เคอร์รี สตีเวิร์ต จากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอพ กินส์ สหรัฐอเมริกา ทดลองเด็กๆ ที่มีอาการของโรคอ้วน อายุระหว่าง 13-17 ปี จำนวน 77 คน โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกทดลองลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหาร และออกกำลังกาย ส่วนกลุ่มสองควบคุมแค่ปริมาณอาหารเท่านั้น
ผลปรากฏว่า กลุ่มที่ออกกำลังกาย นอกจากจะมีน้ำหนักลดลงแล้ว ดัชนีมวลกาย (บีเอ็มไอ) และรอบเอวหนาๆ ยังลดลงอีกด้วย ที่สำคัญ ตั้งแต่หน้าพุงพลุ้ยๆ หายไป วัยรุ่นวัยโจ๋ส่วนใหญ่สามารถนอนหลับได้ดีขึ้น โดยไม่มีอาการหายใจติดขัด นอนไม่หลับ กรน รวมถึงอาการของโรคสลีป แอพนี หรือการหยุดหายใจขณะหลับ
นั่นเป็นเพราะไขมันที่สะสมอยู่ตามหน้าท้องและรอบเอวไม่กดทับอวัยวะภายในขณะนอนเหมือนกับตอนอ้วน ร่างกายจึงรู้สึกสบาย ไม่ต้องใช้พลังให้ทุกส่วนทำงานได้เป็นปกติ จึงสามารถนอนหลับได้สนิทขึ้นนั่นเอง
|