น.พ.อำนาจ กุสลานันท์ นายกแพทยสภา กล่าวถึงกรณีการเรียนแพทย์ต่อในต่างประเทศว่า ที่ผ่านมา มีแพทย์ที่จบจากต่างประเทศและกลับเข้ามาขอสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์ของแพทยสภาจำนวนไม่มากนัก โดยประเทศที่นักศึกษาไปเรียนต่อมากและกลับมาสอบใบประกอบวิชาชีพที่ประเทศไทยมากที่สุด คือ ฟิลิปปินส์ อินเดีย ซึ่งตามกฎระเบียบไม่ว่านักศึกษาจะไปเรียนจบจากประเทศไหนก็ตาม หากต้องการทำงานในประเทศไทย ต้องสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ แม้ว่าจะสามารถสอบใบประกอบวิชาชีพจากประเทศนั้นๆ ได้แล้วก็ตาม และสถาบันที่ไปศึกษาต่อ ต้องผ่านการตรวจสอบหลักสูตรจากแพทยสภาว่าได้มาตรฐานหรือไม่ หากไม่ผ่านการตรวจสอบก็ไม่สามารถสอบใบประกอบวิชาชีพได้
"หากนักเรียนไทยจะไปเรียนเพื่อกลับมาทำงานในประเทศไทย นักศึกษาควรนำหลักสูตรมาปรึกษาแพทยสภาก่อนที่จะเดินทางไปเรียน เพราะเมื่อแพทยสภารับรองตั้งแต่ต้นเมื่อเรียนจบก็สามารถกลับมาสอบใบอนุญาตได้ทันที ซึ่งหากไม่ได้รับการรับการรับรองก่อนไป เมื่อเรียนจบกลับมาแล้วพบว่าหลักสูตรไม่ได้มาตรฐานก็จะเกิดความเสียหายขึ้น" น.พ.อำนาจกล่าว
น.พ.อำนาจกล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าในการทำงานของแพทย์ในอาเซียน เพื่อรองรับการการเปิดอาเซียน (AEC) นั้น ขณะนี้ประเทศสมาชิกได้ประชุมร่วมกันและมีมติในเบื้องต้นว่า 1 ประเทศสมาชิกจะต้องปฏิบัติต่อคนในประเทศอาเซียนเหมือนคนในประเทศของตนเอง 2 ประเทศสมาชิก มีสิทธิที่จะวางกฎกติกาในการสอบใบประกอบวิชาชีพได้ตามความเหมาะสมของประเทศสมาชิก เช่น หากจะสอบในประเทศไทย อาจจะมีการทำข้อสอบภาษาอังกฤษ แต่การสอบภาคปฏิบัติจะต้องสื่อสารกับผู้ป่วยด้วยภาษาไทยได้เป็นต้น ทั้งนี้ สำหรับการออกใบอนุญาตวิชาชีพชั่วคราวเป็นรายปีสำหรับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ยังไม่ได้ข้อสรุปร่วมกันว่าจะทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกันอย่างไร ซึ่งยังต้องมีการหารือกันต่อไป
|