วันที่ 27 ต.ค. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาการอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อม นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดี คร. และนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป แถลงข่าวความคืบหน้าสอบสวนโรคหญิงฝรั่งเศสอายุ 57 ปี ติดโควิด-19 เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ผลการสอบสวนในสถานที่กักกันทางเลือก หรืออัลเทอร์เนทีฟ สเตต ควอรันทีน จ.สมุทรปราการ พบว่า เจอผู้ติดเชื้อในสถานที่กักกันฯ แห่งเดียวกัน 3 ราย และเข้าสู่การรักษาในโรงพยาบาล
          ส่วนห้องฟิตเนสที่เก็บตัวอย่างแล้วตรวจเจอเชื้อโควิดเก็บตัวอย่างบนพื้นผิวสัมผัสของเครื่องออกกำลังกาย พบเชื้อเป็นสารพันธุกรรมในปริมาณน้อย เมื่อประเมินความเสี่ยงการระบาด ขณะนี้ติดตามผู้สัมผัสได้ครบ มีการตรวจไปแล้วส่วนใหญ่เป็นลบ รอผลการตรวจอีก 17 ราย ผู้ติดเชื้อรายนี้น่าจะมีโอกาสแพร่เชื้อไปคนอื่นไม่มาก เพราะสามีและลูกที่ใกล้ชิดตลอดไม่ได้รับเชื้อ แต่ยังรอผลตรวจรหัสพันธุกรรมของผู้ติดเชื้อที่เจอในสถานที่กักกันฯ และตัวอย่างเชื้อจากเครื่องออกกำลังกาย
          นพ.โอภาสกล่าวว่า ขณะนี้ได้ปรึกษานายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) สมุทรปราการ ว่า สถานที่กักกันฯ แห่งนี้ให้หยุดชั่วคราวไม่รับคนใหม่ ส่วนคนเก่าที่มีไม่มากจะไม่เคลื่อนย้ายไปไหนเพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ เมื่ออยู่ครบ 14 วัน จะมีมาตรการติดตามตัวทุกวัน หลังออกจากครบ 7 วัน จะตรวจเชื้อซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาการแพร่กระจายเชื้อไปชุมชนเป็นเรื่องเฉพาะหน้า และเมื่อผู้กักตัวออกครบทั้งหมดแล้ว จะให้ทำความสะอาดและประเมินระบบใหม่อีกครั้งหนึ่ง ส่วนระยะยาวต้องทบทวนว่า ปัญหาเกิดจากตรงไหน ทั้งแง่การปฏิบัติหรือมาตรการเพื่อให้ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
          วันเดียวกัน แพทย์ร.พ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี อาการล่าสุดของหญิงชาวฝรั่งเศสที่การรักษาเข้าสู่วันที่หก วัน มีไอเล็กน้อย อาการไม่น่าเป็นห่วง หลังได้รับยารักษาจนครบ 10 วัน และผลตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 จะอนุญาตให้กลับบ้านได้ส่วนผู้ที่สัมผัสมีความเสี่ยงสูง 30 ราย ตอนนี้เข้ามาตรวจจนครบแล้ว และผลตรวจเป็นลบไม่มีเชื้อโควิด-19 ทั้งหมดเข้าสู่ขั้นตอนกักตัวที่โรงแรมจนครบ 14 วัน และผลตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 จะอนุญาตให้กลับบ้านได้เช่นกัน และผู้ที่สัมผัสมีความเสี่ยงต่ำ 80 ราย เฝ้าระวังควบคุมตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข
          ที่บช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. ดูแลงานจเรตำรวจ เปิดเผยความคืบหน้าในการตรวจสอบกรณีการโกงเงินเบี้ยตำรวจช่วงโควิด-19 ว่า กรณีดังกล่าวมีการประชุมกับผู้เกี่ยวข้องบก.น.1-9 บก.จร. บก.อคฝ. บก.สส.บช.น, ที่รับผิดชอบหารือถึงแนวทางเพื่อตรวจสอบว่ามีการ กระทำความผิดหรือไม่ ภายหลังจากที่พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ. วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ให้ทุกหน่วยตรวจสอบกรณีดังกล่าว โดยเฉพาะหน่วยปฏิบัติทุกหน่วยตรวจสอบ เนื่องจากเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ส่งไปให้ผู้ใต้บังคับบัญชาจะต้องโอนตรง ไม่มีการผ่านทางหนึ่งทางใด หรือทอนคืนโดยเด็ดขาด