นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ผอ.สำนักโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า โครงการรณรงค์วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลที่มีการฉีดให้กลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่ม 3.55 ล้านคน ที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย-30 ก.ย. ซึ่งเป็นช่วงที่พบการระบาดมากที่สุดนั้น พบว่าตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.-28 มิ.ย. โรงพยาบาลต่างๆ ได้ฉีดวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยงทั้ง 7 กลุ่ม และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลไปแล้ว 3 แสนโด๊ส โดยใช้ งบประมาณ 500 ล้านบาท ฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ รวมอยู่ในเข็มเดียว ประกอบด้วย ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือไวรัสไข้หวัด 2009 (H1-N1) ชนิดเอ เอช 3 เอ็น 2 (H3-N2) และชนิดบี 3.55 ล้านโด๊ส ทั้งนี้จากข้อมูลกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้สุ่มตัวอย่างตรวจนั้น พบว่าในปีนี้สายพันธุ์ที่พบการระบาดมากที่สุดได้แก่ ชนิดเอ เอช3เอ็น2 (H3-N2) ซึ่งเป็นไข้หวัดตามฤดูกาล
นพ.โอภาสกล่าวว่า สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่รัฐบาลให้วัคซีน ได้แก่ 1.กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาผู้เจ็บป่วย รวมทั้งเจ้าหน้าที่กำจัดสัตว์ปีก 2.ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้น 3.กลุ่มโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเรื้อรัง มะเร็งที่กำลังรับเคมีบำบัด เบาหวาน ธาลัสซีเมีย และภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมทั้งผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการ 4.หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป 5.ผู้มีน้ำหนักตัวมากกว่า 100 กิโลกรัม 6.ผู้พิการทางสมองช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และ 7.เด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือน-2 ขวบ |