Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก [ วันที่ 04/05/2555 ]
ผู้คุมเปิดปาก"กินตรวน"5พันแลกปลดโซ่ ผวาโดนเก็บขอคุ้มครองจับยาล.เม็ดซุกกลางกรุงโยง100ข่ายคุก

 การสะสางปัญหาภายในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช โดยมี นายสุรพล แก้วภราดัย ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เดินหน้าร่วมมือกับทุกฝ่าย เร่งสืบสวนขยายผล โดยเฉพาะขบวนการค้ายาเสพติดภายในเรือนจำที่เชื่อมโยงกันระหว่างนักโทษผู้ค้าภายใน และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่มีส่วนร่วม
          ความคืบหน้าล่าสุด ช่วงเช้าวันที่ 2 พฤษภาคม พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผกก.สส.ภ.จว.นคศรีธรรมราช กำลัง เจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้แบ่งกำลังออกเป็น 5 ชุดปฎิบัติการ และได้นำหมายค้นซึ่งอนุมัติโดยศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุด ภายในเขต อ.เมือง
          เป้าหมายที่ 1 บ้านไม่มีเลขที่ในซอยหอไตร 4 ต.ในเมืองซึ่งเป็นบ้านของผู้คุมรายหนึ่งได้ตรวจยึดเอกสารทางการเงินที่ต้องสงสัยหลายฉบับมีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารจำนวนมากและจับกุม นายสนไช นันทะชิน อายุ 41 ปี อยู่ 103 หมู่ 7 ต.ปากพูน อ.เมือง และนายทอน (นามสมมุติ)อายุ 18 ปี ในข้อหาครอบครองยาเสพติดโดยของกลางเป็นยาไอซ์หนัก 14 กรัม กระสุนปืนขนาด 11 มม.จำนวนหนึ่งใบกระท่อมพร้อมหม้อต้ม
          เป้าหมายที่ 2 คือ บ้านของนายไก่ (นามสมมุติ)ถ.พระเงิน ต.คลัง เจ้าหน้าที่ราชภัณฑ์ที่อยู่ระหว่างถูกคำสั่งพักราชการจากฐานความผิดวินัยร้ายแรงโดยของกลางเป็นเอกสารหลักฐานทางการเงิน ปืนลูกซองยาว ปืนยาวขนาด .22 ปืนขนาด 9มม.และขนาด .38 กระสุนปืนจำนวนมาก
          เป้าหมายที่ 3 เป็นบ้านเลขที่ 122/2 ต.นาสาร อ.พระพรหม ซึ่งเป็นบ้านพักของผู้กว้างขวางรายหนึ่งในพื้นที่ โดยสืบสวนพบว่ามีความเชื่อมโยงในการส่งโทรศัพท์มือถือและของต้องห้ามเข้าบ้านเลขที่ 27 หมู่ 5 ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพยายามฆ่าจึงควบคุมตัวไว้ตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ไอโฟน 1 เครื่อง ถูกมัดห่อกันกระแทกไว้เป็ฯอย่างดีลักษณะเดียวกับที่ขว้างเข้าไปในเรือนจำ แต่นายณรงค์ปฎิเสธไม่รู้เห็นว่าเป็นโทรศัพท์ที่นำมาซ่อม
          ค้นบ.รับเหมาก่อสร้างเรือนจำ
          เป้าหมายที่ 4 เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างตั้งอยู่ในซอย สช.1ถ.พัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง โดยผู้บริหารเคยเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคการเมืองขนาดเล็กรายหนึ่งและอยู่ระหว่างต้องคดีฆ่าผู้อื่นบริษัทดังกล่าวได้รับเหมาก่อสร้างห้องขังเดี่ยว 10 ห้อง 1 หลัง ในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ที่นำวัสดุก่อสร้างซุกซ่อนโทรศัพท์มือถือ 39 เครื่องก่อนหน้านี้พบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการรับเหมาในเรือนจำจำนวนหนึ่ง
          เป้าหมายที่ 5 เป็นบ้านของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่อยู่ระหว่างพักราชการสอบสวนวินัยร้ายแรงอยู่ที่หมู่ 5 ต.พรหมโลก อ. พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช โดยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเป็นพี่ชายของภรรยานักค้ายาเสพติดรายใหญ่คนหนึ่งในนครศรีธรรมราชที่ถูกยิงถล่มเสียชีวิตไปในเขตท้องที่ สภ.เมือง นครศรีธรรมราช เมื่อหลายวันก่อน
          ผู้คุมถูกตร.เค้นยอมคายข้อมูล
          นายไก่(นามสมมุติ) เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่อยู่ระหว่างพักราชการและสอบสวนวินัยร้ายแรง ถูกเชิญตัวมาให้ข้อมูล โดยมี พ.ต.ท.โชคดีศรีเมือง รอง ผกก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เป็นผู้รับข้อมูลด้วยตัวเองโดยนายไก่ยินยอมเปิดเผยข้อมูลและยกมือไหว้กราบเจ้าหน้าที่ตำรวจ บอกว่า"ยอมเปิดเผยทุกอย่างด้วยความสัตย์จริง แต่ตำรวจต้องช่วยรักษาชีวิตผมด้วย"พร้อมเปิดโปรงถึงขบวนการค้ายาเสพติดในเรือนจำ และการนำเข้าสิ่งของต้องห้ามเข้าใรเรือนจำ
          "ผมเข้าไปทำงานแบบไฟแรง ไม่รู้ใครเป็นใครด้วยความซื่อตรงหลักจากนั้นไปสร้างความไม่พอใจให้เจ้าหน้าที่ที่สูงกว่าผม ผมไม่รู้ว่ามีขบวนการ"กินตรวน"ผมมีนักโทษที่ต้องดูแลอยู่ในแดน 6 และเมื่อเห็นว่ามีความประพฤติเรียบร้อย ไม่เป็นอันตราย จะต้องทำบันทึกเสนอไปตามลำดับชั้นเพื่อที่จะปลดเครื่องพันธนาการให้นักโทษ แต่ปรากฏว่าสร้างความไม่พอใจให้เจ้าหน้าที่บางคนเพราะการปลดตรวนจะต้องจ่ายถึงเส้นละ3,000ถึง5,000บาทเมื่อปลดแล้วนักโทษจะต้องบอกญาติภายนอกให้เอาเงินมาจ่ายนี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นในเรือนจำกันเป็นปกติ"นายไก่เล่า
          ขว้างมือถือ-ยาบ้าเข้าคุกพิจิตร
          วันเดียวกัน เวลา 14.30น. ร.ต.ต.เกษม ปาวินรองสวป.สภ.เมืองพิจิตร นำโดยนายสุจิตรา เหลืองวัฒนนันท์ ผู้บัญชาการเรือนจำ ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยที่ถูกขว้างเข้ามาภายในเรือนจำ หลังจากรับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีชายสองคนใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะขว้างสิ่งดังกล่าว จากการตรวจสอบพบวัตถุตกอยู่ที่บริเวณราวผ้าแดน 2 ซึ่งเป็นเขตของผู้ต้องหาชาย พบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง พร้อมแท่นชาร์จ ยาบ้า 17 เม็ดและยาไอซ์ 2 กรัม ก้อนอิฐแดงซึ่งถูกบรรจุไว้ในถุงเท้าขนาดยาว สีน้ำตาล เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพร้อมแจ้งตำรวจตรวจสอบ
          ด้าน พล.ต.อ.เพีรยวพันธ์ ดามาพงษ์ ผบ.ตร.กล่าวถึงกรณีกรมราชทัณฑ์ขอกำลังตำรวจตตระเวนชายแดน (ตชด.) 450 นาย ช่วยดูแลป้องกัน 9 เรือนจำความมั่นคงสูง ว่า เรื่องเรือนจำต้องเป็นหน้าที่ราชทัณฑ์ เพราะเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยม คงไม่มีอะไรยากถ้าเข้มงวดกวดขันจริงๆและดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคิดว่าไม่มีปัญหาตำรวจคงไม่มีความชำนาญพอที่จะเข้าไปช่วยภายในเรือนจำได้แต่ถ้าให้ ตชด.ช่วยลาดตระเวนในพื้นที่รอบนอกเรือนจำก็ประสานงานขอความร่วมมือมาได้ตอนนี้ทราบว่ามีที่ จ.นครศรีธรรมราชเท่านั้นเขตอ่นยังไม่มีปัญหา
          จับแก๊งยายึดล้านเม็ดกว่า300ล.
          วันเดียวกัน ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองผบช.ปส. พล.ต.ต. วินัย สังข์ปะไพ รอง ผบช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ บช.ปส.ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดเครือข่ายใหญ่ประกอบด้วย นายชาญณรงค์ จอมบุญเรือง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่91/1ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย และนายกฤษณธร ภัทรนนท์วงศา อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219/4 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมยาบ้า 1,020,000เม็ด มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท เงินสด 1.4ล้านบาท รถยนต์ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่องและสมุดบัญชีธนาคาร 18 เล่ม โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 155/90 หมู่บ้านพฤกษาทาวน์ พรีเว่ ซอยนวมินทร์ 111 แขวงนวมินทร์เขตบึงกุ่ม กทม. ต่อเนื่องบ้านเลขที่ 219/4 หมู่ 7 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
          พล.ต.อ.เพรียวพันธ์กล่าวว่าการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดสืบทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงสืบสวนติดตามและเฝ้าสังเกตการณ์จนกระทั่งเวลา 04.00 น. วันที่ 1 พฤษภาคมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบนายชาญณรงค์กำลังขับรถยนต์ออกจากหมู่บ้านภายในซอยนวมินทร์ 111 จึงแสดงตัวเข้าขอตรวจค้น พบยาบ้า 1 แสนเม็ด ซุกซ่อนในกระเป๋าเป้สีกำ ควบคุมตัวไปตรวจค้นบ้านพักยาบ้าอีก 9.2แสนเม็ด ซุกซ่อนในห้องนอนชั้น 2 ก่อนจะขยายผลจับกุมนายกฤษณธรผู้ร่วมขบวนการ ได้ที่บ้านพักย่าน อ. บางบัวทอง
          โยง100เครือข่าย-หัวขบวนพม่า
          ตรวจสอบพบว่ากลุ่มเครือข่ายยาเสพติดของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายยาเสพติดกว่า 100 เครือข่าย เพราะมีการโอนเงินผ่านทางบัญชีธนาคารปลายทางกว่า100บัญชี โดยกลุ่มผู้ต้องหาได้เปิดบัญชีธนาคาร 20 บัญชี ซึ่งเงินหมุนเวียนรวมกันกว่า 100 ล้านบาท ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้ง 20 บัญชี รวมทั้งของผู้ต้องหาและผู้ร่วมขบวนการ เพื่อยึดทรัพย์และดำเนินการในความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ต่อไป
          ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า นาย กฤษณธรให้การรับสารภาพว่า ยาเสพติดเป็นของเครือข่ายพม่า โดยลำเลียงจากภาคเหนือมาส่งที่ตลาดไท อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยจะไปรับยาและนำมาพักไว้ที่บ้านก่อนกระจายส่งต่อให้ลูกค้าตามออเดอร์ทั่วประเทศโดยโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร และรวบรวมเงินทั้งหมดโอนไปให้ นายไซร์ สัญชาติพม่า หัวหน้าขบวนการอยู่ที่ประเทศพม่าได้รับค่าจ้างเดือนละ 1 แสนบาท ทำมาแล้วกว่า 1 ปี เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาพร้อมเตรียมขยายผลยึดทรัพย์
          สาวสุพรรณฯค้ายาไอซ์ 124 ล.
          พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส.กล่าวว่า คดีที่ 2กองบังคับการตำรวจนครบาล9จับกุม น.ส.ธัญญาเรศ สำราญมาก อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 หมู่ 6 ต.สระยายโสม อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี พร้อมยาบ้า 250 มัด รวม 5 แสนเม็ดยาไอซ์ 8 กิโลกรัม รวมมูลค่า 124 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่เขตบางขุนเทียน กทม.ทั้งนี้ฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้าม สืบทราบว่ามีการขนยาเสพติดครั้งใหญ่จากชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน(ท่าขี้เหล็ก)มาซุกซ่อนที่บ้านเลขที่ 150/113 หมู่บ้านสินทวีแกรนด์ เจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง น.ส.ธัญญาเรศ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายกฤษตา สำราญมาก สามี นำยาซุกซ่อนไว้เพื่อจำหน่ายเจ้าหน้าที่ได้ขออนุมัติหมายจับนายกฤษดา เพื่อ นำตัวมาดำเนินคดี
          รวบค้ายาอีก2รายเล็งยืดทรัพย์
          คดีที่ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล 7 จับกุมผู้ต้องหาจำหน่ายยาเสพติดรายใหญ๋ คือ นายเอกชัย จองเดิน อายุ 29 ปี และ น.ส.วิภาวดี ผลสวัสดิ์ อายุ 29 ปี พร้อมยาบ้า 1.86 แสนเม็ด ยาไอซ์ 4 กิโลกรัม ยึดทรัพย์และบัญชีธนาคารตรวจสอบ โดยจับกุมได้ที่ห้องเช่าบ้านเลขที่ 5 ซ.วัดราชาธิวาส ถ.สามเสน 9 แขวง วชิรพยาบาล เขตดุสิตกทม.โดยได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายเอกชัย และน.ส.วิภาวดี ลักลอบ จำหน่ายยาเสพคิด และนัดส่งยาที่หน้าวัดราขาธิวาสวิหารจึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมควบคุมตัว โดยผู้ต้องหาสารภาพว่า จำหน่ายยาเสพติดจริง และเป็นเครือข่ายของนายอดิศร หรืออบศรีสุข โดยนายอดิศรนำยามาจากนายแม็ก (ไม่ทราบชื่อนายสกุลจริง)มาพักไว้ที่ห้องพักของผู้ต้องหา จากนั้นจะโทรศัพท์ให้นายแม็ก นายแดงและนายนอต (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง)มารับยาจากผู้ต้องหาไปจำหน่ายทั้งนี้จะเร่งจับกุมนายอดิศรกับพวกต่อไป
          คดีที่ 4  กองบังคับการตำรวจนครบาล 3นำโดย พ.ต.อ.ภิรมย์ สวนทอง ผกก.สส.บก.น.3พร้อมด้วยชุดสืบสวน ได้จับกุมผู้ต้องหาค้ายา 1 ราย คือ นายวสุพล แก้วกระจ่าง อายุ 26 ปี อยู่ บ้านเลขที่ 66/2หมู่ 2 ต.ยายแพง อ.บางคนที จ.สมุทรสาคร พร้อมยาไอซ์ 3.11กิโลกรัม โดยสายลับแจ้งว่าลักลอบค้ายาไอซ์ที่ลานจอดรถได้อาคารเดิคิดเอ็กซ์เพลส2รัชดาภิเษกซอย 19 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.และบริเวณใกล้เคียงจึงล่อซื้อและเข้าจับกุม ตรวจค้นห้องพักยึดของกลางดังกล่าวผู้ต้องหาให้การวักทอกว่าได้รับของกลางมาจากนายบอย ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนจับกุมนอกจากนี้ยึดเงินจำนวน 8 แสนบาทและจะยึดทรัพย์ต่อไป
          เพชรบุรีเครือข่ายเรือนจำเขาบิน
          ที่ จ.เพชรบุรี พ.ต.อ.วิฑูรย์ พลสาร ผกก. สภ.เมือพชรบุรี และพ.ต.ท.ชนาวิน สุริยะพรหม สวป.เมืองเพชรบุรี พร้อมชุดสืบสวน จับกุมนาย อรุณ รามเมือง ในข้อหาจำหน่ายยาบ้า ผู้ต้องหาให้การว่า ซื้อมาจาก นาย อธิวัฒน์ ขันเงิน โดยเจ้าหน้าที่ได้ล่อซื้อและจับกุมนายอธิวัฒน์ได้อีกราย ตรวจค้นบ้านพักพบยาบ้า 3,180 เม็ด ยาไอซ์ 16.45กรัม ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเจ้าของยาบ้าเป็นนักโทษภายในเรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรีจะโทรมาให้ไปรับยาบ้าที่ริมถนนเพชรเกษม และโอนเงินให้ทางบัญชีธนาคาร ทำมาสองสามครั้งแล้ว
          ดีเอสไอแฉจนท.เอี่ยวนำเข้าซูโด
          วันเดียวกัน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรม สอบสวนคีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วม 8 หน่วยงาน เพื่อวางแนวทางการสอบสวนคดีสำแดงเท็จนำเข้ายาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีนจากไต้หวันและเกาหลีว่าได้ตั้งสมมุติฐานว่าขบวนการดังกล่าวเป็นขบวนการใหญ่เพราะนำเข้าจำนวนมากโดยบางส่วนถูกส่งออกไปประเทศเพื่อบ้านแต่บางส่วนมีการใช้ในประเทศแต่ไมได้เข้าระบบของโรงพยาบาล การสำแดงเท็จและส่งยาออกประเทศมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องทุกขั้นตอน และเชื่อว่าน่าจะมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง มีการกระทำผิดเป็นองค์กรอาชญากรรมทั้งนี้ได้ลงนามกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของทั้งประเทศเกาหลีใต้และไต้หวันเพื่อให้ตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องล่วงหน้าก่อนที่ดีเอสไอจะเดินทางไปตรวจสอบข้อมูลและวันที่ 3 พฤษภาคม ดีเอสไอจะประชุมความคืบหน้าคดีลักลอบนำยาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีนออกจากระบบโรงพยาบาล
          นพ.วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวกรณีกระทรวงสาธารณสุขมีประกาศให้ร้านขายยา คลินิก และ สถานพยาบาลที่ไม่ประสงค์จะครอบครองและไม่มีใบอนุญาตครอบครองส่งยาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีนคืนแก่ผู้ผลิตภายในวันที่ 3 พฤษภาคม ว่า ตั้งแต่ วันที่ 4พฤษภาคมเป็นต้นไป สสจ.เชียงใหม่ จะออกตรวจสอบร้านขายยาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มียาชนิดนี้จำหน่ายอีกอย่างเด็ดขาด ส่วนคลีนิกต้องได้รับอนุญาตเท่านั้นถึงจะครอบครองได้ ในส่วนประชาชนห้ามซื้อยาที่มีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีนกักตุนไว้ โดยจะมีโทษทางกฎหมาย
 

 pageview  1210916    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved