สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสฟังบรรยายพิเศษ หัวข้อ "คอร์รัปชั่นกับปัญหาการเมืองไทย" ของหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง รุ่นที่ 3 หรือ พตส.3 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
          มี นายกล้านรงค์ จันทิก  กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  และ พระรักเกียรติ รักขิตะธัมโม  อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย ร่วมบรรยาย
          นายกล้านรงค์ กล่าวในตอนหนึ่งว่า คนไทยไม่ยอมรับคอร์รัปชั่น ฉะนั้นการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น ควรทำกฎหมายให้เด็ดขาด  รวมทั้งต้องปลูกฝังเด็กและเยาวชนเกี่ยวกับจิตสำนึกในเรื่องของความซื่อสัตย์ สุจริต
          ขณะเดียวกัน ยังได้กล่าวตำหนิการตั้งคำถามของโพลต่าง ๆ ซึ่งถามในลักษณะบังคับให้ประชาชนต้องยอมรับในเรื่องคอร์รัปชั่น
          ส่วน พระรักเกียรติ กล่าวว่า การถูกดำเนินคดีและถูกจำคุกในคดีทุจริตยาในกระทรวงสาธารณสุข เป็นเรื่องในอดีตที่น่าอับอาย  การติดคุกหรือการกระทำความผิด ใช้ชีวิตประมาท จนชีวิตตกต่ำไม่ค่อยมีใครนำมาเปิดเผย  แต่เรื่องนี้กล้านำมาเปิดเผยเพราะหากใช้ชีวิตโดยประมาท หลงใหลอำนาจวาสนา มีความโลภโกรธหลง จะเป็นเหตุให้ชีวิตตกต่ำ
          "เรื่องนี้เป็นสัจธรรมของชีวิตอาตมาถูกดำเนินคดีคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ในอดีตมีคนทุจริตกันเยอะ แต่เอาผิดใครไม่ได้  ไปหาคนที่ถูกจับติดคุกเพราะทุจริตคอร์รัปชั่นไม่มี มีอาตมาคนเดียว สมัยก่อนนักการเมืองทุจริตก็ขึ้นศาลธรรมดา เมื่อก่อนขึ้นศาลหาหลักฐานไม่ได้ ก็หลุดจากความผิดหมด" พระรักเกียรติกล่าวและว่า
          "มีลาภเสื่อมลาภ ตอนหนีคดีต้องไปขอเงินหลานใช้ มียศเสื่อมยศ ตอนเป็นรัฐมนตรีออกทีวี มีแต่คนบอกเพื่อนผม ๆ แต่พอโดนคดีโทรฯ ไปหาเพื่อน บอกอย่าโทรฯมา กลัว ป.ป.ช. ดักฟังโทรศัพท์  สมัยก่อนคนกลัว ป.ป.ช. มาก เป็นยักษ์มีกระบอง"
          อดีตรมต.หลายสมัย  กล่าวต่อว่า คนที่รู้เรื่องการทุจริตมีมาก แต่ไม่มีใครพูดตรง ๆ รัฐบาลทุกรัฐบาลมีการจ่ายเงินเพื่อเข้าสู่อำนาจโดยผ่านการเลือกตั้ง ทั้งระดับประเทศ ท้องถิ่น ใช้การซื้อเสียง เมื่อเข้ามาแล้วก็ตอบแทนนายทุน ถอนทุนคืน และเตรียมเงินไว้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า  นี่คือวงจรอุบาทว์
          ส่วนข้าราชการมีการซื้อขายตำแหน่ง และการเข้าสู่อำนาจโดยการรัฐประหาร  การจะทุจริตต้องประกอบด้วยพ่อค้า ข้าราชการ และนักการเมือง วงจรนี้เริ่มจากพ่อค้าที่อยากได้งานของรัฐบาลก็จ่ายเงินให้นักการเมือง และเมื่อได้งานอยากได้สัญญาที่ได้เปรียบก็จ่ายเงินอีก
          บ้านเมืองเราถ้าไม่ปฏิรูปประเทศจะไปไม่รอด  ประเทศเราอยู่ล้ำหน้าหลายประเทศในเอเชีย เป็นประเทศอันดับหนึ่งในการส่งออก แต่คนไทยกลับเป็นหนี้มาก  รัฐบาลชุดไหนมาก็กู้  ถ้าปราบปรามการทุจริตไม่ได้ ปฏิรูปการเมืองไม่ได้  ในอนาคตก็จะแพ้พม่า วันนี้เราแพ้เวียดนามไปแล้ว
          ครับ คงเป็นแง่คิดเตือนใจหลาย ๆ คน
          การทุจริต คอร์รัปชั่น เป็นมะเร็งร้ายของสังคม เป็นภัยร้ายแรงของชาติ สิ่งที่พระรักเกียรติบรรยายจึงถือเป็นสัจธรรมแห่งชีวิตที่ท่านได้ประสบมาด้วยตัวเอง
          เป็นอุทาหรณ์สอนใจใครก็ตามที่คิดจะโกง ไม่เฉพาะกับนักการเมืองหรือข้าราชการ
          ฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาคอยสอดส่อง ปลูกฝังให้เด็ก ๆ และเยาวชนของเรามีจิตสำนึก เพื่ออนาคตที่ดีของประเทศ
          ยังหวังลึก ๆ ว่าสักวันหนึ่ง สังคมไทยต้องปลอดคอร์รัปชั่น.