Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์ข่าวสด [ วันที่ 26/10/2563 ]
สั่งปิดตึกเรียน-พิษก๊าซบึ้ม

  ร้าวทั้งอาคาร'สภาวิศวกร'ตรวจจุดเสี่ยง
          วิศวกรรมสถานลงตรวจพื้นที่บ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ท่อก๊าซระเบิดที่จ.สมุทรปราการ เบื้องต้นพบอาคารโรงเรียนเปร็งวิสุทธาธิบดี พบอาคาร 2 ชั้นเสียหายมาก ความร้อนทำให้สายไฟละลาย ส่งผลให้ไฟฟ้าลัดวงจร เสนอให้ปิดอาคารตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง ส่วนอาคาร 3 ชั้น ก็ต้องตรวจสอบโดยละเอียดเช่นกัน ขณะที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตลงพื้นที่เร่งแก้ไขไฟฟ้าเตรียมจ่ายไปให้ได้เหมือนเดิม
          เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 ต.ค. นายธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) นำผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่เพื่อสำรวจโครงสร้างเบื้องต้นให้บ้านเรือนของประชาชน และสิ่งก่อสร้างของหน่วยงานราชการที่ได้รับความเสียหายจากเหตุท่อก๊าซระเบิดในเขต ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ
          ที่โรงเรียนเปร็งวิสุทธา ธิบดี ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยม อยู่ห่างจากจุดที่ท่อก๊าซระเบิด 200 เมตร เป็นเหตุให้อาคารเรียน อุปกรณ์ต่างๆ ของราชการได้รับความเสียหาย และเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บ โดยผู้เชี่ยวชาญได้ใช้อุปกรณ์ตรวจสอบความหนาแน่นของอาคารซีเมนต์ 2 หลังคือ อาคาร 3 ชั้น อาคาร 2 ชั้นที่ชั้นล่างเป็นโรงอาหาร และบ้านพักครู
          จากการลงพื้นที่สำรวจอาคารเรียนของโรงเรียนเปร็งวิสุทธาธิบดี พบว่า การขยับตัวจากรอยร้าวเดิมเพิ่มขึ้น ความร้อนทำให้สายไฟฟ้าในอาคารละลาย ควรตรวจเช็กระบบไฟฟ้าว่ามีโอกาสลัดวงจรหรือไม่ ซึ่งตนเอง ได้คุยกับปตท. ว่าจะตรวจเช็กอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด โดยทางวิศวกรรมสถานยินดีจะส่งวิศวกรอาสามาร่วมตรวจเช็กด้วย ซึ่งวันนี้ จะใช้เครื่องมือตรวจโรงเรียน สถานีตำรวจ และบ้านเรือนประชาชน
          สำหรับการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าอาคาร 2 ชั้นรอยร้าวเดิม มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น จึงมีข้อเสนอขอให้ทางโรงเรียนปิดพื้นที่ไม่ให้ใช้อาคารดังกล่าวเป็นสถานที่กินข้าวของเด็กๆ ส่วนบ้านของประชาชนให้สังเกตว่าสายไฟฟ้ามีรอยไหม้หรือไม่ ซึ่งบางทีก็ดูภายนอกไม่เห็น ควรให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบก่อนใช้งาน
          นายสิริวัฒน์ ไชยชนะ อุปนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์กล่าวว่า จากการตรวจสอบอาคารโรงเรียนเปร็งวิสุทธาธิบดีพบว่า อาคาร 2 ชั้น รอยร้าวเดิมที่เคยมีมีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อเจอความร้อนทำให้รอยร้าวขยายตัว ความร้อนเข้าไปด้านในอาคาร มีผลกระทบแน่นอน ไม่สมควรใช้งานอาคาร จึงขอให้โรงเรียนปิดประกาศจุดอันตราย ส่วนเก้าอี้ โต๊ะต่างๆ ในโรงเรียนก็ต้องระวังการใช้งาน เพราะดูภายนอกอาจจะไม่เห็น ส่วนอาคารอีกหลังที่เป็น 3 ชั้น ไม่ค่อยมีผลกระทบมาก แต่ก็ต้องให้วิศวกร มาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
          ส่วนที่โรงเรียนเปร็งวิสุทธา ธิบดี และสถานีตำรวจภูธรเปร็ง มีการระดม เจ้าหน้าที่ของ ปตท.จำนวนมาก มาทำความสะอาดเก็บกวาด ฉีดน้ำล้างตามอาคารและรอบๆ พื้นที่
          นายเริงชัย คงทอง รองผู้ว่าการระบบส่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตจะดึงสายป้องกันฟ้าผ่าและสายออพติกไฟเบอร์ โดยที่เมื่อวานแก้ไขแล้ว 1 ต้น เหลืออีก 1 ต้น ต้องใช้เวลาอีก 6 วัน ส่วนพรุ่งนี้ถึงจะดึงสายนำไฟฟ้า และให้บริเวณ ตรงกลางเคลียร์พื้นที่ 3 วัน ถึงจะดึงสายได้ น่าจะแล้วเสร็จภายใน 6 วัน โดยไฟฟ้าเส้นนี้มาจากคลองใหม่ ไปที่ลำลูกกา เป็นสายขนาด 230 เควี ประชาชนสบายใจได้ทางการไฟฟ้ายังจ่ายไฟได้ตามปกติ โดยในพื้นที่เกิดเหตุ และบริเวณใกล้เคียงได้จ่ายไฟฟ้าตามปกติแล้ว มีแต่บ้านที่ได้รับความเสียหายที่ไม่สามารถจ่าย ไฟฟ้าได้ เพราะอุปกรณ์ชำรุดทั้งหมด ทางการไฟฟ้าส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่มาดูแลตั้งแต่วันแรกๆ แล้ว ส่วนเหตุการณ์ดังกล่าวทางการไฟฟ้ายังไม่ประเมินค่าเสียหาย โดยมีภารกิจเร่งด่วนซ่อมสายไฟฟ้าให้กลับมาใช้ได้ยังเดิมก่อน โดยเป็นสายไฟฟ้าเชื่อมโยงระหว่างภาคตะวันออกกับกรุงเทพฯ โดยจากเหตุการณ์นี้ทาง กทม.ไม่ได้รับผลกระทบเพราะมีการจ่ายไฟชั่วคราวจากทางอื่น และจัดแผนการผลิตไฟใหม่โดยเดินเครื่องที่โรงไฟฟ้าบางปะกงขึ้นมาชดเชย เพื่อจ่ายไฟฟ้าในภาคตะวันออก และเดินเครื่องที่โรงไฟฟ้าวังน้อยขึ้นมาชดเชย
          นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 62 รายนั้น ขณะนี้ได้รับรายงานจากผู้ตรวจราชการ สธ. เขตสุขภาพ ที่ 6 ว่า ผู้ป่วยกลับบ้านได้แล้ว 38 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 24 ราย แบ่งอาการตามระดับความรุนแรง สีแดง 6 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 4 ราย สีเหลือง 9 ราย และสีเขียว 9 ราย กระจายใน 10 ร.พ. คือ 1.ร.พ.จุฬารัตน์ 3 เป็นชาย 1 ราย หญิง 1 ราย อาการอยู่ในระดับสีเขียว 2.ร.พ.บางบ่อ เป็นชาย 1 ราย หญิง 2 ราย อาการอยู่ในระดับสีเหลือง
          3.ร.พ.รามาธิบดี วิทยาเขตพญาไท เป็นหญิง 1 ราย อาการอยู่ในระดับสีแดง 4.ร.พ.พุทธโสธร เป็นชาย 3 ราย อาการอยู่ในระดับสีแดง 1 ราย สีเหลือง 2 ราย 5.ร.พ.นพรัตนราชธานี เป็นชาย 1 ราย อาการอยู่ในระดับสีแดง 6.ร.พ.ไทยนครินทร์ เป็นชาย 2 ราย หญิง 1 ราย อาการอยู่ในระดับสีแดง 1 ราย สีเหลือง 2 ราย 7.ร.พ. รามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ เป็นชาย 1 ราย อาการอยู่ระดับสีแดง 8.ร.พ.ลาดกระบัง เป็นชาย 3 ราย หญิง 3 ราย อาการอยู่ในระดับสีแดง 1 ราย สีเหลือง 1 ราย และสีเขียว 4 ราย 9.ร.พ.สิรินธร เป็นชาย 1 ราย อาการอยู่ในระดับสีเหลือง และ 10.ร.พ.รวมชัยประชารักษ์ เป็นชาย 1 ราย หญิง 2 ราย อาการอยู่ในระดับสีเขียว
          จากการลงพื้นที่สอบสวนเพื่อเฝ้าระวังและคัดกรองสุขภาพประชาชนในพื้นที่จุดเกิดเหตุ ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ พบว่า ส่วนใหญ่มีอาการแสบตา แสบคอ แสบจมูก เท้าบวม และ มีอาการแสดงเล็กน้อย อาทิ เหนื่อยง่าย ปวดศรีษะ คัดจมูก มีผื่นแดง คันตามร่างกาย นอกจากนี้ยังได้ลงพื้นที่ตรวจวัดคุณภาพอากาศจำนวน 5 จุด ได้แก่ 1.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านตะวันใหม่ 2.โรงเรียนเปร็งวิสุทยาธิบดี 3.อบต.เปร็ง 4.บ้านเลขที่ 114/1 หมู่ 4 ตำบลเปร็ง และ 5.วัดเปร็ง ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในอาคาร โดยเครื่องตรวจวิเคราะห์คุณภาพอากาศภายในอาคารแบบอ่านค่าโดยตรง (IAQ) ตรวจวัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ ก๊าซฟอร์มัลดีไฮด์ ไฮโดรเจนซัลไฟด์ ก๊าซโอโซน ฝุ่น PM10 และ ฝุ่น PM2.5 พบว่าไม่เกินค่ามาตรฐานในทุกจุดตรวจวัด และผล การตรวจวัดคุณภาพอากาศภายนอกอาคาร โดยเครื่องมือตรวจวัดปริมาณก๊าซในอากาศ ตรวจวัดเบนซีน, เอทิลีน, โทลูอีน, ไซลีน, สไตรีน พบว่าทั้ง 5 จุดปริมาณสารเคมีดังกล่าว ไม่เกินค่าขีดจำกัดการรับสัมผัสสารเคมีทางการหายใจ ระดับ 1 ตามประกาศกรมควบคุมมลพิษเรื่องค่าขีดจำกัดการรับสัมผัสสารเคมีทางการหายใจแบบเฉียบพลัน

 pageview  1210911    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved