Follow us      
  
  

หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ [ วันที่ 24/03/2555 ]
ซัดเด็ก'บิ๊กสธ.'ตัวดีขายเองยาผสมซูโดอีเฟดรีน พสิษฐ์โยนตร.-ดีเอสไอล่าจับผัวเมียซื้อส่งไปรษณีย์

แฉคนใกล้ชิดข้าราชการระดับสูง กระทรวงสาธารณสุข ร่วมขบวนการอดีตผัวเมียแสบ ลักลอบซื้อยาแก้หวัดผสมซูโดอีเฟดรีนจากร้านขายยา จัดส่งให้ลูกค้าทางไปรษณีย์ไปเป็นสารตั้งต้นผลิตยาบ้า "วิทยา" ปูดโรงพยาบาลมีปัญหายาแก้หวัด ส่วนใหญ่เภสัชกรเป็นเพื่อนกัน ปลัด สธ.สั่งย้ายด่วน เภสัชกร รพ.ดอยหล่อ ไปช่วยราชการที่กระทรวง ลั่นขอเวลา 2 สัปดาห์ทุกอย่างจบ ขณะที่ ตร.เมืองน้ำดำเสนอเอาผิดยึดทรัพย์ซ้ำ หากพบร่ำรวยผิดปกติ
          เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 มี.ค. นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข ประธานคณะทำงานป้องกันและปราบปราม ฟื้นฟูและเยียวยายาเสพติด กระทรวงสาธารณ สุข พล.ต.ต.คเชนทร์ คชพลายยุกต์  (จตร.) ปฏิบัติราชการ ภ.1 พล.ต.ต.ทวิช พละศักดิ์ ผบก.บก.สส.ภ.1 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมเครือข่ายจัดส่งยาแก้หวัดผสมซูโดอีเฟดรีน ประกอบด้วยนายประเสริฐ ตรีศรีสุภา หรือเฮียเซ็ง อายุ 59 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไปอยู่บ้านเลขที่ 222/46 แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. ตามหมายจับศาลพะเยา ที่ จ.190/2554 ลงวันที่ 25 ต.ค. 2554 และ น.ส.ฐิตาภา สุวินัย หรือเจ๊นาง อายุ 42 ปี อดีตภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 863 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. พร้อมของกลางรถโตโยต้าแวน ไม่มีหมายเลขทะเบียน 1 คัน สมุดบัญชีเงินฝาก 8 เล่ม มียอดเงินรวม 3,418,165 บาท และเงินสด 97,000 บาท จับกุมได้ที่บริเวณการ์เด้นคอนโด แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กทม.
          นายพสิษฐ์ กล่าวว่า จากการจับกุมเครือข่ายจัดส่งยาแก้หวัดผสมซูโดอีเฟดรีน เป็นการปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลเร่งด่วนให้ระดมกวาดล้างสารตั้งต้นผลิตยาบ้าผสมซูโดอีเฟดรีน ส่วนผสมของยาแก้หวัด ลักลอบจำหน่ายตามร้านขายยา และจากการลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่ รพ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และตำรวจ พบว่าการเบิกจ่ายยาซูโดอีเฟดรีนของ รพ.ภูสิงห์ ตั้งแต่เดือนม.ค. 2555 พบยาซูโดอีเฟดรีนหายไป 2.5 แสนเม็ด และหัวหน้าเภสัชกรโรงพยาบาลหลบหนีไปบริเวณชายแดนประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
          นายพสิษฐ์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ ผอ.รพ.ภูสิงห์ เข้าแจ้งความกับตำรวจท้องที่ไว้แล้ว ในข้อหาลักทรัพย์และยักยอกทรัพย์ นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบด้วยว่า มีคนใกล้ชิดข้าราชการประจำระดับสูง กระทรวงสาธารณสุข มีความเชื่อมโยงและเกี่ยวข้องกับขบวนการด้วย ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจเป็นอย่างมาก แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ว่าเป็นใคร เพราะเป็นข้อมูลลับในการสอบสวนดำเนินคดีอีกทั้งมีความเชื่อมโยงยาซูโดอีเฟดรีนหายไปจาก รพ.ศูนย์อุดรธานี และ รพ.ทองแสงขัน จ.อุตรดิตถ์ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีขบวนการลักลอบจัดส่งยาซูโดอีเฟดรีนในกระทรวงสาธารณสุขจริง เนื่องจากการตรวจสอบพบมีความผิดปกติ เพราะตามโรงพยาบาลในอำเภอเล็ก ๆ ปกติการเบิกจ่ายยาซูโดอีเฟดรีนไม่น่าจะเกิน 7 หมื่นเม็ด และไม่น่าจะมีจำนวนสูงมากขนาดนี้ ดังนั้น กระทรวงสาธารณ สุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และดีเอสไอ จะสอบสวนขยายผลไปจนถึงที่สุด"
          ด้าน พล.ต.ต.คเชนทร์ กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนหลบหนีหมายจับในกลุ่มเครือข่ายจัดส่งยาแก้หวัดให้กับผู้ผลิตยาบ้าทางภาคเหนือ มีพฤติการณ์ลักลอบซื้อยาแก้หวัดมีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีน ครั้งละ 20-30 แผง โดยทยอยซื้อจากร้านขายยาตั้งแต่ปี 2552-2553 จากนั้น น.ส.ฐิตาภา จะบรรจุยาใส่กล่องพัสดุแล้วให้นายประเสริฐ จัดส่งผ่านบริษัททัวร์แห่งหนึ่ง มีปลายทางที่ จ.พะเยา และจัดส่งเป็นจำนวนหลายครั้งแล้ว โดยรับค่าตอบแทนผ่านทางบัญชีธนาคาร จนกระทั่งสืบสวนวางแผนจับกุมไว้ได้ ทั้งนี้จากการตรวจสอบบัญชีธนาคารของผู้ต้องหาพบว่ามีเงินเคลื่อนไหวจำนวนมาก ขณะที่เครือข่ายปลายทางที่ จ.พะเยา เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมไว้ได้ก่อนหน้านี้แล้ว และถือว่าเป็นขบวนการใหญ่ เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป
          ด้าน น.ส.ฐิตาภา ผู้ต้องหา กล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่า มีคนว่าจ้างให้ซื้อยาซูโดอีเฟดรีนตามร้านขายยาตามต่างจังหวัด จึงร่วมกับอดีตสามี ตระเวนซื้อตามร้านขายยาครั้งละ 2-3 แผง จากนั้นจะทยอยส่งให้กับผู้ว่าจ้างผ่านทางรถทัวร์โดยสาร ได้ค่าจ้างครั้งละ 1-2 พันบาท หรือแล้วแต่จำนวนยา และทำมานานกว่า 2 ปีแล้ว และก่อนหน้านี้ไม่ทราบว่ายาดังกล่าวนำไปเป็นสารตั้งต้นผลิตยาบ้า แต่พอมาทราบตอนหลังก็ไม่ได้ทำแล้ว จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวไว้ได้
          วันเดียวกัน พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.วันชัย รณชาติชัย ผกก.สภ.กมลาไสย พร้อมพนักงานสอบสวนคลี่คลายคดี ยาแก้หวัดมีส่วนผสมซูโดอีเฟ ดรีน หายจาก รพ.กมลาไสย 356,535 เม็ด ร่วมประชุมสรุปสำนวนคดี ขณะที่ นางสุภคนิจ ศรีพนา อายุ 58 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ รพ.กมลาไสย ที่ถูกนางสดชื่น วิโทจิตร เภสัชกร รพ.กมลาไสย ให้การซัดทอดว่าเป็นผู้รับซื้อยา ยังไม่เดินทางเข้าให้ปากคำแต่อย่างใด โดยอ้างว่ามีปัญหาสุขภาพและยังรักษาตัวที่กทม. โดยนัดเข้าให้ปากคำอีกครั้งในวันที่ 29 มี.ค.ที่จะถึงนี้
          พ.ต.อ.วิเชียร หัวหน้าชุดคลี่คลายคดี กล่าวว่าแม้ผู้ต้องสงสัยยังไม่เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน แต่ผลการสืบสวนในสำนวนมีความสมบูรณ์มากแล้ว เนื่องจากพบว่านอกจากคำซัดทอดถึงผู้รับซื้อแล้วยังมีรายอื่นที่เกี่ยวพันกันในหลายจังหวัด และมีเครือข่ายเชื่อมโยงในหลายพื้นที่ อีกทั้งผลการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบางคนพบว่ามีความผิดปกติ ทั้งนี้ คาดว่าจะสรุปส่งสำนวนส่งให้ดีเอสไอรับทำ เป็นคดีพิเศษในสัปดาห์หน้า ในส่วนของ ตำรวจปราบปรามยาเสพติดและป.ป.ส.ได้ติดตามผลของทางคดีแล้ว และหากพบความผิดปกติ จะยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องมาตรวจสอบเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
          ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ นายวิทยา    บุรณ ศิริ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข เดินทางลงไปตรวจสอบ รพ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และพบว่ามียาแก้หวัดซูโดอีเฟดรีนหายไป 1 แสนเม็ด ว่า โรงพยาบาลแห่งนี้อยู่ในข่ายถูกตรวจสอบอยู่แล้ว เพราะเป็น 1 ใน 10 แห่งมียอดการสั่งซื้อยาสูงสุด จึงต้องตรวจสอบดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่าเภสัชกรมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มีพฤติกรรมเหมือนกัน และเป็นรุ่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ปลัดกระทรวงสาธารณสุข จะเร่งดำเนินการสอบ สวนให้แล้วเสร็จใน 2 สัปดาห์ หากพัวพันถึงใครจะดำเนินการทันที
          ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในวันนี้จะมีคำสั่งย้ายเภสัชกร รพ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงสาธารณสุข ส่วน ผอ.รพ.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ที่ รพ.ฮอด จ.เชียงใหม่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลที่มีปัญหายาแก้หวัดประมาณ 10 แห่ง ไม่ได้หมายความว่าทุจริต เพียงแต่มีการสั่งซื้อในปริมาณที่สูงผิดปกติ และคาดว่าผู้ตรวจราชการจะใช้เวลา 2 สัปดาห์ตรวจสอบให้จบทั้งหมด
          นพ.ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของรพ.เอกชน และคลินิกบางแห่งนั้น กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะดำเนินการตรวจสอบ โดยในวันที่ 23 มี.ค. จะมีการประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับทุกจังหวัด เพื่อกำชับในเรื่องนี้ และเข้าใจว่าเรื่องเหล่านี้ไม่น่าเกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย ดังนั้น ก่อนจะดำเนินการใด ๆ จะต้องมีผลการตรวจสอบในเบื้องต้นก่อน
          เมื่อถามว่าปัญหายาแก้หวัดทำไมเกิดในโรงพยาบาลชุมชนเป็นส่วนใหญ่ นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า โรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไป จะมีกระบวนการจัดซื้อยา มีผู้เกี่ยวข้องหลายคน และประชุมกันทุกเดือนว่าจะซื้อยาตัวไหนอย่างไร แต่โรงพยาบาลชุมชนมีเภสัชกรทำหน้าที่เพียงคนเดียว ทั้งคุม และดูแลสต๊อก สั่งจ่ายยา ลองคิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
          ขณะที่ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลชุมชนส่วนใหญ่ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมักจะไม่ค่อยทราบเรื่อง คือเภสัชกรเสนอมาอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น หรือบางครั้งมีการอ้างชื่อโรงพยาบาลสั่งซื้อโดยพลการ.
 

 pageview  1210899    
สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ Health Information System Development Office (HISO)
ห้อง A3 ชั้น 3 อาคาร 4Plus Buiding เลขที่ 56/22-24 ซอยงามวงศ์วาน 4 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
Tel : 02-5892490-2 Fax : 02-5892493 www.healthinfo.in.th
 
© Health Information System Development Office (HISO) . All Rights Reserved