แนะออกบิณฑบาตควรสวมหน้ากากอนามัย
นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการเพิ่มขึ้นของค่าฝุ่นละออง PM2.5 เกินเกณฑ์มาตรฐานตั้งแต่ปลายเดือนก.ย.2562 เป็นต้นมา ซึ่งเริ่มมาจากผลของไฟป่าในประเทศอินโดนีเซีย ประกอบกับฝนทิ้งช่วงและต่อเนื่อง รวมทั้งมีภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง เข้าสู่ฤดูหนาว และอากาศนิ่ง ทำให้ค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองขนาดเล็กที่กรมควบคุมมลพิษวัดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
จากข้อมูลของโรงพยาบาลสงฆ์ พบว่ามีพระภิกษุได้รับผลกระทบต่อสุขภาพมีอาการอาพาธเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ อาการหอบกำเริบในโรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรังและหอบหืด หลอดลมอักเสบติดเชื้อ และภาวะปอดอักเสบ ส่งผลให้พระสงฆ์อาพาธต้องนอนโรงพยาบาลมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นเท่าตัว คือ จากเดิมเฉลี่ย 5 รายต่อเดือน (เม.ย.-ก.ย.2562) มาเป็น 11 รายต่อเดือน (ต.ค.-ธ.ค.2562) โดยยังไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลง
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า สาเหตุส่วนใหญ่ของการหอบกำเริบในโรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรังและหอบหืด เนื่องจากการสูดควัน และฝุ่น PM 2.5 ในช่วงบิณฑบาตตามท้องถนน ชุมชนตลาด โรงงานต่างๆ ทุกวัน รวมถึงการนั่งยานพาหนะที่เปิดโล่ง เช่น การนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ รถตุ๊กตุ๊ก รถไฟและนอกจากนี้ยังพบว่าพระภิกษุมีอาการหอบกำเริบ ภายหลังการประกอบกิจสงฆ์ และงานต่างๆ ภายในวัด เช่น การจุดธูป การกวาดขยะมูลสัตว์ที่มีจำนวนมากในวัด การเผาขยะมูลฝอย การเผาศพ การก่อสร้างในวัด และไม่ได้ใส่เครื่องป้องกันเช่นหน้ากากอนามัย จึงนับได้ว่าพระภิกษุสามเณรเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจยังไม่ได้มีการรณรงค์ และดูแลให้ความสำคัญในภาพรวมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งโรงพยาบาลสงฆ์มีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้คำแนะนำทุกครั้ง ที่ผู้ป่วยมารับบริการผ่านสื่อต่างๆ เกี่ยวกับการป้องกันและการดูแลสุขภาพในพระภิกษุอาพาธ โรคปอดเรื้อรัง รวมทั้งมีการแจกหน้ากากอนามัย บริการส่งยาโรค ประจำตัวไปทางไปรษณีย์ การออกหน่วยเยี่ยมตามวัดต่างๆ ในช่วงที่มีสถานการณ์ค่าฝุ่นเกินเกณฑ์
ทั้งนี้ จึงขอแนะนำให้พระสงฆ์ที่บิณฑบาต รวมทั้งพุทธศาสนิกชนที่ตักบาตรตอนเช้าสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันฝุ่น PM2.5 และขอเชิญชวนประชาชนทำบุญ ด้วยการถวายหน้ากากอนามัยแด่พระสงฆ์ เพื่อเป็นการ ร่วมส่งเสริมสุขภาพพระสงฆ์อีกทาง หากมีข้อสงสัยหรือ อาการผิดปกติจากการได้รับควันฝุ่น PM2.5 สามารถปรึกษา โทร.0-2354-4305 ต่อ 5213 ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-12.00 น. หรือโทร.0-2354-4305 ต่อ 5121 ในวันเสาร์-อาทิตย์ ตลอด 24 ชั่วโมง |