นพ.มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันวัยรุ่นบางกลุ่มนำยาเค หรือ เคตามีน ที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นเพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์ มาเสพ เพื่อให้เกิดอาการมึนเมา เพลิดเพลิน ซึ่งฤทธิ์ของยาเคในระยะสั้นจะทำให้เกิดอาการหวาดระแวง จิตหลอน จำอะไรไม่ได้ ร่างกายเคลื่อนไหวไม่ได้เหมือนเป็นอัมพาตชั่วขณะ หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดปัญหาทางสมองเกี่ยวกับความทรงจำและสมาธิ มีปัญหาเกี่ยวกับการรับรู้และปัญหาทางจิต กลายเป็นคนวิกลจริต เกิดอาการเมายา และหากขับรถก็อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้
นพ.สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผอ.สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กล่าวเพิ่มเติมว่า การเสพยาเคในปริมาณมากร่วมกับสารเสพติดอื่นๆ หรือผสมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเพิ่มความเสี่ยงทำให้ผู้เสพเสียชีวิต ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้แม้จะเสพเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ยาเคในรูปแบบของเหลวจะไม่มีสีและไร้กลิ่น จึงง่ายต่อการนำไปผสมกับเครื่องดื่มต่างๆ ฤทธิ์ของยาเคทำให้สูญเสียความทรงจำ ผู้ถูกกระทำหรือเหยื่อจึงไม่สามารถจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ยาเคจะออกฤทธิ์ทำให้ผู้เสพมึนเมาประมาณ 30-60 นาที แต่ผลข้างเคียงอาจอยู่ได้นานถึง 24 ชั่วโมง ในกรณีที่เสพในปริมาณมากจะทำให้การหายใจติดขัดอาจทำให้เสียชีวิตได้ จึงขอเตือนกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะสุภาพสตรีให้ระมัดระวังตัวเอง เมื่อต้องไปงานเลี้ยงปีใหม่หรือเที่ยวในสถานบันเทิงต่างๆ เลี่ยงการรับเครื่องดื่มจากคนแปลกหน้า ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ไม่หวังดีได้ผสมสิ่งใดลงในเครื่องดื่มและนำมาให้ดื่ม ทั้งนี้หากประสบปัญหาเกี่ยวกับยาและสารเสพติด สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ สายด่วนยาเสพติด 1165 หรือที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาค สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pmindat.go.th |