Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 18/09/2563 ]
พม่าตอบโต้ไทย ให้รถส่งสินค้าวันละ6คัน

 เผยเด็กพม่าติดโควิดพ่อแม่ทำงานอยธยา
          คนไทยผวาอีก กรมควบคุมโรค เปิดไทม์ไลน์ เด็กพม่า 2 ขวบ ติด "โควิด-19" ถูกตรวจเจอก่อนกลับประเทศ พบพ่อ-แม่ ทำงานใน "ตลาด" อ.อุทัย พระนครศรีอยุธยาสั่งเร่งสอบสวนโรคด่วน ป้องระบาดรอบ 2 ฝั่ง เมียนมาตอบโต้ไทย สั่งคุมเข้มรถขนสินค้า ข้ามพรมแดนเข้าท่าขี้เหล็ก ได้แค่วันละ 6 คัน พร้อมให้เปลี่ยนคนขับเป็นชาวเมียนมา แถมต้องจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกของเมียนมาก่อน มีผลทันที ขณะที่ ศบค. เผยไทยกลับมาเป็นศูนย์ ไม่พบผู้ป่วยโควิดเพิ่มทั้งในประเทศ-สถานที่กักกันของรัฐ
          เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย โดยวันเดียวกันนี้ไม่พบมีผู้ ติดเชื้อรายใหม่ทั้งในประเทศและในสถานที่ กักกันของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,490 ราย ยอดหายป่วยสะสม 3,325 ราย มีผู้ป่วยรักษาในรพ. 107 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 58 ราย สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 30,032,521 ราย โดยรักษาหายแล้ว 21,800,057 ราย รวมเสียชีวิตแล้ว 945,072 ราย ส่วนเที่ยวบินนำคนไทยที่ตกค้างกลับประเทศ ในวันเดียวกันนี้  4 เที่ยวบิน 381 ราย และในวันที่ 18 ก.ย. มี  8 เที่ยวบิน 780 ราย
          ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงความคืบหน้า การตรวจสอบรายละเอียดกรณีเด็กชาวเมียนมา อายุ 2 ขวบ ติดเชื้อโควิด-19 ขณะเดินทางกลับประเทศเมียนมาจากประเทศไทย ว่า สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 จังหวัดสระบุรี (สคร.4 จ.สระบุรี) ซึ่งดูแลพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา (สคร.9 จ.นครราชสีมา) ประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ในการสอบสวนโรคและติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด เบื้องต้นพบว่าบิดามารดาของผู้ติดเชื้อเคยเข้ามาทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ประกอบธุรกิจอิฐบล็อกใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่เดือน ต.ค. มีประวัติขึ้นทะเบียนทำงานที่ จ.นครราชสีมา เคยตรวจสุขภาพที่ รพ.ปากช่องนานา เพื่อซื้อประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว
          นอกจากนี้จากการสัมภาษณ์เพื่อนแรงงานชาวเมียนมา พบว่าวันที่ 25 มิ.ย. ทั้งสองคนได้ลาออกจากบริษัทดังกล่าว และเดินทางพร้อมบุตรสาว ออกจากบริษัทโดยมีรถตู้มารับเพื่อเดินทางไปทำงานที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 26 ส.ค. 2563 และจากข้อมูลในระบบออนไลน์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่ามีการสมัครเข้าทำงานที่ตลาดแห่งหนึ่งใน อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ดังนั้น กรมควบคุมโรค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่เหมาะสมต่อไป
          ที่ห้องรับรอง ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล  นายหยาง ซิน อุปทูตรักษาราชการสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยทั้ง 2 ฝ่าย เห็นร่วมกันว่าความท้าทายจากโรคโควิด-19 ครั้งใหญ่นี้ส่งผลกระทบถึงประชาคมระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายยืนยันพร้อมมีความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รวมถึงการจัดหาวัคซีนในอนาคต รวมทั้งฝ่ายจีนพร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำเพื่อสนับสนุนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพื่อช่วยตรวจหาผู้ติดเชื้อ และทั้ง 2 ฝ่ายยืนยันว่าจะร่วมกันสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โรคโควิด-19
          นอกจากนี้ อุปทูตจีนฯ ได้กล่าวถึงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ซึ่งการค้าระหว่างกันมีตัวเลขเพิ่มขึ้น โดยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2563 มีตัวเลขการค้าระหว่างกันเพิ่มร้อยละ 6.7 สินค้าการเกษตรของไทยได้รับความนิยมมากในจีน ซึ่งประเทศไทยได้ปรับการขายเป็นแบบออนไลน์ ทำให้ชาวจีนได้รับสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพจากไทยอย่างรวดเร็ว ส่วนการลงทุนซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกนี้ มีโครงการจากจีนที่ขอรับการส่งเสริมจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) 95 โครงการ คิดเป็นเงินกว่า 17,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจีนต้องขอขอบคุณความร่วมมือของไทย
          ที่ จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย  มีคำสั่ง วันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา อาศัยอำนาจตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 22 มีเนื้อหาว่า โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงรายในการประชุม ครั้งที่ 3/2523 เมื่อวันที่ 18 มี.ค. กำหนดให้ยานพาหนะประเภทรถสัญชาติเมียนมา สามารถเข้ามารับสินค้าภายในเขต อ.แม่สายได้ โดยความเห็นชอบของศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอแม่สาย (ศปก.อ. แม่สาย) และให้ดำเนินการตามมาตรการ คือ ให้ยานพาหนะประเภทรถตู้ สามารถเข้ามารับสินค้าภายในเขตอำเภอแม่สาย ใน 1 วัน จำกัดจำนวน
          ไม่เกิน 168 คัน ซึ่งอนุญาตให้ผู้ควบคุมยานพาหนะประเภทรถตู้และผู้ติดตามไม่เกิน 1 คน ที่เป็นบุคคลสัญชาติเมียนมา สามารถควบคุมยานพาหนะมาถึงที่ด่านศุลกากรแม่สาย(สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2) เท่านั้น ก่อนให้ผลัดเปลี่ยนผู้ควบคุมยานพาหนะเป็นบุคคลสัญชาติไทยหรือเป็นบุคคลสัญชาติเมียนมา แต่มีถิ่นที่อยู่และพำนักในประเทศไทย โดยมิได้เดินทางกลับประเทศเมียนมา เป็นผู้ควบคุมยานพาหนะแทนเพื่อขับยานพาหนะเข้ามารับสินค้าตามจุดจอดรับสินค้า ตามที่ ศปก.อ.แม่สาย กำหนด ในเขต อ.แม่สาย โดยกำหนดบริเวณให้อยู่ภายในพื้นที่ที่ ศปก.อ.แม่สาย กำหนดเท่านั้น
          ขณะเดียวกัน มีรายงานจากประเทศ เมียนมาว่า ในช่วงบ่ายวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา นายอู มิน ไหน ผวจ.ท่าขี้เหล็ก เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ประจำด่านศุลกากร ด่าน 2 เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนหอการค้าในท่าขี้เหล็ก หารือกรณีดังกล่าว โดยหลังจากการประชุมแล้วเสร็จ ทางฝ่ายเมียนมาต้องการให้มีความยุติธรรมกันทั้ง 2 ฝ่าย จึงกำหนดให้รถบรรทุกสินค้าจากไทยที่จะข้ามพรมแดนไปเมียนมา ต้องเปลี่ยนคนขับเป็นชาวเมียนมาก่อนเข้าไปส่งสินค้าในท่าขี้เหล็กเช่นกัน นอกจากนี้ยังกำหนดให้รถป้ายทะเบียนไทยทุกประเภทเข้าไปใน จ.ท่าขี้เหล็ก ได้เพียงวันละ 6 คันเท่านั้น และป้ายทะเบียนไทยที่จะมาขนส่งสินค้า จะต้องจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกของเมียนมา และต้องทำตามกฎข้อบังคับที่กรมการขนส่งทางรัฐบาลรัฐฉานที่ได้กำหนด จึงทำให้รถที่จะจดทะเบียนต้องรอให้ทางรัฐบาลรัฐฉานอนุมัติจึงจะจดทะเบียนได้ ส่วนรถป้ายทะเบียนเมียนมา ก็จะอนุญาตให้ข้ามฝั่งมาได้เพียง 6 คัน เริ่มตั้งแต่วันนี้ (17 ก.ย.) เป็นต้นไป
          ส่วนที่สำนักงานของหอการค้า อ.แม่สาย ตั้งอยู่ภายในโรงแรมแม่โขง เดลต้า บูติค อ.แม่สาย น.ส.ผกามาศ เวียร์รา ประธานหอการค้าอำเภอแม่สาย ได้เปิดให้ผู้ประกอบการได้เข้าไปลงทะเบียนเพื่อจัดลำดับส่งออกสินค้าข้ามไปยังฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ตามโควตาที่ทางการท้องถิ่น จ.ท่าขี้เหล็ก กำหนดให้ไปได้วันละเพียง 6 คัน มีผู้ประกอบการไปลงทะเบียนไม่น้อยกว่า 300 คัน ทางหอการค้า อ.แม่สาย จึงได้เชิญผู้ประกอบการทั้งหมดร่วมประชุมหารือกันที่สำนักงานหอการค้า อ.แม่สาย หาวิธีแก้ไขและจะนำเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งฝั่งไทยและเมียนมาต่อไป.

 pageview  1210915    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved