เมื่อวันที่ 22 พ.ค. นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในแต่ละปีประเทศไทยมีเด็กเกิดใหม่ประมาณ 8 แสนคน ในจำนวนนี้ 30 เปอร์เซ็นต์ มีปัญหาเรื่องพัฒนาการไม่สมวัย โดย 10 เปอร์เซ็นต์ พบว่าอยู่ในภาวะเป็นโรค อีก 20 เปอร์เซ็นต์ เป็นกลุ่มที่สามารถกระตุ้นให้กลับมามีพัฒนาการที่สมวัยได้ แต่หากไม่ได้รับการแก้ไขที่ถูกต้องอาจส่งผลถึงพัฒนาการของเด็กในวัยเรียนได้ ที่ผ่านมาพบว่า 48.5 เปอร์เซ็นต์ ระดับสติปัญญา (ไอคิว) ต่ำกว่าระดับปกติ และ 6.5 เปอร์เซ็นต์ มีความบกพร่องทางสติปัญญา ขณะเดียวกันยังพบว่าปัญหาเรื่องพัฒนาการทางด้านอารมณ์ (อีคิว) ลดลงเรื่อย ๆ ดังนั้นการกระตุ้นพัฒนาการของเด็กอย่างแรก คือ ทำให้เข้าถึงการทดสอบมากขึ้นจากเดิมที่จะทดสอบช่วงที่เด็กฉีดวัคซีนเท่านั้น
ด้าน พญ.พรรณพิมล วิปุลากร โฆษกกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า 1 ใน 3 ของเด็กที่มีปัญหาความบกพร่องทางสติปัญญามีสาเหตุมาจากการได้รับโภชนาการที่ไม่เหมาะสม ไม่เพียงพอ การเข้าถึงการเรียนรู้ที่ไม่เท่าเทียมกัน และเวลาที่พ่อ แม่ดูเด็ก เพราะบางคนปล่อยลูกไว้ที่สถานเลี้ยงเด็ก หรือปล่อยไว้ให้คนชราเลี้ยง ดังนั้นนโยบายการเรียนด้วยแท็บเล็ตในกลุ่มเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 อาจจะยิ่งส่งผลให้เด็กกลุ่มนี้เรียนไม่ทันเพื่อน เพราะฉะนั้นครูต้องหมั่นสังเกต และช่วยส่งเสริมการใช้แท็บเล็ตของเด็กกลุ่มดังกล่าวด้วย ซึ่งจะช่วยให้เขาเรียนได้ทันเพื่อนและมีทักษะด้านการอ่านเพิ่มขึ้น.
|