ศบค.แจงไทยชนะ-ใช้คุมโรค ยืนยันไม่ล้วงข้อมูลประชาชน แก้เว็บ-ค่าเน็ตเรียนออนไลน์
          ศบค.ยันผับบาร์ยังต้องรอผ่อนล็อกไปก่อน แต่แนะให้ไปออกแบบ คิดนวัตกรรมใหม่ๆ ให้ร้านปลอดภัย กินดื่มไม่ติดโควิด ส่วนร้านทำผมยังห้ามดัด-ย้อม เพราะใช้เวลานาน เสี่ยงติดเชื้อ ทำได้เฉพาะตัด สระ ไดร์เท่านั้น ชี้แจงลงทะเบียน 'ไทยชนะ' ใช้คุมโรคเท่านั้น เก็บไม่เกิน 60 วันก็ลบออก ไม่ล้วงข้อมูลประชาชน ขณะที่ 'บิ๊กตู่' สั่งรมว.ศึกษาฯ เร่งทำความเข้าใจประชาชน เรียนออนไลน์ยังอยู่ขั้นตอนเตรียมพร้อม หลังเปิดเรียนวันแรกก็วุ่นทั้งประเทศ เว็บฯ ล่ม เล็งแก้ปัญหาค่าใช้จ่ายเน็ต เพิ่มเซิร์ฟเวอร์ให้รองรับได้ 4 ล้านคน
          เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวันถึงการเข้าใช้งานแพลตฟอร์ม ไทยชนะ ว่าสรุปจนถึงขณะนี้มีร้านค้าลงทะเบียน 60,853 ร้านค้า จำนวนผู้ใช้งาน 3,660,081 คน โดย 10 จังหวัดที่มีผู้ให้บริการลงทะเบียนสูงสุด คือ กทม. ชลบุรี สมุทร ปราการ และปทุมธานี ห้างสรรพสินค้ามี ผู้เช็กอิน 1,317,200 คน
          นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อกรณีร้านเสริมสวยบางแห่งเปิดให้ดัดผม ย้อมผม นอกจากตัด สระ ไดร์ ว่ายังไม่อนุญาตให้ดัดผม ย้อมผม เพราะต้องใช้เวลาในการทำมากกว่า 2 ชั่วโมง การใช้เวลานานเป็นความเสี่ยงติดเชื้อ ขอให้รออีกสักระยะหนึ่ง หากตัวเลขต่ำกว่า 2 หลักไปนานๆ ก็จะเข้าสู่ผ่อนปรนระยะที่ 3 และ 4 ดังนั้น ถ้าสุ่มตรวจแล้วเจอว่าทำ ก็จะให้ คำแนะนำ ตักเตือน แต่ถ้ายังซ้ำจะลงโทษ หนักสุดคือ ปิดร้าน
          ต่อข้อถามว่าสถานธุรกิจบันเทิงผับบาร์ จะเปิดให้บริการในระยะผ่อนปรนที่ 4 ได้ หรือไม่ โฆษกศบค.กล่าวว่ากลุ่มธุรกิจดังกล่าว มีความต้องการของคนที่จะให้เปิดอยู่ส่วนหนึ่ง แต่เมื่อมีตัวอย่างจากต่างประเทศให้เราเห็น ก็รู้สึกกังวลใจ เพราะกลุ่มกิจการนี้อยู่ในกลุ่มสีแดง มีความเสี่ยงปานกลางถึงสูงต่อการระบาดของโรค มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต และส่งผลต่อเศรษฐกิจและสังคมอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง จัดอยู่ในกลุ่มหลังๆ คือระยะที่ 4
          โฆษกศบค.กล่าวต่อว่า ขอให้ตัวเลขหลักเดียวเช่นนี้ไปนานๆ แล้วกิจการกิจกรรม จะกลับมาเปิดได้เหมือนเดิม แต่ต้องอยู่ในชีวิตวิถีใหม่ ดังนั้น ผับหรือบาร์ตอนนี้ต้องไปนั่งคิดได้แล้วว่าอาจจะมีนวัตกรรมใหม่ที่ให้ความ มั่นใจกับทางการ คือ ศบค. หน่วยงานด้านสาธารณสุขได้ว่าไปนั่งไปดื่มแล้วไม่ติดโรคแน่นอน ระหว่างที่รอเปิดนี้ขอให้คิดนวัตกรรมใหม่กันมา เพื่อนำเสนอว่ามีความพร้อมรอเปิด และมีชีวิตที่มีความสุขเช่นเดิม
          ผู้สื่อข่าวถามถึงการลงทะเบียนไทยชนะ จะกระทบต่อสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลหรือไม่ เพราะเกรงว่าจะถูกนำไปใช้ในทางการเมือง โฆษก ศบค.กล่าวว่า การดูแลชุดข้อมูลคือกระทรวงสาธารณสุข มีเจตนาเพื่อควบคุมโรคอย่างเดียว และชุดข้อมูลนี้ใช้เพียงโทรศัพท์ของผู้จดทะเบียนเท่านั้น เพียงแค่ขอให้ติดตามตัวได้ ไม่ได้ต้องการข้อมูลมากมาย และชุดข้อมูลเหล่านี้จะอยู่นานเพียง 60 วันเท่านั้น ถ้า 60 วันย้อนหลังแล้วไม่ติดเชื้อ โควิด ข้อมูลเหล่านี้ก็ต้องถูกลบไป ไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์อื่น ดังนั้นไม่ต้องกังวลใจ เหมือนกล้องซีซีทีวี
          นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ขอให้ผู้ประกอบการ กลุ่มธุรกิจ ผู้ให้บริการ กิจการ หรือคนดูแลกิจกรรม ในกลุ่มสีขาวและสีเขียวทั้งหมดที่คลายล็อกแล้ว ลงทะเบียนไทยชนะ เพื่อจะได้มีระบบเดียวในการดูแล คนหนึ่งอาจมาตรงนี้ อีกวันไปอีกที่หนึ่ง ถ้าอยู่ในระบบเดียวกัน การติดตามโรคจะง่ายขึ้น ผู้ป่วยจังหวัดหนึ่งภาคใต้ออกไปจังหวัดอื่น ก็ต้องเอาคนไปนั่งซักประวัติไปถาม เสียเวลากว่าจะได้ชุดข้อมูล แต่ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เราดึงข้อมูลมาบอกได้เลย และตามโรคได้เร็วด้วย
          ขณะที่นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวง มหาดไทย ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ รับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์เกี่ยวกับมาตรการเยียวยา 5,000 บาท ด้วยอีกช่องทางหนึ่ง นอกเหนือจากที่กระทรวง การคลังให้ร้องทุกข์ที่สาขาของธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทั่วประเทศ ไปจนถึงวันที่ 29 พ.ค. ตามวันเวลาราชการ แล้วรวบรวมนำส่งกระทรวงการคลังต่อไป
          ที่ จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่าได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน ทำให้สถานการณ์โควิดใน จ.นครราชสีมา โดยรวมเริ่มดีขึ้น ใกล้สู่ภาวะปกติแล้ว ที่ผ่านมาคลายล็อกและผ่อนปรนธุรกิจ กิจกรรม กิจการไปแล้วหลายประเภท เพื่อให้ประชาชนได้ผ่อนคลายและดำเนินธุรกิจได้ แต่ยังต้องอยู่ภายใต้มาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มข้น สำหรับ โรงแรมคาดว่าจะให้กลับมาเปิดได้อีกครั้ง ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ โดยให้โรงแรมแต่ละแห่งแจ้งมายังจังหวัดว่ามีความพร้อมเปิดให้บริการแค่ไหน มีมาตรการตามที่สาธารณสุขกำหนดไว้หรือไม่ หากพร้อมก็กลับมาเปิดได้ทันที
          ส่วนปัญหาการเรียนออนไลน์ที่วุ่นทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเว็บล่ม และเด็กและ ผู้ปกครองไม่มีเทคโนโลยีการสื่อสารอย่างทั่วถึง และเพียงพอนั้น นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่าในการประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจถึงการเรียนหนังสือในช่วงนี้ ว่าที่เริ่มออก อากาศสื่อการสอนผ่านทีวีดิจิตอลเป็นการเตรียมความพร้อม เพื่อเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 วันที่ 1 ก.ค.เท่านั้น หากไม่สามารถเรียนที่โรงเรียนได้จะต้องเรียนผ่านช่องทางนี้ ขอให้ทุกคนเข้าใจตรงกันว่า วันที่ใช้การเรียนการสอนที่บ้าน ไม่ว่าจะผ่านโทรทัศน์ หรือเรียนเสริมด้วยออนไลน์ ต่อเมื่อมีวิกฤตโควิด จนไม่สามารถเรียนและสอนได้ที่โรงเรียน เท่านั้น
          รมว.ศึกษาฯ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในวันที่ 18 พ.ค. คือมีผู้เข้าชมเว็บไซต์การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เว็บล่ม ขณะนี้ระบบกลับมาใช้ได้เหมือนเดิมแล้ว จากเรื่องนี้ทำให้คิดว่าจะต้องเตรียมระบบคลาวด์ หรือเซิร์ฟเวอร์ไว้รองรับถึง 4 ล้านคนที่จะเข้าเว็บในเวลาเดียวกันได้ จะหาทางแก้ไขต่อไป ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายอินเตอร์ เน็ต หรือเรื่องการเตรียมระบบไว้รองรับ ทั้งนี้ จะยังยึดวันเปิดเทอมคือ 1 ก.ค.เช่นเดิม
          ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.รับทราบปัญหาการจัดการเรียนการสอนทั้งในรูปแบบออนไลน์ และการเรียนแบบทางไกล ว่าบางครอบครัวยังไม่พร้อม แต่รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงกำลังหาทางช่วยเหลือประชาชนในเรื่องนี้ ขณะที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขอเข้ามาร่วมหาทางช่วยเหลือครอบครัวที่ไม่พร้อม โดยจะนำงบประมาณจากกองทุนบ้านมั่นคงมาใช้ดำเนินการ
          ขณะที่ จ.นครราชสีมา ครูโรงเรียนบ้าน ท่าหลวง อ.พิมาย ลงพื้นที่ติดตามการเรียน การสอนออนไลน์ของเด็กนักเรียนถึงบ้าน โดยพบปัญหานักเรียนบางคนไม่มีทีวี ไม่มีอินเตอร์เน็ต เนื่องจากฐานะยากจน ครูจึงต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการให้เด็กนักเรียนที่ไม่มีทีวีดูมานั่งเรียนร่วมกับบ้านเพื่อนที่มีทีวี แต่จัดให้นั่งเว้นระยะห่างกัน โดยพบว่าเด็กส่วนใหญ่ชอบนั่งเรียนกับเพื่อนมากกว่าเรียนคนเดียว ทำให้บางคนไม่ตั้งใจเรียน แต่เมื่อมานั่งเรียนพร้อมกับเพื่อน ทำให้มีสมาธิ ไม่เหงา และตั้งใจเรียนมากขึ้น
          ส่วน จ.สงขลา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เด็กในชุมชนริมทางรถไฟ เทศบาลนครหาดใหญ่ หลายครอบครัวไม่มีทีวีและอินเตอร์เน็ตสำหรับเรียนออนไลน์ บางบ้านแก้ปัญหา ด้วยการให้เด็กไปนั่งเรียนรวมกัน โดยนาง ศรีสวาท สุกใส อายุ 52 ปี พาหลาน 4 คนมาเรียนที่บ้านญาติ กล่าวว่าที่บ้านไม่มีทีวีและโทรศัพท์มือถือ จึงพามาเรียนรวมกันที่ บ้านญาติ เด็กก็ชอบ เพราะเพิ่งเรียนเป็น ครั้งแรก แต่อยากให้ไปโรงเรียนมากกว่า เพราะหากไม่เข้าใจจะได้ถามครู
          นางสมคิด เพชรประดับ มีลูกกำลังขึ้นชั้น ป.4 และหลานจะขึ้นชั้น ป.1 ร่วมกล่าวว่าลูกและหลานยังไม่ได้เรียนออนไลน์ เพราะตนไม่เข้าใจว่าเรียนอย่างไร แม้ครูจะส่งรายละเอียด มาให้ทางไลน์ แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าจะต้องทำอย่างไร ทั้งลูกและหลานจึงยังไม่ได้เรียนออนไลน์