เมื่อวันที่ 26 ต.ค. นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นโยบายยกระดับบัตรทองที่จะเริ่ม 1 พ.ย.นี้ ประชาชนใน กทม. รักษาทุกที่เฉพาะศูนย์สาธารณสุข และคลินิกใกล้บ้านเท่านั้น ส่วนผู้ป่วยไม่ต้องใช้ใบส่งตัวนำร่องในเขต 9 นครชัยบุรินทร์ ส่วนมะเร็งส่งตรงถึง รพ.เฉพาะด้านที่ไม่แออัดและย้ายสถานพยาบาลเมื่อใดรักษาที่ใหม่ได้ทันที เริ่ม 1 ม.ค. 64 สำหรับนโยบายการยกระดับบัตรทองนั้นมี 2 ด้าน 1.ประชาชนใน กทม. รักษาทุกที่ ณ เครือข่ายหน่วยบริการชุมชนอบอุ่น และ 2.ผู้ป่วยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ทดลองนำร่องในเขต 9 นครชัยบุรินทร์
          นายอนุชา เปิดเผยว่า การยกระดับการบริการบัตรทองอีก 2 ด้าน ได้แก่ 1.โรคมะเร็งนั้นเป็นโรคที่ละเอียดอ่อน มีความซับซ้อนและมีหลายชนิด โดย รพ.แต่ละแห่งมีศักยภาพในการรักษามะเร็งแต่ละชนิดไม่เท่ากัน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 64 หากผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง ผู้วินิจฉัยจะส่งข้อมูลผู้ป่วยมายังศูนย์ส่งต่อด้านมะเร็ง จากนั้นศูนย์ส่งต่อจะทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสานจัดหา รพ.ที่ไม่แออัดและมีศักยภาพรักษาโรคมะเร็งนั้น ๆ ให้เป็นการเฉพาะราย จะทำให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและเหมาะสมมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังสนับสนุนการจัดบริการให้ยาเคมีบำบัดที่บ้าน การติดตามอาการและแนะนำการทานยา ผ่านระบบสื่อสารทางไกล 2.การย้ายหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลประจำนั้น ที่ผ่านมาเมื่อผู้ใช้สิทธิบัตรทองขอย้ายหน่วยบริการต้องรออีก 15 วัน จึงจะไปรักษาที่หน่วยบริการแห่งใหม่ได้ อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 64 ผู้ใช้สิทธิทั่วประเทศจะไม่ต้องรอ 15 วันอีกต่อไป คือเมื่อมีความประสงค์จะย้ายเมื่อใดสามารถไปรักษาที่ใหม่ได้ทันที.