Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์ข่าวสด [ วันที่ 22/11/2562 ]
ฝึกจิต สร้างภูมิคุ้มกัน โรคซึมเศร้า ด้วย สมาธิ

   พระเฉลิมชาติ ชาติวโร
          พระธรรมทูตเชิงลึกแดนพุทธภูมิ  สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย ๙๘๐
          อินเดียเป็นประเทศที่มีศาสตร์การแพทย์โบราณที่เก่าแก่ยาวนานกว่า 4,000 ปี คือ "อายุรเวทศาสตร์" อันเป็นหลักทางวิชาการ ซึ่งผสมผสานความรู้ทางธรรมชาติ ศาสนา ปรัชญา และหลักสรีรวิทยา เข้าด้วยกัน เพื่อการรักษาเยียวยา ร่างกาย และ จิตใจ ให้งดงามสมบูรณ์
          แต่ถึงกระนั้น อินเดีย ก็ยังมีชื่อติดชาร์ตขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ว่ามีผู้ป่วยด้วย "โรคซึมเศร้า" มากที่สุดในโลก!! หลายปีติดต่อกัน
          จนวงการต่างๆ ของอินเดีย ต้องช่วยกันออกมาสนับสนุนการต่อต้านโรคซึมเศร้า หรือ เปิดองค์กรช่วยเหลือผู้เป็นโรคนี้กันมากขึ้น โดยกระแสฮือฮามากที่สุด คือ ทีปิกา ปาทุโกณ (Deepika Padukone) ซูเปอร์สตาร์หญิงแห่งวงการบอลลีวู้ด ได้ก่อตั้งมูลนิธิ 'ลีพเลิฟลาฟ' เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยทางจิต โดยเฉพาะโรคซึมเศร้า เนื่องจากดาราระดับเอลิสต์คนนี้ ได้ออกมายอมรับว่าตนเองก็เคยป่วยเป็นโรค ซึมเศร้ามาก่อน จึงทำให้ทีปิกาได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก และเป็นการกระตุ้นให้ เกิดการช่วยเหลืออย่างจริงจังในเรื่องของผู้ป่วยโรคซึมเศร้าในอินเดีย
          สำหรับโรคซึมเศร้า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ คนไทยน่าจะคุ้นเคยมากขึ้น จากเหตุการณ์ที่ผู้มีชื่อเสียงหลายคน เลือกจบชีวิตตัวเอง เพราะอาการป่วยที่เป็นเสมือนภัยเงียบนี้ เช่น ชอลลี่ ชเว   จิน รี ดาราเกาหลีคนดังที่พึ่งจากโลกไปด้วยอายุเพียง 25 ปี หรือนักร้อง เหม ภูมิภาฑิต นิตยารส นักแสดงหนุ่มของไทยวัย 31 ปี ที่เพิ่งเสียชีวิตไปไม่นานนี้ เป็นต้น
          และยังตอกย้ำด้วยข้อมูลจากกรมสุขภาพจิตว่า ขณะนี้วัยรุ่นไทยอายุ 10 - 19 ปี มีความเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าสูงถึง 44% หรือ ประมาณ 3,000,000 คน จากวัยรุ่นทั้งหมดประมาณ 8,000,000 คน และ มีอัตราที่ป่วยเป็นโรคนี้อยู่ถึง 18% โรคซึมเศร้า จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องตระหนักในการเรียนรู้เพื่อป้องกันหรือแก้ไขให้มากขึ้น
          เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผู้เขียนได้รับคำถามจากเด็กวัยรุ่นที่เพิ่งจบปริญญาตรี มาหมาดๆ ว่า "โรคซึมเศร้า จะสามารถใช้ธรรมะช่วยได้อย่างไรบ้าง?" เพราะตัวของเด็กคนนี้มีอาการคิดมาก หวาดกลัวสารพัด และเกิดความรู้สึกซึมเศร้าอยู่บ่อยครั้ง
          ถ้ามองโดยหลักการแพทย์ ก็อาจบอกได้ว่าสาเหตุของโรคซึมเศร้าเกิดจาก 1. กรรมพันธุ์ 2. สภาพแวดล้อม 3. สารเคมีในสมอง ฯลฯ ส่วนหลักของ "กรรม" จำแนกออกมาว่า โรคซึมเศร้าเกิดจากเศษกรรมปาณาติบาต หรือการฆ่าสัตว์ ทำลายชีวิตในอดีต จึงทำให้ป่วย ผสมกับกรรมจากการละเมิดศีล ข้อที่ 5 คือ การดื่มสุรา หรือเครื่องดื่มมึนเมา และสารเสพติดทุกประเภท ซึ่งมีผลในการทำให้เครียด ทำลายสติสัมปชัญญะ และบั่นทอนปัญญา
          แต่โรคซึมเศร้า สามารถรักษาได้!! ด้วยกำลังของสมาธิโดยปกติถ้ากำลังสมาธิไม่เข้มแข็ง จะเกิดอาการคิดมาก คิดฟุ้งซ่าน เมื่อยิ่งคิดเยอะขึ้น โดยไม่มีหลักยึดที่เข้มแข็ง อย่าง "พระรัตนตรัย" ก็มักไหลไปทางโกรธ เกลียด เสียใจ น้อยใจ เพราะเหตุว่า รักตัวเองมาก สงสารตัวเองมาก พอเกิดอะไรขึ้นจึงโทษตัวเองเป็นหลัก เมื่ออารมณ์เหล่านี้สะสมมากเข้า สุดท้ายกลายเป็นการย้ำคิดย้ำทำ ไม่สามารถถอนจิตจากความเศร้าหมองตรงนั้นได้ จึงกลายเป็นโรคซึมเศร้าในที่สุด ดังนั้นสรุปในปัจจุบันธรรมได้ว่า โรคซึมเศร้า เกิดจากลักษณะของจิตใจที่ไม่มี หลักยึดนั่นเอง
          ดังนั้นวิธีแก้ คือ การฝึกสมาธิ โดยเฉพาะการปฏิบัติในอานาปานสติ ได้แก่การรู้ลมหายใจเข้าออกเป็นหลัก ถ้าภาวนาจนอารมณ์ใจทรงตัวได้เมื่อไหร่ โรคนี้จะหายไปในทันที!!
          แต่ช่วงแรกฝึก ถ้ายังสมาธิยังไม่ดีก็จะเป็นๆ หายๆ ลืมลมหายใจเมื่อไหร่ หรือ อยู่ว่างเมื่อไหร่ก็จะวนกลับไปคิดมากอีก จึงต้องอาศัยวิธีการรักษาเยียวยาจิตใจ ในลักษณะอื่นประกอบด้วย ได้แก่
          1. พยายามอย่าอยู่ว่าง ให้หางานทำให้มากขึ้น โดยเฉพาะถ้ามีเวลาควรเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการออกเดินทางไปทำบุญที่วัด ไปไหว้พระ ไปสวดมนต์ตามวัด ท่องเที่ยววัดปฏิบัติธรรมต่างๆ ให้บ่อยขึ้น
          2. ไปร่วมกิจกรรมงานสาธารณกุศลให้มากขึ้น เช่น ที่ไหนมีวิ่งการกุศลก็หัดไปร่วมกับเขาบ้าง เจอโครงการเก็บกวาดขยะเพื่อสังคมก็ลงแรงช่วยเหลือ หรือถ้ามีโอกาสก็ชวนเพื่อนไปร่วมกัน "ขัดถูทำความสะอาดห้องน้ำสาธารณะในวัด"
          3. เลิกสงสารตัวเอง แล้วฝึกท่องคำว่า "ช่างหัวมัน!!" ให้ขึ้นใจ4. พยายามมองโลกให้แง่บวกให้มาก แม้ชีวิตจะมีปัญหา ก็ต้องพยายามใช้สติปัญญารีดหามุมดีๆ ของเรื่องนั้นออกมา แล้วยิ้มกับมันให้ได้
          5. ฝึกการเจริญสติ ด้วยการปฏิบัติแบบ "สติปัฏฐาน" ทั้งยืน เดิน นั่ง นอน ซึ่งสามารถช่วยให้หลุดออกจากความคิดฟุ้งซ่านและมีสติให้อยู่กับปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ อันเป็นการแก้ไขโรคซึมเศร้าและโรคทางจิตแบบถาวร
          "เพราะธรรมะของพระพุทธเจ้า เป็นสิ่งที่ใช้รักษาเยียวยาโรคทางใจของมนุษย์ ได้อย่างประเสริฐที่สุด"

 pageview  1210959    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved