นพ.จุมภฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ผลกระทบจากโรคโควิด-19 นั้น แบ่งออกเป็น คลื่น ลูกที่ 1 ช่วงที่ระบาด ที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก ส่วนคลื่น ลูกที่ 2 คือ ผู้ป่วยเร่งด่วน แต่ไม่ได้ติดโควิด ทำให้ถูกเลื่อนนัดออกไป และกลับเข้าสู่การรักษาอีกครั้ง ทำให้ผู้ป่วย มากขึ้น คลื่นลูกที่ 3 คือ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่เลื่อนนัดนานขึ้น รวมถึงผู้ป่วยจิตเวชด้วย เมื่อการระบาดลดลงเคส เหล่านี้จะกลับมา ร.พ. และคลื่นลูกที่ 4 ที่กังวลมาก คือ ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจจากโควิด ประชาชนบางส่วนอาจเครียด ซึมเศร้า หรือรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย บุคลากรทางการแพทย์ที่อาจจะเกิดภาวะหมดไฟ
นพ.จุมภฏกล่าวต่อว่า ตอนนี้ไทยอยู่ในช่วงคลื่นที่ 3 และ 4 หากไม่มีระบาดรอบใหม่ คาดว่าผู้ป่วยจิตเวชจะ มากขึ้น ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-เม.ย. ซึ่งเกิดการระบาดคลื่นลูกที่ 1 ทำให้ รพ.จิตเวชเลื่อนนัดผู้ป่วยออกไป ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยลดลง 30% ผู้ป่วยในลดลง 47.65% เพื่อรอรับเคส แต่ตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป คาดว่าจะมีคนมารับบริการจิตเวชรายใหม่เพิ่มขึ้นจากความเครียด จำนวน ผู้ป่วยมาใช้บริการมากขึ้น กระทบต่อคุณภาพการ บริการและจำนวนผู้ป่วยนอนรักษาในร.พ.มากขึ้น จากการรักษาไม่ต่อเนื่องและขาดยา ดังนั้น เพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยที่มากขึ้น จึงมีการปรับเปลี่ยนการให้บริการจิตเวชแบบนิวนอร์มอลให้ปลอดภัยทั้งคนให้ และ รับบริการต่อไป |