าเกมไม่ผิดกับยาเสพติดเลย |